GC ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนครั้งแรก ในรอบ 10 ปี ของกลุ่ม ปตท.
GC x ลงทุนแมน

14 ล้านตันต่อปี คือกำลังการผลิตปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ของ GC หรือก็คือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทเรือธงของกลุ่ม ปตท.

GC ยังเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่มีกำลังการผลิตปิโตรเคมีครบวงจรชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ ล่าสุด GC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนเป็นครั้งแรก

ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ A+(tha) จากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567
และอันดับความน่าเชื่อถือของ GC ที่ระดับ AA(tha) แนวโน้ม “มีเสถียรภาพ” เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567

พูดได้ว่า GC มีอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนสูงที่สุด เมื่อเทียบกับหุ้นกู้ประเภทนี้ในปัจจุบัน

ที่สำคัญ ครั้งนี้ยังเป็นการออกหุ้นกู้ประเภทนี้ของไทยในรอบ 10 ปี จากกลุ่ม ปตท. อีกด้วย

เรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

จริง ๆ แล้ว ในช่วงตุลาคม - พฤศจิกายน 2567 นี้
มีหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนครบกำหนดถึง 4 รุ่น มูลค่ารวมกว่า 39,000 ล้านบาท
ซึ่งบางบริษัทได้แจ้งใช้สิทธิขอไถ่ถอนล่วงหน้าแล้ว
บางบริษัทอยู่ระหว่างการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนชุดใหม่ทดแทนชุดเดิม

แน่นอนว่า หลายคนคงรู้สึกเสียดายดอกเบี้ยที่เคยได้รับจากโอกาสข้างต้น
แต่จุดนี้เองคือ โอกาสใหม่ ๆ จากการลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของ GC
ที่จะช่วยล็อกผลตอบแทน ก่อนที่จะเข้าสู่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา GC สร้างศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ภายใต้กลยุทธ์ 3 Step Plus คือ

- กลยุทธ์ Step Out สร้างการเติบโตในประเทศ และต่างประเทศ
- กลยุทธ์ Step Up สร้างความยั่งยืนทางธุรกิจให้กับ GC ภายใต้กรอบของ ESG พร้อมเป้าหมาย Net Zero Target
- กลยุทธ์ Step Change ยกระดับความสามารถในการแข่งขันและการรักษาฐานทางธุรกิจของ GC

ทั้งหมดนี้เพื่อให้ GC เป็น Hub ของธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท. ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมต่อยอดเป็นธุรกิจแห่งอนาคต

ซึ่งการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ ก็เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และช่วยลดภาระหนี้เงินกู้ของ GC นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วในทางบัญชี หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ จะนับเป็นส่วนทุน 100% ในงบแสดงฐานะการเงินตลอดอายุหุ้นกู้
แต่ในการวิเคราะห์หรือการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ทางบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) จะพิจารณาหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ แตกต่างกันออกไป

เช่น บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือนับมูลค่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ที่ออกได้เป็นส่วนของทุน 50%
และเป็นส่วนหนี้สิน 50%

ถ้าผู้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ สามารถออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ได้จำนวน 1,000 ล้านบาท
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะนับเป็นส่วนของทุนให้ 500 ล้านบาท
และนับเป็นหนี้สิน 500 ล้านบาท ในขั้นตอนพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือ

ทีนี้ย้อนกลับมาที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ของ GC ที่ออกครั้งนี้..

GC ถูกจัดอันดับเครดิตระดับสากลกับ 3 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ Credit Rating Agency คือ

- Moody's
- S&P
- Fitch Ratings

และ GC ก็ตั้งใจจะให้ Credit Rating Agency ทั้ง 3 แห่งนับหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ
ที่ออกครั้งนี้เป็นส่วนของทุน 50% (Equity Credit 50%)
ซึ่งแต่ละแห่งมีวิธีการในการนับส่วนของทุนที่แตกต่างกัน
GC จึงต้องกำหนดโครงสร้างหุ้นกู้ที่สอดคล้องกับเกณฑ์ของทั้ง 3 แห่ง

- Fitch Ratings (International) และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) นับส่วนของทุนได้ 50%
ให้ตลอดอายุหุ้นกู้

- Moody's คาดว่าจะนับส่วนของทุนได้ 50% ให้ตลอดอายุหุ้นกู้
โดยมีเงื่อนไขว่า ไม่ให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือ Step Up ดอกเบี้ยในช่วง 10 ปีแรก

- S&P คาดว่าจะนับส่วนของทุนได้ 50% เป็นเวลา 5 ปี 6 เดือน นับจากวันออกหุ้นกู้ ซึ่งเมื่อครบ 5 ปี
6 เดือนแล้ว S&P จะไม่นับหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ นี้เป็นส่วนของทุนอีกต่อไป

สังเกตได้ว่า เงื่อนไขที่ Moody's กำหนดไว้ส่งผลให้ GC ไม่สามารถปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วง
10 ปีแรก เพราะเมื่อไรก็ตามหากมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในช่วง 10 ปีแรก Moody's จะไม่นับหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ นี้เป็นส่วนของทุนให้กับทาง GC เลย

จุดนี้เองคือเหตุผลว่า ทำไมหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ของ GC ถึงไม่มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหลังครบ 5 ปี 6 เดือน และไปปรับเพิ่มหลังครบปีที่ 10 ปี 6 เดือน เป็นต้นไป นั่นเอง

แล้วถ้าถามว่า ทำไม GC ต้องมาสนใจ Moody's และ S&P

คำตอบเป็นเพราะว่า GC เป็นบริษัทระดับสากล และมีการระดมทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
จึงจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ลงทุนต่างประเทศ ด้วยการให้ Moody's, S&P, และ Fitch
Ratings (International) จัดอันดับความน่าเชื่อถือให้ นั่นเอง

ถึงตรงนี้ ข้อมูลล่าสุด GC มีหุ้นกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ จำนวน 4 รุ่น จำนวน 1,446 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ตัวที่ครบกำหนดสั้นสุดคือ มีนาคม 2574 (อายุคงเหลือ 6 ปี 5 เดือน)
และยาวสุดคือ มีนาคม 2595 (อายุคงเหลือ 27 ปี 5 เดือน)

นั่นก็น่าจะช่วยทำให้สบายใจได้ว่า GC จำเป็นต้องรักษาอันดับความน่าเชื่อถือของทั้ง Moody's, S&P และ Fitch Ratings (International) จนกว่าหุ้นกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ จะครบกำหนด

ขณะเดียวกัน สำหรับหุ้นกู้ในประเทศไทยเอง GC ก็ได้ให้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ในครั้งนี้

คำถามต่อมาคือ ทำไมต้อง 5 ปี 6 เดือน ?

จริง ๆ แล้ว GC ได้พิจารณาแผนการชำระคืนหนี้สินที่จะครบกำหนดในอนาคต เพื่อเป็นการบริหารช่วงเวลาการชำระคืนเงินกู้ให้มีความเหมาะสม

โดยล่าสุด GC อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ

โดยอัตราดอกเบี้ยและวันจองซื้อที่แน่นอน ทาง GC จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ข้อมูลที่ชัดเจนแล้วก็คือ หุ้นกู้ด้อยสิทธิมีลักษณะคล้ายทุนที่เสนอขายครั้งนี้
ทาง GC สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดได้ เมื่อหุ้นกู้มีอายุครบ 5 ปี 6 เดือน เป็นต้นไป
กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

โดยสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป
- สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท
- ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333
หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-626-7777
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02-888-8888 กด 869
และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555
หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปฯ Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-111-1111
หรือจองซื้อออนไลน์บนแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ผ่านระบบ Money Connect by
Krungthai
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-777-6784
หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์
จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 1572
- บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5000
- บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 1428 กด #4
(เปิดจองซื้อเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน)
ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56

หมายเหตุ
- แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนยังไม่มีผลใช้บังคับ
เนื่องจากอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
- การจัดสรรหุ้นกู้ดังกล่าวให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ตามแต่จะเห็นสมควร

คำเตือน
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน
และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่
www.sec.or.th

Reference
-ข้อมูลเปิดเผยจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)