รู้จัก ICS โครงการ Mixed-Use บนทำเลทองฝั่งธนบุรี
รู้จัก ICS โครงการ Mixed-Use บนทำเลทองฝั่งธนบุรี
ICS x ลงทุนแมน
ICS x ลงทุนแมน
ในวันนี้ หากพูดถึงพื้นที่ หรือ “ทำเล” ที่กำลังมีการเติบโตมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร
หนึ่งในคำตอบนั้น คงหนีไม่พ้น พื้นที่ในฝั่งธนบุรี
หนึ่งในคำตอบนั้น คงหนีไม่พ้น พื้นที่ในฝั่งธนบุรี
รู้หรือไม่ว่า ? ในช่วงปี 2555 ถึงปี 2560 ที่ดินบริเวณถนนเจริญนคร มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
จากตารางวาละประมาณ 150,000-200,000 บาท เป็น 300,000-450,000 บาท
หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว
จากตารางวาละประมาณ 150,000-200,000 บาท เป็น 300,000-450,000 บาท
หรือคิดเป็นการเติบโตกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา ทาง EIA ยังได้อนุมัติ
แผนการย้ายศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นศูนย์ราชการขนาดใหญ่มายัง ย่านคลองสาน
แผนการย้ายศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นศูนย์ราชการขนาดใหญ่มายัง ย่านคลองสาน
ซึ่งเรื่องนี้ ก็ได้ทำให้ ICS ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-Use
ที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กลายเป็นทำเลในการลงทุน ที่น่าจับตามองขึ้นมาทันที
ที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร เขตคลองสาน กลายเป็นทำเลในการลงทุน ที่น่าจับตามองขึ้นมาทันที
แล้วโครงการ ICS น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง..
โครงการ ICS Mixed-Use เป็นไลฟ์สไตล์ ทาวน์ แห่งใหม่ฝั่งธนบุรี
ซึ่งเกิดขึ้นจากการร่วมทุนของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง
ซึ่งเกิดขึ้นจากการร่วมทุนของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่าง
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด
และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด
แล้วโครงการ Mixed-Use คืออะไร ?
โครงการ Mixed-Use คือ การผสมผสานการใช้งานของพื้นที่ในโครงการเข้าด้วยกัน
โดยในโครงการ Mixed-Use 1 โครงการ อาจแบ่งการใช้พื้นที่ออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน
เช่น พื้นที่ส่วนแรกเป็นโรงแรม พื้นที่อีกส่วนหนึ่งเป็นสำนักงาน เป็นต้น
เช่น พื้นที่ส่วนแรกเป็นโรงแรม พื้นที่อีกส่วนหนึ่งเป็นสำนักงาน เป็นต้น
ซึ่งเราจะเห็นว่าด้วยการแบ่งพื้นที่ให้มีความหลากหลายนี้เอง
ทำให้โครงการ Mixed-Use สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากกว่า โครงการ Single-Use หรือโครงการที่สร้างมาเพื่อการใช้งานเพียงด้านเดียว
คำถามต่อมาคือ แล้ว ICS มีการจัดสรรพื้นที่อย่างไรบ้าง ?
สำหรับพื้นที่ในโครงการ ICS จะประกอบไปด้วย 3 ธุรกิจหลักด้วยกัน
1. ธุรกิจค้าปลีก
โดยพื้นที่ในส่วนนี้จะถูกออกแบบมา ให้อยู่ในตัวอาคารแบบ Low Rise
รวมทั้งหมด 8 ชั้น โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น B, G, M และชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 5
รวมทั้งหมด 8 ชั้น โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น B, G, M และชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 5
ปัจจุบันมีร้านค้าชั้นนำกว่า 200 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไอที, บริการด้านการเงิน, แบรนด์แฟชั่น, ธุรกิจด้านความงามและเครื่องสำอาง
นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารแบรนด์ดังกว่า 80 แบรนด์ รวมไปถึงร้านอาหารชั้นนำจากต่างประเทศ ที่เลือกมาเปิดให้บริการที่ ICS เป็นสาขาแรกอีกด้วย
ที่น่าสนใจคือ Lotus’s “Smart Premium Supermarket” ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ล่าสุด ที่ได้รับความร่วมมือจากผู้นำธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในไทยอย่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์
2. อาคารสำนักงาน
ตั้งอยู่บนชั้น 6 จนถึงชั้น 8 ในอาคารเดียวกับศูนย์การค้า เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ
ทั้งในกลุ่มที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการ และกลุ่มที่ต้องการขยายกิจการ
ทั้งในกลุ่มที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการ และกลุ่มที่ต้องการขยายกิจการ
3. โรงแรม
ในส่วนของโรงแรม Hilton Garden Inn Bangkok ICS Charoen Nakhon จะถูกบริหารโดยเชนโรงแรมระดับโลกอย่าง โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์
โดยตัวโรงแรมถูกออกแบบมาเป็นอาคารสูง 19 ชั้น ด้วยพื้นที่กว่า 17,000 ตารางเมตร
และด้วยพื้นที่ที่มากถึง 17,000 ตารางเมตร ทำให้โรงแรมพร้อมรองรับความต้องการ
ของทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจ MICE
ของทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจ MICE
ซึ่งปัจจุบันธุรกิจ MICE หรือ Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไปกว่า 100,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจ ที่น่าจับตามอง นั่นก็คือ “ธุรกิจเฮลท์แคร์”
โดยอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ ถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรม ที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในไทย ที่ในวันนี้กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ซึ่งทาง ICS เอง ก็มีบริการอย่าง Innovative Health and Lifestyle Center โดยจะมีโรงพยาบาลชั้นนำระดับประเทศ เข้ามาเป็นคนดูแลในส่วนนี้
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจพูดได้ว่า ICS เป็นโครงการที่มีความหลากหลาย
จึงทำให้สามารถเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน, ช็อปปิง, การพักผ่อน หรือแม้แต่ในเรื่องของสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องความหลากหลายแล้ว
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ ICS ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ “ทำเล”
อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ ICS ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ “ทำเล”
โดยโครงการ ICS ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนเจริญนคร ตรงข้ามกับ ไอคอนสยาม
ซึ่งจากที่ตั้งของโครงการ ทำให้เราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็น
ซึ่งจากที่ตั้งของโครงการ ทำให้เราสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็น
รถ - สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถสาธารณะ จากด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนเจริญนคร
ราง - จากรถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งตัวโครงการมีการเชื่อมกับรถไฟฟ้า สถานีเจริญนคร
เรือ - จากการเชื่อมต่อกับโครงการไอคอนสยาม มีพื้นที่ด้านหลังติดโค้งน้ำเจ้าพระยา ซึ่งรองรับการหมุนเวียนจากท่าเรือสาธารณะมากถึง 99 ท่าเรือ
นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดสำคัญที่น่าจับตามอง คือ การขยายตัวของเมือง
ซึ่งในตอนนี้พื้นที่ในฝั่งธนบุรี กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น
ซึ่งในตอนนี้พื้นที่ในฝั่งธนบุรี กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น
- แผนการย้ายศูนย์ราชการขนาดใหญ่มายังย่านคลองสาน
ซึ่งจะทำให้มีข้าราชการและผู้ใช้บริการ หมุนเวียนในบริเวณนี้ เพิ่มขึ้นอีกวันละกว่า 10,000 คน
ซึ่งจะทำให้มีข้าราชการและผู้ใช้บริการ หมุนเวียนในบริเวณนี้ เพิ่มขึ้นอีกวันละกว่า 10,000 คน
- การก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลตากสิน
ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ วันละกว่า 7,000 ราย
ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ วันละกว่า 7,000 ราย
- การขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย โดยมีการคาดการณ์ว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะมีที่พักอาศัยคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอีกกว่า 50 โครงการ หรือคิดเป็นประมาณ 25,000 ยูนิตเลยทีเดียว
ซึ่งการที่โครงการตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี ก็น่าจะทำให้โครงการ ICS ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว
สรุปแล้ว ICS ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการ Mixed-Use ที่น่าจับตามองอย่างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในมุมของ
1. ผู้ประกอบการ และเจ้าของร้านค้า
จากการขยายตัวของเศรษฐกิจมาสู่ฝั่งธนบุรี ทำให้ปัจจุบันการเดินทางมายังฝั่งธนบุรีเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, เรือ และรถไฟฟ้า
นอกจากนี้ จากการเริ่มมีการเปิดประเทศของไทยมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ก็น่าจะทำให้ธุรกิจห้างสรรพสินค้าได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะ ICS ซึ่งตั้งอยู่ติดกับแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง ไอคอนสยาม
รู้หรือไม่ว่า ? นับตั้งแต่ต้นปี มาจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยแล้วกว่า 1.2 ล้านคน ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด 19 เคยเดินทางมาไทยมากถึงปีละ 10 ล้านคน
ซึ่งจากทั้ง 2 เรื่องนี้ ทำให้ ICS ถือเป็น “โอกาส” ทางธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
2. ในมุมของลูกค้า และผู้มาใช้บริการ
จากเดิมพื้นที่ในโซนนี้มีเพียงไอคอนสยาม ซึ่งเปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยว
การเข้ามาของ ICS ซึ่งเป็นโครงการที่มีความหลากหลาย และทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ก็น่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้การใช้ชีวิตในย่านนี้ มีความหลากหลาย และครบครันมากยิ่งขึ้น..
ก็น่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้การใช้ชีวิตในย่านนี้ มีความหลากหลาย และครบครันมากยิ่งขึ้น..