หุ้น DELTA ประเด็นใหญ่ ของวงการตลาดทุนไทย ในตอนนี้
หุ้น DELTA ประเด็นใหญ่ ของวงการตลาดทุนไทย ในตอนนี้ /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า หุ้นมูลค่ามากสุด ในประเทศไทย คือบริษัทอะไร ?
คำตอบที่ได้ หลายคนอาจยังไม่รู้
นั่นก็คือ หุ้น DELTA ที่ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท 1,940,000 ล้านบาท
ถ้าถามว่า หุ้นมูลค่ามากสุด ในประเทศไทย คือบริษัทอะไร ?
คำตอบที่ได้ หลายคนอาจยังไม่รู้
นั่นก็คือ หุ้น DELTA ที่ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท 1,940,000 ล้านบาท
แล้วรู้หรือไม่ว่า หุ้นที่ใหญ่สุดนี้ ปรับตัวขึ้นมา มากถึง 3,200% หรือ 33 เด้ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ตอนนี้ DELTA มีมูลค่ามากกว่าบริษัทอันดับ 2 และ 3 ที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง
- PTT มูลค่า 957,000 ล้านบาท
- AOT มูลค่า 882,000 ล้านบาท
- PTT มูลค่า 957,000 ล้านบาท
- AOT มูลค่า 882,000 ล้านบาท
แม้จะรวมมูลค่าของ PTT และ AOT เข้าด้วยกัน
ก็ได้เพียง 1,839,000 ล้านบาท น้อยกว่ามูลค่าของ DELTA เสียอีก
ก็ได้เพียง 1,839,000 ล้านบาท น้อยกว่ามูลค่าของ DELTA เสียอีก
คำถามต่อมาก็คือ ทำไม DELTA มีมูลค่ามากขึ้นเร็วและแรงขนาดนี้
เรื่องแรกก็คือ “บริษัทกำไรเติบโต”
เรื่องแรกก็คือ “บริษัทกำไรเติบโต”
หุ้น DELTA เป็นบริษัทลูกจากเครือบริษัทไต้หวัน ทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เติบโตตามเทรนด์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของโลก
ปี 2563 กำไร 7,102 ล้านบาท
ปี 2564 กำไร 6,699 ล้านบาท
ปี 2565 กำไร 15,345 ล้านบาท
ปี 2566 กำไร 18,423 ล้านบาท
ปี 2564 กำไร 6,699 ล้านบาท
ปี 2565 กำไร 15,345 ล้านบาท
ปี 2566 กำไร 18,423 ล้านบาท
9 เดือนแรก ปี 2567 กำไร 16,783 ล้านบาท
แม้ดูเหมือนกำไรจะเติบโตจริง แต่มูลค่าบริษัท DELTA เพิ่มขึ้นมากกว่า จนตอนนี้ P/E ขึ้นไปซื้อขายกันอยู่ที่ สูงถึง 90 เท่า..
หมายความว่า ถ้ากำไรเท่าเดิม 90 ปีจะคืนราคาที่จ่ายไป
ถ้าถามว่า อะไรเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ?
คำตอบที่ได้ก็คือ “บริษัทนี้มี Free Float ต่ำ”
Free Float คือสัดส่วนการถือครองของผู้ถือหุ้นรายย่อย อธิบายง่าย ๆ ก็คือ บริษัทมีหุ้นให้ซื้อขายเหลืออยู่น้อยนิด เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด
DELTA มี Free Float 23.08% ซึ่งระดับขนาดนี้จะมีแนวโน้มที่จะถูกนักลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ต้อนราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ให้จนมุม ซึ่งศัพท์ในภาษาการเงิน เราเรียกกันว่า “คอร์เนอร์”
ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นหลายตัวเหมือนกัน
ที่เข้าข่ายว่าถูกคอร์เนอร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นหุ้นขนาดเล็ก
ที่เข้าข่ายว่าถูกคอร์เนอร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นหุ้นขนาดเล็ก
แต่พอมาเป็น DELTA ที่ตอนนี้ เรียกได้ว่ามีมูลค่ามากสุดในประเทศไทย
ความเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัทนี้ จึงมีผลต่อ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา หรือ SET มากตามไปด้วย
ความเคลื่อนไหวของหุ้นบริษัทนี้ จึงมีผลต่อ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา หรือ SET มากตามไปด้วย
ตัวอย่างเช่น ในวันนี้
ตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) +2.87 จุด ในครึ่งเช้า
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เป็นผลมาจากหุ้น DELTA +6.7% ที่กระทบต่อ SET ซึ่งถ้า DELTA ไม่ได้บวกเยอะ ก็แปลว่า SET INDEX จะติดลบ
ตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) +2.87 จุด ในครึ่งเช้า
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เป็นผลมาจากหุ้น DELTA +6.7% ที่กระทบต่อ SET ซึ่งถ้า DELTA ไม่ได้บวกเยอะ ก็แปลว่า SET INDEX จะติดลบ
แล้วถ้าถามว่า ใช้เงินเท่าไร ?
