OR x ลงทุนแมน

ไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญามากมาย สะท้อนได้จากสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็น

- อาหารที่มีความพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุงอาหาร จนถึงการจัดหน้าตาอาหารให้สวยงาม

- เครื่องแต่งกายตามท้องถิ่นต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความประณีตและสะท้อนเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่

- ศาสตร์แห่งการปรุงยาสมุนไพรไทย ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้หลากหลายประเภท เช่น ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต ยาขับลมบรรเทาอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ รวมถึงยาบรรเทาอาการหวัด

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันภูมิปัญญาท้องถิ่น อาจจะค่อย ๆ เลือนหายไปบ้าง เพราะมักจะเป็นที่รู้จักในชุมชนกันเอง ขาดการสนับสนุนจากคนนอกพื้นที่

สุดท้าย เมื่อสิ่งเหล่านี้ ไม่สามารถทำเงินให้ได้ ชุมชนก็ต้องจำใจหาวิถีชีวิตอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์มากกว่า

จากเรื่องนี้ ทำให้บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เห็นโอกาสในการผลักดันผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการตั้งโครงการ CSR ที่ชื่อว่า “ไทยเด็ด”

ไทยเด็ดมีความน่าสนใจอย่างไร ?
ที่ผ่านมาโครงการประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ไทยเด็ด คือหนึ่งในโครงการของ OR ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมไทย

ด้วยการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นทั่วประเทศ จากกลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ ที่มีศักยภาพหรือน่าสนใจ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร

มาสนับสนุนด้านการตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านสถานีบริการ PTT Station จำนวนกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ

พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรอีก 8 หน่วยงาน ได้แก่

- สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน
- กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
- สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
- กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารออมสิน

โดยตอนนี้ไทยเด็ดมีสินค้าในโครงการครอบคลุมตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ จนถึงของใช้ต่าง ๆ โดยมีหมวดรักษ์โลกเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์เรื่องสนับสนุนสินค้าที่ดีต่อโลกอีกด้วย

แต่ความน่าสนใจไม่ได้มีเพียงแค่ความหลากหลายของสินค้าเท่านั้น แต่มีความหลากหลายของภูมิปัญญาแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น

- ปัตตานี ที่มีสินค้าอัตลักษณ์ คือ ขนมโบว์อิสตานา เป็นการใช้วัตถุดิบปลาทูสด ๆ จากประมงชายฝั่ง ผสมด้วยสมุนไพรในท้องถิ่น

- ราชบุรี มีสินค้าโดดเด่น คือ น้ำอ้อยไร่ไม่จน น้ำอ้อยที่ผ่านการพาสเจอไรซ์ 100% ไม่ผสมน้ำตาลและวัตถุกันเสีย แต่ยังคงรสชาติหอม หวาน สดชื่นเหมือนคั้นสด

- นครราชสีมา มีสินค้าที่สะท้อนถึงภูมิลำเนาภาคอีสาน คือ ผ้าไหมไทย ฅญาบาติก งานศิลปะบนผืนผ้าไหมแท้ 100 % ซึ่งใช้เทคนิคบาติกในการสร้างสรรค์งาน

และหากถามต่อว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องดูจากชีวิตของผู้คนที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ว่าจะเป็น

- ป้าแวน ขนมปั้นขลิบน้องหนึ่ง เมืองเก่าชัยบุรี จังหวัดพัทลุง

ที่แต่เดิมครอบครัวของเธอมีอาชีพทำนา แต่ต้องเจอกับอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการทำเกษตร นั่นคือ สภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เพราะหากปีไหนไม่มีฝน ผลผลิตก็ออกมาแย่

จนกระทั่งเธอได้ทำขนมปั้นขลิบและได้ไทยเด็ดเข้ามาให้การสนับสนุนด้วยการให้พื้นที่สื่อ ก็ทำให้ขนมปั้นขลิบน้องหนึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

เท่านั้นไม่พอ OR ยังผลักดันให้สินค้าไปขายใน Café Amazon ด้วย

ผลลัพธ์คือ ยอดขายขนมปั้นขลิบเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ทุกคนในครอบครัวก็มีความสุข

ปัจจุบันขนมปั้นขลิบน้องหนึ่งไม่เพียงแค่เป็นที่รู้จักในระดับประเทศเท่านั้น แต่ยังถูกส่งออกไปหลายประเทศอีกด้วย

- แม่จิน ผ้าทอย้อมคราม บ้านคำประมง จังหวัดสกลนคร

เธอเป็นหนึ่งคนในชุมชนที่ยังคงรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ใจหนึ่งก็มองไม่เห็นอนาคตเช่นกัน เพราะผ้าทอของชุมชนนี้ไม่มีคนรู้จัก ทำให้ขายที่ไหนก็ขายไม่ได้

พอจะชวนลูก ๆ มาทำผ้าทอด้วย เด็ก ๆ ก็ไม่ได้มีความสนใจ เพราะจำนวนเงินที่ได้รับแต่ละเดือนก็ได้แค่ 300 บาท ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต

พวกเขาเลยต้องออกมาหางานทำในกรุงเทพฯ แทน ซึ่งห่างไกลจากครอบครัว

จนทีมงานของไทยเด็ดเข้าไปเห็นกลุ่มนี้ และได้นำสินค้ามาเสนอออกบูท คนก็รู้จักมากมาย ในที่สุดผ้าทอย้อมครามก็ขายออกจนชุมชนทอกันไม่ทันเลย

เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้รายได้แต่เดิมอยู่ที่ 300 บาทต่อเดือน ขยับสู่ 10,000-18,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

ผู้สูงอายุในชุมชนก็ดีใจเพราะไม่เคยได้รับเงินขนาดนี้ และอีกอย่างที่ทำให้พวกเขามีความสุขคือ ลูก ๆ กลับมาทำงานที่บ้านแล้วด้วยนั่นเอง

- พี่ซูซี่ วิสาหกิจชุมชนกระเป๋าผ้า Montmaxx จังหวัดสมุทรปราการ

เมื่อคนเราแก่ตัว หลายคนมักจะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นภาระให้กับครอบครัว เพราะไม่มีรายได้เข้ามาอีกต่อไป และไม่มีอะไรที่จะสามารถไปซัปพอร์ตครอบครัวได้

ซึ่งผู้คนในชุมชนแห่งนี้ก็คิดแบบเดียวกัน ทำให้ผู้สูงอายุบางคนถึงกับเป็นโรคซึมเศร้า

แต่เมื่อไทยเด็ดเข้ามาช่วยเหลือทั้งด้านการทำการตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จักกับคนนอกพื้นที่ และส่งเสริมสินค้าให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านการจัดจำหน่ายทางร้านไทยเด็ดในสถานีบริการ PTT Station

ชีวิตคนในชุมชนก็ดีขึ้นมาก บางคนที่มีภาระหนี้สิน ใช้เวลาภายใน 1 ปีก็สามารถปลดหนี้ได้หมดเลย

จากเรื่องราวทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ไทยเด็ดไม่เพียงแค่ทำให้ผู้คนภายนอกรู้จักและเข้าถึงสินค้าท้องถิ่นได้มากยิ่งขึ้น

แต่ยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนนั้น ๆ ไปอีกระดับ เกิดการจ้างงาน มีรายได้ที่มากขึ้น รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ

จากวันแรกจนถึงวันนี้ ไทยเด็ดก็ถูกก่อตั้งมาแล้ว 6 ปี ก็น่าติดตามเหมือนกันว่า เมื่อเวลาผ่านไปถึง 10 ปี โครงการจะสามารถส่งผลกระทบได้ขนาดไหน เพราะเพียงแค่ครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ก็ดูมีหลายชุมชนที่ผู้คนมีชีวิตดีขึ้นกันไม่น้อยเลย..

สำหรับใครที่อยากรู้ว่า “โครงการไทยเด็ด” ช่วยยกคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างไร ? ติดตามได้จากวิดีโอนี้เลย

Reference
-เอกสารประชาสัมพันธ์ OR