เบื้องหลัง MK กับการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร 530 ตัว

เบื้องหลัง MK กับการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร 530 ตัว

เบื้องหลัง MK กับการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร 530 ตัว
MK X ลงทุนแมน
หากวันนี้ใครที่เข้าร้านสุกี้ MK อาจได้พบเจอพนักงานใหม่
ที่มีชื่อว่า น้องสุขใจ และ น้องผักกาด โดยจะเชิญเราเข้ามาในร้าน
พร้อมกับพาไปส่งถึงโต๊ะอาหารอย่างเป็นกันเอง
หากใครที่มีโอกาสได้พบเห็นอาจต้องร้อง โอ้โฮ ! อะไรจะล้ำขนาดนี้
เมื่อพนักงานใหม่กลับไม่ใช่คน แต่เป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่ทาง MK จะนำมาให้บริการในร้านสุกี้ของตัวเองและร้านอาหารในเครือ 355 สาขาทั่วประเทศ
คำถามก็คือ..
เจ้าหุ่นยนต์ที่เราเห็นนั้น สามารถทำอะไรได้อีกบ้าง
แล้วทำไม MK ถึงต้องใช้หุ่นยนต์ มาบริการลูกค้าในร้านตัวเอง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า จุดเริ่มต้นของ MK เป็นเพียงร้านสุกี้เล็ก ๆ จนปัจจุบันมีถึง 443 สาขา
กลายเป็นเชนร้านสุกี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีแบรนด์ร้านอาหารในเครืออีก 11 แบรนด์ รวมกว่า 600 สาขา
คำตอบของความสำเร็จข้างต้น
นอกจากรสชาติอาหารอร่อยที่ถูกใจลูกค้าแล้วนั้น
MK ก็ยังเสิร์ฟ ความสะดวก และความสุขให้แก่ลูกค้า ผ่านสาขาของตัวเองมาอย่างยาวนาน
สิ่งที่ทุกคนน่าจะจำได้ดี ก็คือการมีพนักงาน MK มาเต้นระหว่างทานอาหาร ให้ลูกค้ามีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
พนักงานรับออเดอร์รายการอาหารด้วยระบบ PDA ที่หลายคนคงคุ้นตาที่เป็น Pocket PC ขนาดเล็ก
หรือการสั่งอาหารที่โต๊ะ ด้วยการใช้ระบบหน้าจอสัมผัส ที่แค่กดสั่ง รอแค่ไม่กี่นาที
รายการอาหารก็จะมาเสิร์ฟที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว
ทีนี้เมื่อรู้ว่า บริการ คือหนึ่งในไม้ตายสำคัญที่ช่วยสร้างการเติบโตให้ธุรกิจตัวเอง
MK ก็เลยพยายามยกระดับบริการของตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อมอบความสุขให้ลูกค้าตลอดเวลา
ยิ่งโดยเฉพาะเวลานี้ ที่ธุรกิจร้านอาหารมีคู่แข่งเกิดขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะการมาของ Food delivery ที่ทำให้ต้องปรับตัวขึ้นอีก
MK ยิ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ การทานอาหารในร้านให้โดดเด่น
ขณะเดียวกันการใช้หุ่นยนต์ในการเสิร์ฟอาหารก็จะกำจัดความกังวลใจเรื่องการระบาดของโควิด 19
ลดการสัมผัสกับพนักงานเสิร์ฟในร้าน
โดยเรื่องความปลอดภัยในการทานอาหารและความสะอาด
ถือเป็นเรื่องที่ MK ให้ความสำคัญนับตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ
และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ปีนี้ ทาง MK ต้องลงทุนใช้หุ่นยนต์ 530 ตัว
เพื่อเสิร์ฟอาหารในสาขาตัวเองและร้านอื่น ๆ ในเครือ
จนกลายเป็นเชนร้านอาหารที่จะมีจำนวนหุ่นยนต์บริการมากที่สุดในเมืองไทย
โดยตอนนี้จะมีหุ่นยนต์ชื่อ น้องสุขใจ และ น้องผักกาด ประจำอยู่ในร้านสุกี้ MK
ส่วนในร้าน ยาโยอิ จะใช้ชื่อว่า “น้องเซตโตะ” ที่สื่อถึงรายการอาหารเป็นเซตของร้าน นั่นเอง
ทีนี้คงสงสัยว่า เจ้าหุ่นยนต์ที่อยู่ในร้าน มันสามารถทำอะไรได้บ้าง ?
เมื่อลูกค้าเข้าร้านก็จะพาไปส่งถึงโต๊ะอาหาร ดูเป็นมิตรและเป็นกันเอง
เมื่อสั่งอาหารแล้วก็รอหุ่นยนต์มาเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ พร้อมฝาปิดอาหารที่สะอาดปลอดภัย
ทีนี้พอลูกค้าเช็ก และรับรายการอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีเสียงพูดว่าให้กด ยืนยัน
ที่น่าสนใจก็คือ เราไม่ต้องกังวลว่า หุ่นยนต์จะเสิร์ฟรายการอาหารผิดโต๊ะ เพราะแต่ละตัวได้รับการวางโปรแกรมอย่างแม่นยำ
และหุ่นยนต์ทุกตัวจะใช้เทคโนโลยี LiDAR ที่สามารถเรียนรู้ตำแหน่ง, ตรวจจับวัตถุ
และสร้างเส้นทางการเดินได้เอง เสมือนรถยนต์ไร้คนขับ
อีกทั้งในช่วงว่าง ๆ มันยังช่วยเก็บจาน และเรื่องอื่น ๆ ได้อีกด้วย
นอกจากความอัจฉริยะที่ทำงานได้ดีเกินคาดแล้วนั้น
สิ่งที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ ก็คือยังสามารถปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในร้านได้ดีระดับหนึ่ง
ด้วยนิสัยร่าเริง อารมณ์ดีร้องเพลงไปทำงานไป เสมือนเป็นพนักงานต้อนรับที่มีชีวิตเลยทีเดียว
โดยในอนาคตจะสามารถรับออร์เดอร์อาหาร และเสนอโปรโมชันใหม่ ๆ
ผ่านหน้าจอตัวหุ่นยนต์ ที่มีทั้งแบบภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง
โดยทาง MK ก็เตรียมแผนพัฒนาความอัจฉริยะของหุ่นยนต์ อย่างต่อเนื่องในอนาคต
เช่น หุ่นยนต์จะสามารถเสิร์ฟอาหารข้ามร้านอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือ MK
ร้องเพลงฉลองวันเกิดให้ลูกค้าที่โต๊ะ เป็นต้น
โดยปัจจุบัน MK ได้ใช้หุ่นยนต์บริการเสิร์ฟอาหารจำนวน 110 ตัว ทั้งในสาขาตัวเอง
ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ และร้านอาหาร ณ สยาม ซึ่งคาดว่า เมื่อถึงสิ้นเดือนมีนาคมปีนี้
จะมีหุ่นยนต์ 530 ตัว บริการผ่านร้านอาหารในเครือ 355 สาขา
อีกทั้งในอนาคตหุ่นยนต์ทุกตัวก็จะมีการติดป้ายชื่อเป็นของตัวเองเสมือนเป็นพนักงานคนหนึ่งในร้าน
อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วในอนาคตร้านสุกี้ MK
จะลดจำนวนพนักงานแล้วหันมาใช้หุ่นยนต์มากขึ้นหรือไ่ม่
จริงๆ แล้วเป้าหมายการใช้หุ่นยนต์ของ MK คือมาช่วยงานบริการพนักงานในร้าน
ให้เบาแรงลง แต่คุณภาพบริการดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้มาทดแทนแรงงานคนแต่อย่างใด
ก็ต้องบอกว่าเป็นมิติใหม่ ในวงการร้านอาหารเมืองไทย
เมื่อวันนี้ MK เลือกใช้หุ่นยนต์ ที่ไม่ใช่แค่มาเสิร์ฟอาหารเพียงอย่างเดียว
แต่กำลังเสิร์ฟความประทับใจให้แก่ลูกค้า ที่มานั่งทานในร้าน
ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากร้านอาหารอื่น ๆ
และหากใครที่ไปทานสุกี้ที่ MK แล้วเผลอไปยืนขวางทางการทำงาน
ของน้องสุขใจ และ น้องผักกาด จนน้องทั้งสองต้องพูดว่า “ขอทางหน่อยนะครับ”
ลงทุนแมน แนะนำว่า ควรรีบหลีกทาง
เพราะท่าทางงานในแต่ละวันคงจะยุ่งน่าดูเลยทีเดียว..
References:
-https://www.youtube.com/watch?v=XaIyf-CyYLE
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon