รู้จัก CHASE บริษัทที่กำลัง IPO ที่มี RS GROUP ถือหุ้น 35%
รู้จัก CHASE บริษัทที่กำลัง IPO ที่มี RS GROUP ถือหุ้น 35%
CHASE X ลงทุนแมน
CHASE X ลงทุนแมน
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ลงทุนแมน มีโอกาสพูดคุยกับ เฮียฮ้อ เจ้าของอาณาจักร RS GROUP
โดยหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือการที่ เฮียฮ้อ ตัดสินใจซื้อหุ้น 35% มูลค่า 920 ล้านบาท
ในบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด หรือ CHASE
โดยหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือการที่ เฮียฮ้อ ตัดสินใจซื้อหุ้น 35% มูลค่า 920 ล้านบาท
ในบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด หรือ CHASE
พร้อมกับคำพูดของ เฮียฮ้อ ที่น่าสนใจว่า “อีกไม่เกิน 3 ปี บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด จะเข้าตลาดหลักทรัพย์”
ซึ่ง CHASE ก็ได้ดำเนินการตามที่เฮียฮ้อว่าไว้ โดยได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ที่มีคำว่า “มหาชน” ต่อท้ายคือ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน)
และยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นกับสำนักงาน ก.ล.ต. ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
และยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นกับสำนักงาน ก.ล.ต. ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โดยล่าสุด บริษัท อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก IPO จำนวน 562 ล้านหุ้น
เพื่อระดมทุนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างรายได้บริษัทให้เติบโต
เพื่อระดมทุนเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างรายได้บริษัทให้เติบโต
สิ่งที่หลายคนสงสัยก็คือ CHASE ดำเนินธุรกิจอะไรบ้าง ?
และทำไมถึงเป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ เฮียฮ้อ แห่งอาณาจักร RS GROUP ตัดสินใจซื้อหุ้นถึง 35%
ลงทุนแมน จะวิเคราะห์ให้ฟัง
และทำไมถึงเป็นบริษัทที่มีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ เฮียฮ้อ แห่งอาณาจักร RS GROUP ตัดสินใจซื้อหุ้นถึง 35%
ลงทุนแมน จะวิเคราะห์ให้ฟัง
รู้หรือไม่ จุดเริ่มต้นของ CHASE เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง
ที่เวลานั้นมีการประเมินว่าสถาบันการเงินต่าง ๆ และกลุ่ม Non Bank มีลูกหนี้ด้อยคุณภาพ
หรือ NPL สูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท
ที่เวลานั้นมีการประเมินว่าสถาบันการเงินต่าง ๆ และกลุ่ม Non Bank มีลูกหนี้ด้อยคุณภาพ
หรือ NPL สูงถึง 2.3 ล้านล้านบาท
คุณประชา ชัยสุวรรณ ซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในธุรกิจบริหารหนี้มายาวนานมองเห็นโอกาสในวิกฤติครั้งนั้น
ทำให้ในปี พ.ศ. 2541 ได้ก่อตั้งบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ขึ้นมา เพื่อทำธุรกิจบริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินให้แก่สถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียของสถาบันการเงิน ภายใต้แนวคิดที่จะเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้คู่วินัยในการบริหารหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถแก้ไขหนี้เสียและปลดเปลื้องภาระหนี้ได้
ทำให้ในปี พ.ศ. 2541 ได้ก่อตั้งบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด ขึ้นมา เพื่อทำธุรกิจบริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สินให้แก่สถาบันการเงิน โดยทำหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้จากลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียของสถาบันการเงิน ภายใต้แนวคิดที่จะเป็นที่ปรึกษาให้ความรู้คู่วินัยในการบริหารหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถแก้ไขหนี้เสียและปลดเปลื้องภาระหนี้ได้
อีก 5 ปีต่อมา คุณประชา ก็ก่อตั้งบริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด เพิ่มอีกหนึ่งธุรกิจใหม่เข้ามา คือ บริหารจัดการสินทรัพย์ โดยรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาจากสถาบันการเงิน
อธิบายง่าย ๆ คือ การซื้อลูกหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินมาบริหารเอง พร้อมกับได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล จากธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยในปี 2564 บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน)
มีรายได้จากดอกเบี้ยและรายได้ค่าบริการและค่าวิชาชีพจากการให้บริการติดตามทวงถามหนี้รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 781.07 ล้านบาท โดยผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไปนี้
มีรายได้จากดอกเบี้ยและรายได้ค่าบริการและค่าวิชาชีพจากการให้บริการติดตามทวงถามหนี้รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 781.07 ล้านบาท โดยผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ปี 2562 รายได้ดอกเบี้ย, รายได้ค่าบริการค่าวิชาชีพ และอื่น ๆ รวม 635.69 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 161.95 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 25.48%
กำไรสุทธิ 161.95 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 25.48%
ปี 2563 รายได้ดอกเบี้ย, รายได้ค่าบริการค่าวิชาชีพ และอื่น ๆ รวม 730.19 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 171.38 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 23.47%
กำไรสุทธิ 171.38 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 23.47%
ปี 2564 รายได้ดอกเบี้ย, รายได้ค่าบริการค่าวิชาชีพ และอื่น ๆ รวม 781.07 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 270.88 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 34.68%
กำไรสุทธิ 270.88 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 34.68%
จะเห็นว่าอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้ 3 ปีที่ผ่านมา สูงถึงราว ๆ 23% - 35% เลยทีเดียว
จริงอยู่ด้วยธรรมชาติของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับหนี้เสีย จะมีอัตรากำไรที่สูง แต่หากขาดการบริหารจัดการที่ดี ก็ไม่สามารถที่จะแปลงหนี้ที่เกือบเป็น NPL หรือเป็นหนี้เสียไปแล้ว ให้กลับมาเป็นรายได้ให้แก่บริษัทได้ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ สามารถเรียกชำระเงินจากลูกหนี้ได้มากกว่าต้นทุนที่กลุ่มบริษัทฯ รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพอย่างมาก
จริงอยู่ด้วยธรรมชาติของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับหนี้เสีย จะมีอัตรากำไรที่สูง แต่หากขาดการบริหารจัดการที่ดี ก็ไม่สามารถที่จะแปลงหนี้ที่เกือบเป็น NPL หรือเป็นหนี้เสียไปแล้ว ให้กลับมาเป็นรายได้ให้แก่บริษัทได้ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ สามารถเรียกชำระเงินจากลูกหนี้ได้มากกว่าต้นทุนที่กลุ่มบริษัทฯ รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพอย่างมาก
ด้วยประสบการณ์ 24 ปีของ CHASE กลับทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ
ด้วยแนวทางการทำธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ติดตามทวงถามหนี้ เพียงอย่างเดียว
แต่เลือกที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดของคนเป็นหนี้
สะท้อนจากวิสัยทัศน์ของ CHASE ซึ่งก็คือ “เป็นศูนย์กลางในการบริหารหนี้ครบวงจร โดยให้คำปรึกษาและให้ความรู้คู่วินัยในการบริหารหนี้ เพื่อสร้างโอกาสปลดเปลื้องภาระหนี้”
ด้วยแนวทางการทำธุรกิจที่ไม่ใช่แค่ติดตามทวงถามหนี้ เพียงอย่างเดียว
แต่เลือกที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดของคนเป็นหนี้
สะท้อนจากวิสัยทัศน์ของ CHASE ซึ่งก็คือ “เป็นศูนย์กลางในการบริหารหนี้ครบวงจร โดยให้คำปรึกษาและให้ความรู้คู่วินัยในการบริหารหนี้ เพื่อสร้างโอกาสปลดเปลื้องภาระหนี้”
เพราะ CHASE เชื่อว่า “ลูกหนี้ทุกคนต้องการโอกาสในการเจรจา เพื่อวางแผน เพื่อชำระหนี้” CHASE จึงมุ่งเน้นที่จะพูดคุยกับลูกหนี้เพื่อหาหนทางที่ดีที่สุดสำหรับลูกหนี้ในการจ่ายชำระหนี้ ในขณะเดียวกันก็ให้ผลการติดตามหนี้ที่ดีให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ
ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้สถาบันการเงินต่าง ๆ เลือกใช้บริการให้ CHASE ติดตามหนี้สิน
เพราะด้วยแนวคิดนี้ของ CHASE ยังช่วยรักษาภาพลักษณ์ของผู้ว่าจ้าง
จนได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินว่าเป็นตัวจริง ที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดให้แก่คนที่มีหนี้สิน
เพราะด้วยแนวคิดนี้ของ CHASE ยังช่วยรักษาภาพลักษณ์ของผู้ว่าจ้าง
จนได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินว่าเป็นตัวจริง ที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดให้แก่คนที่มีหนี้สิน
โดยการระดมทุนขายหุ้นสามัญ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ ครั้งนี้
เงินก้อนหนึ่งที่ได้ก็จะนำมาใช้เพิ่มศักยภาพในธุรกิจ เช่น รับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ
ซึ่งก็น่าจะทำให้ CHASE จากเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ก็จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีก
เงินก้อนหนึ่งที่ได้ก็จะนำมาใช้เพิ่มศักยภาพในธุรกิจ เช่น รับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ
ซึ่งก็น่าจะทำให้ CHASE จากเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ก็จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นไปอีก
ที่สำคัญธุรกิจการเงินสมัยใหม่ในภาพรวมจะได้รับแรงขับเคลื่อนจากเทคโนโลยีการเงิน
ที่มีระบบล้ำ ๆ มากมาย ที่จะมาช่วยให้ผู้กู้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบมากขึ้น
โดยทาง CHASE ได้ศึกษาโมเดลนี้เพื่อรองรับการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเช่นเดียวกัน
ที่มีระบบล้ำ ๆ มากมาย ที่จะมาช่วยให้ผู้กู้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบมากขึ้น
โดยทาง CHASE ได้ศึกษาโมเดลนี้เพื่อรองรับการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเช่นเดียวกัน
น่าจะหมดข้อสงสัยว่า ทำไมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เฮียฮ้อแห่งอาณาจักร RS GROUP ตัดสินใจซื้อหุ้น 35% มูลค่า 920 ล้านบาท
เพราะนอกจากการที่จะนำ CHASE เป็นพาร์ตเนอร์ของ RS แล้วนั้น
เพราะนอกจากการที่จะนำ CHASE เป็นพาร์ตเนอร์ของ RS แล้วนั้น
บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ยังถือเป็นบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง, อัตรากำไรสูง, สถาบันการเงินจนถึงลูกหนี้ต่างไว้ใจ และพร้อมปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
สรุปสั้น ๆ ก็คือด้วยโมเดลธุรกิจและแนวทางบริหารในสไตล์นี้
ก็น่าจะทำให้ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยั่งยืนและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ก็น่าจะทำให้ บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ยั่งยืนและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
References
-https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=455146&lang=th
-https://www.chase.co.th/about-us
-การวิเคราะห์และคำอธิบายผลดำเนินงานและฐานะทางการเงินสำหรับปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 2563 และ 2564
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ CEO ของ RS GROUP
-https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=455146&lang=th
-https://www.chase.co.th/about-us
-การวิเคราะห์และคำอธิบายผลดำเนินงานและฐานะทางการเงินสำหรับปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 2563 และ 2564
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ CEO ของ RS GROUP