LiB Consulting ที่ปรึกษาสัญชาติญี่ปุ่น ที่จะติดปีกธุรกิจไทย ยั่งยืนสู่ 100 ปีข้างหน้า
LiB Consulting x ลงทุนแมน

รายได้ตัน ไม่เข้าเป้า ตลาดเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม หรือธุรกิจอิ่มตัว
น่าจะเป็นปัญหาหลัก ๆ ในการปรับตัวของธุรกิจไทยยุคนี้

ซึ่งคงจะดีไม่น้อย หากธุรกิจไทยสามารถดึงประสบการณ์จากญี่ปุ่นที่ผ่านปัญหาเหล่านี้มาก่อน
มาประยุกต์ใช้ให้เข้าสถานการณ์ได้เลย

หนึ่งในผู้ที่จะมาขยายมุมมองนี้ได้คือ คุณศรา จงบัญญัติเจริญ Managing Director ของ LiB Consulting (Thailand)
ที่ปรึกษาด้าน Management Consulting ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ที่วันนี้กำลังเข้ามาให้คำแนะนำธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น

คุณศรา มองเห็นอะไร ในสถานการณ์ธุรกิจไทยตอนนี้ ?
แล้ว LiB Consulting (Thailand) จะช่วยเหลือธุรกิจไทยได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..

เดิมที LiB Consulting ในญี่ปุ่น ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยแนวคิดที่ต้องการจะช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ
ที่เชื่อว่า ยิ่งเติบโต ก็จะยิ่งดีต่อสังคมและประเทศในแง่มุมต่าง ๆ

สถานการณ์ของไทยในตอนนี้มีอะไรหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น

คุณศรา ยกตัวอย่างง่าย ๆ ว่า..

“ก่อนหน้านี้ ธุรกิจ OEM เติบโตโดยเน้นต้นทุนที่ต่ำกว่า ซึ่งคงสู้จีนไม่ได้แล้วในตอนนี้
หรืออีกหนึ่งกลุ่มใหญ่ ๆ เลยก็คือ ธุรกิจที่รู้แล้วว่า ตลาดสินค้าเราอิ่มตัว มันจะโตไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ที่น่ากลัวเลยก็คือ ธุรกิจที่อยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง”

สิ่งเหล่านี้ กำลังขยายตัวในภาคธุรกิจบ้านเรามากขึ้น
และหนึ่งในวิธีรับมือของภาคธุรกิจของไทยก็คือ Consulting Firm ที่จะมาเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้

คุณศรา เล่าว่า “ปัจจุบันนี้ ภาพรวมธุรกิจที่ปรึกษาบ้านเราจะแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ คือ

กลุ่ม IT Solution ที่มีตัวช่วยเป็นเทคโนโลยีเฉพาะส่วน ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น
แต่อาจจะลืมมองภาพรวมถึงประสิทธิภาพสูงสุดของกระบวนการทำงานทั้งระบบไป

หรืออย่างกลุ่ม Market Research ที่ช่วยในด้านกลยุทธ์ธุรกิจ การวางแผนธุรกิจต่าง ๆ
แต่อาจจะขาดการช่วยเหลือด้าน Operation ทำให้เวลาธุรกิจลงมือภาคสนามจริง เป็นไปได้ลำบาก

ส่วนกลุ่ม Management Consulting firm ที่มีทั้งบริษัทนานาชาติ และบริษัทไทย แต่บริษัทที่ใช้บริการ ก็มักจะมีแต่บริษัทระดับใหญ่มาก ๆ เท่านั้น”

พูดง่าย ๆ ว่า ช่องว่างในตลาด Consulting Firm นี่เอง
กลายมาเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ LiB Consulting มองเห็น และเลือกเข้ามาให้บริการในบ้านเรา

ด้วยจุดยืนที่ต้องการจะก้าวข้ามคำว่า “ที่ปรึกษา”
มาเป็น “เพื่อนช่วยคิด และเพื่อนช่วยทำ”

คุณศรา เล่าต่อมาว่า “จุดยืนที่จะทำให้ LiB Consulting แข็งแกร่งครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ

- Wisdom
องค์ความรู้จากการช่วยเหลือบริษัททั่วโลกหลักหมื่นโครงการ
ทั้งจากบริษัท International, บริษัท Family Business, บริษัทมหาชน ฯลฯ

- People
บุคลากรเชี่ยวชาญระดับหัวกะทิ เช่น คนไทยที่เคยได้รางวัลโอลิมปิกวิชาการ, ได้รับทุนการศึกษาต่างประเทศ
รวมทั้งคนญี่ปุ่นที่เป็น Advisor ให้กับรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นต้น

- Purpose
ที่ต้องการให้ธุรกิจของไทยยั่งยืน มีความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก
ไม่ใช่แค่การทำกำไรให้ได้มากที่สุดในระยะสั้น

ซึ่งจุดยืนทั้งหมดนี้ ทำให้ผลตอบรับจากฐานลูกค้า LiB Consulting เป็นไปได้ดีเลย
โดยสัดส่วน 70% เป็นบริษัทญี่ปุ่นระดับนานาชาติ
และอีก 30% เป็นบริษัทไทยที่มีตั้งแต่ระดับมหาชน ไปจนถึงระดับธุรกิจครอบครัวที่ต้องการจะเข้าตลาดทุน หรือไม่มีแผนจะเข้าตลาดทุน”

สิ่งที่น่าจับตามองก็คือ 2 บริการของ LiB Consulting ที่กำลังตอบโจทย์ภาคธุรกิจไทย นั่นคือ

- การเพิ่มรายได้ธุรกิจ ด้วย New Business Development
- การลดต้นทุนธุรกิจ ด้วย Smart Manufacturing

แล้ว LiB Consulting เข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจไทยอย่างไร ?

เริ่มต้นด้วยการเพิ่มรายได้ธุรกิจด้วย New Business Development

คุณศรา เล่าว่า “ธุรกิจไม่น้อยกำลังประสบปัญหารายได้ตันไม่เข้าเป้า
ภาวะอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงจนปรับตัวไม่ทัน
มากไปกว่านั้นคือ การบริหารความเสี่ยงภาพรวมธุรกิจ ที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

สาเหตุหลักมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจสิ่งใหม่ ๆ รวมทั้งขาดบุคลากรทำงานทักษะใหม่ ๆ
หลายบริษัทลองทำเอง ก็พบว่าใช้เวลานานเกินไป และใช้ต้นทุนมากเกินไป”

จุดนี้เองคือหน้าที่ของ LiB Consulting ที่เข้าไปเติมเต็มให้กับภาคธุรกิจ
ทั้งในแง่ของฐานข้อมูล Database ที่มีคุณภาพจากญี่ปุ่น ประกอบกับบุคลากรผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ที่สำคัญคือ ความเร็ว ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำงานแบบมืออาชีพ

คุณศรา เล่าต่อมาว่า “จุดเริ่มต้นที่ดีต้องมาจาก Business Principle เพื่อให้เป้าหมายของทุกคนตรงกัน
จากนั้นจะเข้าสู่ Methodology แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนหลักคือ

- Ideation รวบรวมไอเดียธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจในทุกมิติ
- Validation ศึกษาความเป็นไปได้ ทดสอบจริง คัดเลือกไอเดียที่มีโอกาส
- Efficiency เจาะรายละเอียดโมเดล ทำยังไงให้ Operation มีประสิทธิภาพมาก
- Scaling การขยายแผนธุรกิจสร้างการเติบโต

ซึ่งจะใช้ Generative AI เข้ามาทำงานในส่วน Ideation ด้วย
เพื่อรวบรวมไอเดียทางธุรกิจให้ได้มากที่สุด หลากหลายที่สุด และใช้เวลาสั้นที่สุด
ก่อนจะเป็นหน้าที่ของมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ มาดูแลต่อไป

ส่วนการวัดผลความสำเร็จแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ตัวชี้วัดนำ (Leading Indicator) และ ตัวชี้วัดตาม (Lagging Indicator)
เช่น ขั้นตอน Ideation อาจจะวัดเป็นจำนวนไอเดียที่ใช้งานได้จริง, ขั้นตอน Scaling วัดกันที่ยอดขายจริง

ซึ่งนอกจากลักษณะบริการของ LiB Consulting จะออกมาในรูปแบบ Project แล้ว
ธุรกิจจำนวนไม่น้อย ยังต้องการบริการในลักษณะ Advisory จากสาเหตุหลายส่วน เช่น

- พนักงานประจำอาจไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความ Agile ของธุรกิจใหม่ที่จำเป็นต้องมี Speed ในการดำเนินงาน

- สภาพจิตใจ ที่ไม่สามารถรองรับการตัดสินใจในความไม่แน่นอน ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบหากธุรกิจใหม่ไม่สามารถเป็นไปตามแผนที่วางไว้

มากไปกว่านั้น ยังมีลักษณะบริการ Profit Sharing สะท้อนความสำเร็จของยอดขายได้จริง
ถ้าว่า Productivity หรือธุรกิจมียอดขายเท่านี้ ถึงแบ่งกำไรมาให้ LiB Consulting ด้วย”

ถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า กระบวนการเพิ่มรายได้ธุรกิจด้วย New Business Development ถือว่าครอบคลุมบริการได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

ทีนี้ ลองมาดูในฝั่งลดต้นทุนธุรกิจ ด้วย Smart Manufacturing กันบ้าง..

ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือ การผลิตสินค้าคุณภาพเดิม หรือให้ดีกว่าเดิม
ด้วยกระบวนการผลิตที่ต้องเร็วกว่าเดิม ในต้นทุนที่ต่ำลง

หลายธุรกิจหาทางออก ด้วยการลงทุนเทคโนโลยี แต่กลับไม่ตอบโจทย์ธุรกิจทั้งในด้านต้นทุน และกำลังคน

คุณศรา เล่าว่า “ความจริงแล้ว Smart Manufacturing ไม่จำเป็นต้อง Smart ทั้ง 100% เพราะมักจะมี Cost ที่อาจจะไม่คุ้มทุนซ่อนอยู่ก็ได้

สิ่งที่ LiB Consulting ทำคือการขยายมุมมองทั้ง Process, Policy และ Organization ให้ครอบคลุมก่อน
แล้วค่อยเอา Technology ที่จำเป็นเข้ามาช่วยในแต่ละองค์ประกอบ

ซึ่งสิ่งที่ได้เปรียบคือ เราเป็น Consulting Firm ที่ไม่ได้มี Technology ของตนเอง
ทำให้เราวางตัวเป็น Partner ช่วยลูกค้าทำ Smart Manufacturing ทั้งกระบวนการทำงานได้จริง ๆ ไม่ได้อยากจะปรับเพื่อที่จะขายโปรแกรมอะไรของตนเอง

อย่างในขั้นตอน IT vendor หรือคนที่จะเข้ามาทำระบบให้กับลูกค้า
เราจะช่วยใน Process คัดเลือกตรงนี้ด้วย เพื่อให้ได้เจ้าที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจของลูกค้ามากที่สุด
ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโจทย์จนคำตอบที่ได้ไม่ตอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น

ที่สำคัญเลยก็คือ LiB Consulting มี Specialist ที่คอยดูภาพรวมทั้งกระบวนการให้กับลูกค้า ไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะส่วนของกระบวนการนั้น ๆ”

แน่นอนว่า เมื่อกระบวนการทำงานของ LiB Consulting ถูกที่ถูกทาง
ผลลัพธ์จึงออกมาแล้วประทับใจลูกค้าเป็นอย่างมาก

เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุนได้จริง เช่น ค่า Operation ต่าง ๆ

ทางฝั่งผู้บริหารธุรกิจเอง ก็ได้รับประโยชน์อย่างมากจากฐานข้อมูลที่ชัดเจน ข้อมูลที่เร็วขึ้น
และส่งผลต่อการตัดสินใจทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ถึงตรงนี้สังเกตไหมว่า คุณศรา มีความเข้าใจและมองสถานการณ์ภาคธุรกิจไทยได้แตก ทีเดียว

ซึ่งเบื้องหลังทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
หากเขาขาดประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการ New Business Development และ Growth Strategy ที่มาจากญี่ปุ่นกว่า 2-3 ปี และในไทยกว่า 7-8 ปี

สุดท้ายนี้ ถ้าถามว่าอะไรคือเป้าหมายในประเทศไทยที่ คุณศรา ตั้งใจจะก้าวต่อไปในอนาคต ?

คุณศรา ตอบทิ้งท้ายไว้ว่า..

“LiB Consulting ต้องการจะเป็น Top 3 ใน Consulting Firm ที่บริษัทไทยนึกถึง
ด้วยจุดยืนตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งบริษัทคือ การช่วยเหลือให้ธุรกิจที่ดีต่อสังคม สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้

อีกหนึ่งเป้าหมายคือ การเป็น Top 5 บริษัทที่คนไทยทั่วโลกอยากทำงานด้วยมากที่สุด
จากประสบการณ์ที่อยู่ต่างประเทศกว่า 10 ปี คนไทยไม่น้อยอยากกลับมาช่วยเหลือประเทศไทย เพียงแต่บริษัทที่เปิดโอกาสให้เขากลับมา ยังมีจำนวนไม่มากพอ

LiB Consulting เลยต้องการจะเป็นที่ปรึกษาที่ช่วยติดปีกธุรกิจไทยให้ยั่งยืนสู่ 100 ปีข้างหน้า
และเป็นสถานที่ทำงานของบุคลากรไทย ที่มีความสามารถไม่แพ้ใครเลย”

Reference
- สัมภาษณ์โดยตรง คุณศรา จงบัญญัติเจริญ Managing Director ของ LiB Consulting (Thailand) โดยลงทุนแมน