ลงทุนกับ MEGA10 ที่ลงทุนในแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ผ่านผู้สนับสนุนการขายฯ ชั้นนำได้ หลายแห่ง ตั้งแต่วันนี้

สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหากองทุน ที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับท็อปของโลกเอาไว้ในที่เดียว
MEGA10 คงเป็นหนึ่งในคำตอบ ที่ตอบโจทย์นั้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะ MEGA10 จะเน้นในการเข้าไปลงทุนใน 10 บริษัทผู้นำในด้านตราสินค้าระดับโลก จากประเทศสหรัฐฯ ที่คนส่วนใหญ่บนโลกใช้ในชีวิตประจำวันและขาดไม่ได้ ซึ่งถือเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และก้าวกระโดด รวมทั้งยังมีมูลค่าตลาดหุ้นที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่าที่สูงถึง 1,646 ล้านล้านบาท และกินสัดส่วนมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลก ไปมากถึง 42.5% ตามการอ้างอิงจาก SIFMA

โดยการคัดเลือกบริษัทผู้นำในด้านตราสินค้าระดับโลก ทั้ง 10 แห่งของ MEGA10 นั้น จะใช้วิธีการคัดเลือกแบบ “Rule Based Approach” ที่มีเกณฑ์ในการคัดเลือกตราสารทุนของบริษัทที่เป็นผู้นําในด้านตราสินค้า (Brand Value) ที่ดีทั่วโลก จากการจัดอันดับโดยบริษัทที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับในเรื่องของการจัดอันดับดังกล่าว โดยผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาเลือกลงทุนในตราสารทุนของบริษัท จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่องสูงสุด 10 บริษัทแรก

นั่นจึงทำให้บริษัทต่าง ๆ ที่ MEGA10 ได้เข้าไปลงทุนนั้น ล้วนเป็นบริษัทที่มีโอกาสเป็นไปได้ ในเรื่องของการสร้างรายได้ การต่อยอดมูลค่า และการทำแบรนด์ให้ครองใจผู้คนกันได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น

- Apple บริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง iPhone ที่ปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 107 ล้านล้านบาท และถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก ณ ปัจจุบัน

- Microsoft บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่พ่วงมาด้วยบริษัทในเครือมากมาย ในหลายอุตสาหกรรม เช่น Activision Blizzard ค่ายพัฒนาเกมชื่อดัง และ LinkedIn แพลตฟอร์มเกี่ยวกับงาน เป็นต้น ซึ่งด้วยธุรกิจหลัก และธุรกิจในเครือที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 98 ล้านล้านบาท และเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ณ วันที่ 12 ธ.ค. 2566

- Visa บริษัทตัวกลางการรับชำระชื่อดังระดับโลก ที่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นั้น ผู้คนจากทั่วทั้งโลก มีบัตรเครดิตของ Visa เป็นจำนวนรวมกันทั้งหมดมากกว่า 1,200 ล้านใบ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้บริษัทแห่งนี้มีมูลค่าที่สูงถึง 18 ล้านล้านบาท

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบริษัทระดับชั้นนำที่ MEGA10 ได้เข้าไปลงทุนเท่านั้น ยังมีบริษัทระดับชั้นนำอื่น ๆ อย่าง Alphabet, Amazon, J.P. Morgan, Meta, Mastercard และ Tesla ที่ MEGA10 ก็ได้เข้าไปลงทุนเช่นกัน โดยแต่ละบริษัทต่างก็กำลังเติบโตในรูปแบบของตนเองกัน และเป็นบริษัทที่น่าลงทุนทั้งสิ้น ทั้งจากแผนการทางธุรกิจ และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงอานิสงส์ของเศรษฐกิจภายในประเทศ และเศรษฐกิจทั่วโลก ที่มีโอกาสที่จะเติบโตมากยิ่งขึ้นในปี 2567 นี้เช่นกัน

ซึ่งถ้าใคร ที่สนใจอยากร่วมลงทุนกับหลากหลายบริษัทระดับชั้นนำแบบ 10 บริษัทเน้น ๆ ก็สามารถเริ่มลงทุนกับ MEGA10 ได้แล้ววันนี้ โดยปัจจุบัน MEGA10 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบกองทุน ซึ่งได้แก่

- กองทุนเปิด MEGA10 ชนิดสะสมมูลค่า (MEGA10-A) เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุน ที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total return)

- กองทุนเปิด MEGA10 ชนิดเพื่อการออม (MEGA10-SSF) ที่เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาว

- กองทุนเปิด MEGA10 เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10RMF) ที่เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ

กองทุนที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้คือ MEGA10-SSF, MEGA10RMF
โดยเงินลงทุนนี้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ แต่ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กรมสรรพากร และ/หรือหน่วยงานของทางการประกาศกำหนด

ทั้งนี้ ตัวอย่างบริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามเกณฑ์การลงทุน และสภาวการณ์การลงทุน ณ ขณะนั้น

MEGA10 มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่จดทะเบียนซื้อขายใน NYSE/NASDAQ ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นความเป็นผู้นำในด้านตราสินค้า (Brand Value) จากการจัดอันดับโดยสถาบันจัดอันดับตราสินค้า (Brand) ระดับสากล และคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) และที่มีสภาพคล่องสูงสุด 10 บริษัทแรก
กองทุนจะลงทุนในตราสารทุนจำนวน 10 บริษัทตามวิธีการคัดเลือกที่กำหนดในสัดส่วนการลงทุนที่ใกล้เคียงกัน
- ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.talisam.co.th

และรู้หรือไม่ว่า วันนี้ MEGA10 กองทุน MEGA10-A, MEGA10-SSF, MEGA10RMF สามารถลงทุน ผ่านผู้สนับสนุนการขายชั้นนำในไทยหลาย ๆ ราย

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียด และเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส www.talisam.co.th
โทร. 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 และ ผู้สนับสนุนการขายหลายราย ได้แก่

1. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
2. บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน)
3. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
4. บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ เว็ลธ์ เมจิก จำกัด
6. หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
7. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
8. บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
9. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด
10. บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
11. บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
12. บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
13. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
14. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
15. บริษัท หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
16. บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน)
17. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
18. บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เทรเชอริสต์ จำกัด
19. บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
20. บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
21. บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด
22. บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
23. บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด
24. บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
25. บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด
26. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด
27. บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
28. บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด
29. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ รายชื่อผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน อาจมีการปรับเปลี่ยนได้

เพื่อประโยชน์ของท่านอย่าลืมลงทะเบียนขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ได้ที่ https://www.talisam.co.th/terms-and-conditions/

คำเตือน:

- กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุน อาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน

- กองทุนนี้มีการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการลงทุนกระจุกตัวของหลักทรัพย์ หมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก

- ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

References
-https://www.talisam.co.th/
-https://companiesmarketcap.com
-https://www.visualcapitalist.com/the-109-trillion-global-stock-market-in-one-chart/#:~:text=Data%20as%20of%20Q2%202023,over%20the%20last%20several%20decades
-https://www.sifma.org/resources/archive/research/statistics/?aq=&hPP=10&idx=prod_wp_searchable_posts&ap=1&fR[taxonomies.research_type][0]=Statistics
-https://www.cnet.com/tech/microsoft-now-owns-activision-blizzard-what-it-means-for-your-favorite-games/#:~:text=Tech-,Microsoft%20Now%20Owns%20Activision%20Blizzard:%20What%20It%20Means%20for%20Your,and%20mobile%20games%20you%20love
-https://www.investopedia.com/articles/markets/020316/top-5-companies-owned-microsoft-msft.asp
-https://www.money.co.uk/credit-cards/credit-card-statistics#:~:text=At%20the%20end%20of%20the%20first%20quarter%20of%202023%2C%20over,(AMEX)%20cards%20in%20circulation
-https://www.forbes.com/sites/bill_stone/2023/12/27/handicapping-the-us-economy-and-markets-in-2024/?sh=2caf8f385847#:~:text=After%20the%20pivot%2C%202024%20real,the%20accuracy%20of%20this%20forecast%3F

_________________________________________________________________

หมายเหตุ : อ้างอิงค่าเงิน 1 USD = 35.63 THB ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2566