คำตอบก็คือ ครึ่งเช้า DELTA มีมูลค่าการซื้อขาย 3,700 ล้านบาท (ตลอดทั้งวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขาย 5,900 ล้านบาท)
แต่สามารถสร้าง Impact ต่อ SET ที่มีมูลค่าบริษัทรวมกัน 18,000,000 ล้านบาท ให้บิดเบือนจากที่ควรจะติดลบ ให้กลายเป็นบวกได้
คำตอบก็คือ ครึ่งเช้า DELTA มีมูลค่าการซื้อขาย 3,700 ล้านบาท (ตลอดทั้งวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขาย 5,900 ล้านบาท)
แต่สามารถสร้าง Impact ต่อ SET ที่มีมูลค่าบริษัทรวมกัน 18,000,000 ล้านบาท ให้บิดเบือนจากที่ควรจะติดลบ ให้กลายเป็นบวกได้
ในขณะที่ช่วงเย็นวันนี้ แม้ตลาดจะถูกเทขายหนัก จน SET -14 จุด แต่ถ้าไม่ได้ DELTA ที่ปิด +4.7% ช่วยแบกตลาดเอาไว้ถึง 7 จุด SET ก็คงลงหนักกว่านี้ ลงไปถึง -21 จุด..
แล้วเรื่องนี้รายใหญ่ทำอะไรได้อีก
เรื่องนี้ จึงทำให้เกิดประเด็นที่ว่า เพียงแค่รายใหญ่กลุ่มหนึ่ง
มาคอร์เนอร์ ซื้อหรือขายราคาหุ้น DELTA เพียงตัวเดียว ก็จะสามารถ ไปหาผลตอบแทนจากผลิตภัณฑ์ที่ผูกกับดัชนีตลาดหุ้น อย่าง SET50 Index Futures ทั้งขาขึ้น ขาลงได้อีกต่อ ไปในตัว โดยผลิตภัณฑ์นี้มีอัตราทดที่สูงโดยไม่ต้องวางเงินมากอีกด้วย..
มาคอร์เนอร์ ซื้อหรือขายราคาหุ้น DELTA เพียงตัวเดียว ก็จะสามารถ ไปหาผลตอบแทนจากผลิตภัณฑ์ที่ผูกกับดัชนีตลาดหุ้น อย่าง SET50 Index Futures ทั้งขาขึ้น ขาลงได้อีกต่อ ไปในตัว โดยผลิตภัณฑ์นี้มีอัตราทดที่สูงโดยไม่ต้องวางเงินมากอีกด้วย..
สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นประเด็นใหญ่ที่สุดของวงการตลาดทุนไทยในช่วงนี้
ที่ดูเหมือนว่าผู้กำกับดูแล ก็ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
ที่ดูเหมือนว่าผู้กำกับดูแล ก็ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
จะบีบให้ DELTA ออกจาก SET หรือ SET50 ไม่ต้องเอามาคำนวณในดัชนี ก็ดูจะเป็นความลำเอียง
แต่ถ้าปล่อยไว้ต่อไปให้ DELTA สามารถบิดเบือนตลาดหุ้นไทยโดยรวมไปเรื่อย ๆ ได้
ลองจินตนาการดูว่า
ลองจินตนาการดูว่า
ถ้าราคา DELTA ขึ้นไปมากกว่านี้อีกเท่าตัว แค่ DELTA บริษัทเดียวก็ครองสัดส่วนเป็นถึง 20% ของตลาดโดยรวม โดยที่บริษัทนี้มีบริษัทแม่เป็นสัญชาติไต้หวัน
นึกตัวอย่างเล่น ๆ ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นจริงว่า
ถ้ามีขบวนการสร้างข่าวร้ายของบริษัทนี้ แล้วระหว่างนั้นก็ Short SET50 Index Futures ไปด้วย คงจะทำกำไรได้ไม่น้อยจากเรื่องแบบนี้
ซึ่งมันก็เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้กับหุ้นตัวอื่น ๆ ในตลาดหุ้นไทยมาแล้ว ที่ได้กำไรเยอะจากการ Short หุ้น
แต่คราวนี้เอาหุ้นตัวเดียวมาลากทั้งตลาดหุ้นไทย คงเป็นเรื่องราวที่น่าจะแปลกไม่น้อย
เรื่องราวแปลก ๆ นี้ ไม่รู้ว่ามันจะทำลายความน่าเชื่อถือของวงการตลาดทุนไทยหรือไม่
แต่อย่างน้อยเคสนี้ก็คงจะกลายเป็นเรื่องพูดคุยสนุกปากของนักลงทุนไทย และนักลงทุนทั่วโลก หัวข้อหนึ่งเลยทีเดียว..
แต่อย่างน้อยเคสนี้ก็คงจะกลายเป็นเรื่องพูดคุยสนุกปากของนักลงทุนไทย และนักลงทุนทั่วโลก หัวข้อหนึ่งเลยทีเดียว..
หมายเหตุ : โพสต์นี้เพียงนำเสนอข้อมูล มิได้แนะนำให้ซื้อหรือขายหุ้นแต่อย่างใด
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน