LVMH เผยงบไตรมาสล่าสุด ยอดขายหดตัว แต่บริษัทยังมั่นใจต่ออนาคต

LVMH เผยงบไตรมาสล่าสุด ยอดขายหดตัว แต่บริษัทยังมั่นใจต่ออนาคต

LVMH เผยงบไตรมาสล่าสุด ยอดขายหดตัว แต่บริษัทยังมั่นใจต่ออนาคต
- สรุปผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2024 ของ LVMH อาณาจักรแบรนด์หรู ที่มีแบรนด์ในเครือ 75 แบรนด์ เช่น Louis Vuitton, Dior, Fendi, Celine, Tiffany, Bulgari, Loewe, TAG Heuer, Sephora, Loro Piana, Rimowa
- ไตรมาส 3 ปี 2024
บริษัทมีรายได้ 691,200 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ซึ่งรายได้ที่บริษัททำได้นั้น น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

รายได้ที่ลดลงนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตที่ชะลอตัวลงในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับผลกระทบจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น
กับยอดขายที่หดตัวลง ของประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ที่ยังหดตัวต่อเนื่อง ซึ่งไตรมาสนี้ -16%
ในขณะที่ทวีปยุโรป มีการเติบโตเล็กน้อย และสหรัฐฯ ทรงตัว
- 9 เดือนแรกปี 2024
บริษัทมีรายได้ 2,201,400 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ภาพรวมช่วง 9 เดือนนี้ ยุโรปและสหรัฐฯ มีการเติบโตขึ้นเล็กน้อย
ส่วนญี่ปุ่น มีการเติบโตเป็นเลขสองหลัก (+36%) อานิสงส์นักท่องเที่ยวเดินทางไปช็อปปิงที่ญี่ปุ่น
ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย มียอดขายหดตัว (-12%)

- ผลประกอบการตามกลุ่มธุรกิจ ช่วง 9 เดือนแรกปี 2024
1. ไวน์และสุรา (สัดส่วนรายได้ 7%) มีรายได้ลดลง 8%
โดยแชมเปญ มียอดขายลดลง และแบรนด์ Hennessy ได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ชะลอตัวในจีน
2. แฟชั่นและเครื่องหนัง (สัดส่วนรายได้ 49%) รายได้ลดลง 1%
แบรนด์ Louis Vuitton และ Dior ยังคงได้รับความสนใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน จากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส 2024
แบรนด์อื่น ๆ อย่าง Loro Piana, Loewe และ Rimowa มีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
3. น้ำหอมและเครื่องสำอาง (สัดส่วนรายได้ 10%) รายได้เพิ่มขึ้น 5%
Dior มียอดขายที่แข็งแกร่ง โดยน้ำหอม Sauvage ยังคงเติบโต และรักษาตำแหน่งน้ำหอมอันดับ 1 ของโลก
น้ำหอม Miss Dior Parfum รุ่นใหม่ ได้ผลตอบรับที่ดี
ส่วนผลิตภัณฑ์เมกอัปและสกินแคร์ระดับพรีเมียม ก็มีส่วนสำคัญต่อการผลักดันยอดขายของแบรนด์
สำหรับแบรนด์อื่น ๆ
Guerlain เติบโตในกลุ่มน้ำหอม
Givenchy ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากน้ำหอม L'Interdit Absolu ใหม่
Fenty Beauty ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมใหม่ และขยายการจำหน่ายในประเทศจีน
4. นาฬิกาและเครื่องประดับ (สัดส่วนรายได้ 12%) รายได้ลดลง 3%
กลุ่มนี้ก็คือแบรนด์ Tiffany, Bulgari, Chaumet
5. ค้าปลีกเฉพาะทาง เช่น ร้าน Sephora (สัดส่วนรายได้ 21%) รายได้เพิ่มขึ้น 6%
โดย Sephora มีผลประกอบการที่โดดเด่น และได้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และตะวันออกกลาง
6. รายได้อื่น ๆ 1%
- มุมมองในอนาคตของ LVMH
บริษัทบอกว่า แม้จะเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
บริษัทยังคงมั่นใจต่ออนาคต โดยเน้นที่กลยุทธ์หลักอย่าง การเสริมสร้างแบรนด์ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความเป็นเลิศในการจัดจำหน่าย และการบริหารจัดการที่คล่องตัว
ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสินค้าแบรนด์หรู ต่อไปได้..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon