รู้จัก Coraline บริษัท Deep Tech สัญชาติไทย ที่ขาย License ตัวเองทั้ง Consulting Firm และ Developer

รู้จัก Coraline บริษัท Deep Tech สัญชาติไทย ที่ขาย License ตัวเองทั้ง Consulting Firm และ Developer

Coraline x ลงทุนแมน
ปี 2560 Coraline ถูกก่อตั้ง โดยผู้หญิงที่มีชื่อว่า ดร.อสมา กุลวานิชไชยนันท์ หรือ ดร.แป้ง
เด็กนักเรียนทุนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในสาขา Optimization and Machine Learning
ในช่วงวัยเรียนที่สหรัฐอเมริกา ดร.แป้ง ได้ตรวจเจอรูรั่วที่ผนังหัวใจด้วยวิธี Digital X-ray โดยบังเอิญ
ซึ่งในตอนนั้น ประเทศไทยยังไม่มี Digital X-ray เลย
จึงมองเห็นว่า ความเหลื่อมล้ำด้านเทคโนโลยี ทำให้เกิดช่องว่างด้านคุณภาพชีวิต
และกลายเป็นเป้าหมายที่ ดร.แป้ง ต้องการกลับไทย เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ
ผ่านมา 7 ปี ปัจจุบัน Coraline หรือ บริษัท คอราไลน์ จำกัด เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
โดยในปี 2566 รายได้เติบโตกว่า 300% จากปี 2565
ซึ่งเป็นผลมาจากในปี 2566 ที่ผ่านมามีปริมาณโครงการมากขึ้นตามความต้องการของตลาด และมี Maintenance Service Agreement (MA) ต่อเนื่องหลายโครงการ
เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัท Tech สัญชาติไทย ที่มีชื่อว่า Coraline คืออะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในช่วงที่ ดร.แป้ง เดินทางกลับมาประเทศไทยใหม่ ๆ
ส่วนใหญ่บัณฑิตด้านเทคโนโลยีในไทย มักทำงานสายธนาคาร หรือองค์กรใหญ่ ๆ ซึ่งไม่ใช่บริษัทด้าน Technology โดยตรง
ประกอบกับ ส่วนใหญ่องค์กรไทย มักจะใช้ระบบสำเร็จรูปจากต่างประเทศเป็นหลัก
ซึ่งหลังจาก ดร.แป้ง ทำงานธนาคารได้ 3 ปี ก็เป็นช่วงเทรนด์ Data Science กำลังมาแรง
ดร.แป้ง จึงก่อตั้ง Coraline ขึ้นมา เพื่อให้บริการด้าน Data Science
และต่อยอดมาเป็น Data Management, Data Governance และ AI Governance ในที่สุด
รู้หรือไม่ว่า บริการของ Coraline ตอบโจทย์ฐานลูกค้าองค์กรอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น
- โครงการ Data-Driven Transformation บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน)
- Automated Dashboard หรือ ระบบบริหารข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์การให้บริการ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
- ระบบวิเคราะห์สถานที่ให้บริการน้ำมัน และร้านกาแฟ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
- ระบบบริหารข้อมูล ของไปรษณีย์ไทย
แม้ว่าจะผ่านโครงการ Big Data, AI และ Data Governance ขององค์กรชั้นนำมากมาย
แต่ ดร.แป้ง ยังเห็นช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีของกลุ่ม SME จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน Data และ AI ขึ้นมา เพื่อตอบสนองตลาด
โดยหลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
Coraline ตั้งเป้าว่ารายได้จากผลิตภัณฑ์ จะแซงหน้าบริการพัฒนาระบบ Turn-Key ภายใน 10 ปีให้ได้
แล้วจุดเด่นของ Coraline คืออะไร ?
Coraline ต่างจาก Startup ทั่วไปตรงที่ไม่ได้มีบริการเดียว หรือเพียงผลิตภัณฑ์เดียว
แต่จะให้บริการ และมี License ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของตัวเอง เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นบริษัท Deep Tech สัญชาติไทย อย่างแท้จริง
ตัวอย่างบริการหลายหลาก เช่น
- Data-Driven Transformation ทั้งการพัฒนาบุคลากร, การปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน, การวิเคราะห์ปัญหาขององค์กร และการวาง Roadmap
- Data Management พัฒนาระบบบริหารข้อมูลขนาดใหญ่
- Data Analytics โดยใช้ศาสตร์ Data Science และ Machine Learning
- AI Implementation ทั้ง Generative AI และ Traditional AI
- Data Governance วางนโยบายด้านการกำกับดูแลข้อมูล, ร่างมาตรฐาน และกระบวนการในองค์กร พร้อมติดตั้งโปรแกรม Data Catalog
- AI Governance วางนโยบายด้านการกำกับดูแลการใช้งาน AI ภายในองค์กร, มีการประเมินความเสี่ยง
และกำหนดบทบาทหน้าที่สำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ AI โดยใช้ Framework ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Coraline
- Dart ระบบ Automated Dashboard เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการขาย, พฤติกรรมลูกค้า และบริหารจัดการ Stock
- AutoGov ทำหน้าที่เป็น Data Catalog พร้อมระบบ Data Request สำหรับโครงการ Data Governance
- HR AI Assistant ตัวช่วยในการถาม-ตอบเกี่ยวกับกระบวนการ HR ภายในองค์กร
นอกจากนี้ Coraline ยังมีลิขสิทธิ์ในองค์ความรู้ เช่น Data Canvas และ AI Risk Canvas ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล
เพื่อสอดรับการพัฒนาโครงการ Big Data และ AI ที่มีความต้องการในตลาดสูงในตอนนี้อีกด้วย
ที่น่าสนใจคือ Coraline ยังลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง..
โดยล่าสุดก็คือ ผลิตภัณฑ์ Dart ตัวช่วยในการดูพฤติกรรมการขาย, พฤติกรรมลูกค้า และบริหารจัดการ Stock โดยใช้หลักการ Data Science และ AI เป็น Automated Dashboard
ซึ่ง Dart มีกลุ่มลูกค้าหลักคือ SME และผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ไม่มีแผนก IT และ Data Analyst Team
จุดเด่นของ Dart คือ รูปแบบบริการ Subscription ตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ต้องการลงทุนด้านเทคโนโลยีก้อนใหญ่ แต่ต้องการมีผู้ดูแลระบบ โดยไม่ต้องจ้าง IT แบบ In-house นั่นเอง
ถึงตรงนี้ ถ้าถามว่า ดร.แป้ง ทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร ?
คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ดร.แป้ง ต้องการให้ Coraline เป็นบริษัทที่คนไทยรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้ชื่อว่าเป็นบริษัท Tech สัญชาติไทย
ที่เป็นผู้พัฒนาทั้งบริการ และผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ
ซึ่งในอนาคต ดร.แป้ง วางแผนไว้ว่าจะเข้าระดมทุนในตลาดภายใน 5 ปี อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
ดร.แป้ง คือผู้เขียนหนังสือ Big Data Series I, II, III, หนังสือ AI ไม่ใช่แค่คำกล่าวลอย ๆ, หนังสือ
Road to Data-Driven Organizations และหนังสือ Data Governance in Action
ทั้งหมดขายรวมกว่า 40,000 เล่ม
โดยหลักการแล้ว Coraline จะเป็นแหล่งรวม Innovators ในแผนกต่าง ๆ เช่น Software Engineer, Data
Engineer, AI Engineer และ Data Scientist เป็นต้น
ซึ่งการทำงานที่หลากหลาย จะทำให้ทีมนักพัฒนามีโอกาสได้ทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ
และการที่องค์กรมีนักพัฒนาในสาขาต่าง ๆ ก็จะทำให้สามารถจัดสรรทีมงาน เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ต่อไปได้
เรียกได้ว่าเป็นการใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้ายแล้วเมื่อบริษัทเน้นไปที่การสร้าง Value ก็จะทำให้นักพัฒนาในบริษัทมีโอกาสได้สร้างสรรค์งานจริง ๆ
ที่ไม่ใช่แค่ซื้อ License มาติดตั้งอีกต่อไป นั่นเอง..
#Coraline #BigData #AI #AIGovernance #DataDrivenTransformation #DataGovernance
#DataManagement #DataAnalytics #DART
References
-https://datawarehouse.dbd.go.th/company/profile/TJsBQ5y_Ydx64sFyztG0Hxr2uGCkjeB-MzSw859rcOgqA12KnO9aMI5s3geL4wDu
-ข้อมูลเปิดเผยจากบริษัท คอราไลน์ จำกัด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon