เทรนด์อาหารสุขภาพ Plant Based โอกาสใหม่ของธุรกิจอาหาร
เทรนด์อาหารสุขภาพ Plant Based โอกาสใหม่ของธุรกิจอาหาร
ลงทุนแมน x First Pride
ลงทุนแมน x First Pride
หากพูดถึงเทรนด์การทานอาหารเพื่อสุขภาพ
คำว่า “Plant Based” หรืออาหารจากพืช 100% คงจะเป็นคำที่เราได้ยินบ่อยในช่วงนี้
คำว่า “Plant Based” หรืออาหารจากพืช 100% คงจะเป็นคำที่เราได้ยินบ่อยในช่วงนี้
ข้อมูลจาก Plant Based Foods Association (PBFA) และ Good Food Institute (GFI)
เผยว่า ยอดขายสินค้า Plant Based ในประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2020 นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 234,220 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมาจากปี 2019 ถึง 27%
เผยว่า ยอดขายสินค้า Plant Based ในประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2020 นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 234,220 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมาจากปี 2019 ถึง 27%
และในอนาคตอุตสาหกรรม Plant Based ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีก โดยบริษัท UBS ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2030 อุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2.8 ล้านล้านบาท
โดยประเภทสินค้า Plant Based ที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกาคือ
นมจากพืชซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 83,625 ล้านบาท และเนื้อจากพืชมีมูลค่าเป็นอันดับสองอยู่ที่ 46,830 ล้านบาท
นมจากพืชซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 83,625 ล้านบาท และเนื้อจากพืชมีมูลค่าเป็นอันดับสองอยู่ที่ 46,830 ล้านบาท
ถึงแม้คำว่า “Plant Based” จะดูเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงและกำลังเติบโตในตลาดโลก
แต่แท้จริงแล้วอาหารแบบ Plant Based กลับอยู่ใกล้ตัวคนเอเชียมาอย่างยาวนาน
ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ ถั่วเหลือง หรือโปรตีนเกษตร ก็ล้วนเป็น Plant Based ทั้งนั้น
แต่แท้จริงแล้วอาหารแบบ Plant Based กลับอยู่ใกล้ตัวคนเอเชียมาอย่างยาวนาน
ไม่ว่าจะเป็น เต้าหู้ ถั่วเหลือง หรือโปรตีนเกษตร ก็ล้วนเป็น Plant Based ทั้งนั้น
แต่ในปัจจุบันสินค้า Plant Based เองก็มีการพัฒนาให้มีความสมจริงมากขึ้น
โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเนื้อจากพืช ที่มีการพัฒนาถึง 3 รุ่นก่อนจะมาเป็นเนื้อเทียมที่สมจริงมากอย่างในปัจจุบัน
โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเนื้อจากพืช ที่มีการพัฒนาถึง 3 รุ่นก่อนจะมาเป็นเนื้อเทียมที่สมจริงมากอย่างในปัจจุบัน
ซึ่งในรุ่นแรกนั้นเป็นเพียงโปรตีนเกษตรธรรมดา ที่ผลิตจากเต้าหู้ หรือถั่ว มีหน้าที่ให้คุณค่าทางอาหาร
แต่ไม่ได้ให้สัมผัสเหมือนเนื้อจริง ๆ และถูกพัฒนาต่อมาในรุ่นที่ 2 ที่หันมาใช้ผักในการผลิต แต่ก็ยังไม่สามารถให้รสสัมผัสและรสชาติแบบเนื้อจริงได้ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เกิดขึ้นจากการพัฒนาอาหารทางเลือกให้แก่กลุ่มคนที่เป็นวีแกนและมังสวิรัติ
แต่ไม่ได้ให้สัมผัสเหมือนเนื้อจริง ๆ และถูกพัฒนาต่อมาในรุ่นที่ 2 ที่หันมาใช้ผักในการผลิต แต่ก็ยังไม่สามารถให้รสสัมผัสและรสชาติแบบเนื้อจริงได้ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เกิดขึ้นจากการพัฒนาอาหารทางเลือกให้แก่กลุ่มคนที่เป็นวีแกนและมังสวิรัติ
จนมาถึงรุ่นล่าสุด หรือเนื้อเทียมที่มีชื่อเรียกว่า Meat Analogue ที่ไม่เพียงแค่ให้รสชาติเหมือนเนื้อ
แต่มีเนื้อสัมผัสที่ใกล้เคียงจนเหมือนได้กินเนื้อจริงๆ ทำให้คนทุกคน แม้จะไม่ได้เป็นวีแกน หรือทานมังสวิรัติ หรือแม้แต่คนที่ยังทานเนื้อสัตว์ที่หันมาใส่ใจในสุขภาพ ก็ยังสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่ต่างจากเนื้อจริง ๆ เป็นการเพิ่มทางเลือกทางอาหารกับทุกกลุ่มคน ทำให้สามารถทานผักได้เพิ่มมากขึ้น และลดผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ลง กลายเป็นหนทางธุรกิจใหม่ที่หลาย ๆ บริษัทหันมาให้ความสนใจ
รวมถึง Tyson Foods ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นผู้นำด้านอาหารแช่แข็งที่เชี่ยวชาญในด้านอาหารและโปรตีนจากสัตว์
และเป็นบริษัทที่คนที่ไปเที่ยวที่ประเทศสหรัฐฯ หรืออยู่ที่นั่นน่าจะคุ้นเคยกันดี
เพราะบริษัท Tyson Foods นั้นมีแบรนด์อยู่ในเครือกว่า 34 แบรนด์ รวมถึงร้านอาหารดัง ๆ
อย่าง KFC, Taco Bell, McDonald's และ Burger King เองก็ใช้เนื้อไก่จากบริษัทนี้
แต่มีเนื้อสัมผัสที่ใกล้เคียงจนเหมือนได้กินเนื้อจริงๆ ทำให้คนทุกคน แม้จะไม่ได้เป็นวีแกน หรือทานมังสวิรัติ หรือแม้แต่คนที่ยังทานเนื้อสัตว์ที่หันมาใส่ใจในสุขภาพ ก็ยังสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่ต่างจากเนื้อจริง ๆ เป็นการเพิ่มทางเลือกทางอาหารกับทุกกลุ่มคน ทำให้สามารถทานผักได้เพิ่มมากขึ้น และลดผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ลง กลายเป็นหนทางธุรกิจใหม่ที่หลาย ๆ บริษัทหันมาให้ความสนใจ
รวมถึง Tyson Foods ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นผู้นำด้านอาหารแช่แข็งที่เชี่ยวชาญในด้านอาหารและโปรตีนจากสัตว์
และเป็นบริษัทที่คนที่ไปเที่ยวที่ประเทศสหรัฐฯ หรืออยู่ที่นั่นน่าจะคุ้นเคยกันดี
เพราะบริษัท Tyson Foods นั้นมีแบรนด์อยู่ในเครือกว่า 34 แบรนด์ รวมถึงร้านอาหารดัง ๆ
อย่าง KFC, Taco Bell, McDonald's และ Burger King เองก็ใช้เนื้อไก่จากบริษัทนี้
ปัจจุบันบริษัท Tyson Foods มีมูลค่าบริษัทกว่า 989,948 ล้านบาท
และเป็นหนึ่งในบริษัทด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจเนื้อจากพืชในตลาดไทย
ด้วยแบรนด์ First Pride
และเป็นหนึ่งในบริษัทด้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจเนื้อจากพืชในตลาดไทย
ด้วยแบรนด์ First Pride
โดยแบรนด์ First Pride เกิดขึ้นมาจาก Company Value ของบริษัท Tyson Foods
“Raise the world’s expectations for how much good food can do”
หรือก็คือ อาหารที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ไม่ใช่แค่เพื่อให้อิ่มท้องเท่านั้น แต่เป็นทางเลือกใหม่ ๆ
ที่นอกจากจะสร้างความสุข ยังรวมถึงสร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหารให้กับผู้คน
“Raise the world’s expectations for how much good food can do”
หรือก็คือ อาหารที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ไม่ใช่แค่เพื่อให้อิ่มท้องเท่านั้น แต่เป็นทางเลือกใหม่ ๆ
ที่นอกจากจะสร้างความสุข ยังรวมถึงสร้างแรงบันดาลใจในการทำอาหารให้กับผู้คน
ซึ่ง First Pride ก็ได้นำเอาเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาเข้ามาใช้ในการพัฒนาสินค้า
มี Innovation Center ที่ประเทศไทยพร้อมนักวิจัยอาหารและเชฟที่คิดค้นสูตรเพื่อทำให้รสชาติเนื้อจากพืชของ First Pride นั้นใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง ๆ มากที่สุด และเทคโนโลยีการผลิตที่เคลือบ 3 ชั้น (3 Steps-Coating) ทำให้สินค้ากรอบอร่อยเหมือนทานที่ร้าน โดยเปิดตัวมาเป็นสินค้าทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
มี Innovation Center ที่ประเทศไทยพร้อมนักวิจัยอาหารและเชฟที่คิดค้นสูตรเพื่อทำให้รสชาติเนื้อจากพืชของ First Pride นั้นใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง ๆ มากที่สุด และเทคโนโลยีการผลิตที่เคลือบ 3 ชั้น (3 Steps-Coating) ทำให้สินค้ากรอบอร่อยเหมือนทานที่ร้าน โดยเปิดตัวมาเป็นสินค้าทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
Crispy Nuggets นักเก็ตที่ไม่ต้องง้อเนื้อไก่, Larb Bites ไบท์รสลาบแบบไทย ๆ
และ ใหม่สุดกับ Popcorn Bites ที่เลือกใช้ป๊อปคอร์นแท้ ๆ มาช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อย
ที่ไม่ว่าจะเป็นคนที่กินเนื้อ หรือกินผักก็สามารถทานได้แบบไม่รู้สึกผิด
และ ใหม่สุดกับ Popcorn Bites ที่เลือกใช้ป๊อปคอร์นแท้ ๆ มาช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อย
ที่ไม่ว่าจะเป็นคนที่กินเนื้อ หรือกินผักก็สามารถทานได้แบบไม่รู้สึกผิด
โดยปัจจุบัน First Pride ได้เริ่มนำสินค้าเข้ามาวางขายในประเทศไทย และขยายไปยังประเทศอื่น ๆ
ในแถบเอเชีย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่อุตสาหกรรม Plant Based กำลังเติบโต
ไม่แพ้ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในแถบเอเชีย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่อุตสาหกรรม Plant Based กำลังเติบโต
ไม่แพ้ประเทศสหรัฐอเมริกา
และการที่บริษัทชั้นนำอย่าง Tyson Foods ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมนี้ ก็คงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึง
โอกาสของสินค้า Plant Based ที่จะเติบโตขึ้นไปอีกในอนาคต…
ได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมนี้ ก็คงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึง
โอกาสของสินค้า Plant Based ที่จะเติบโตขึ้นไปอีกในอนาคต…
ใครที่อ่านแล้วสนใจอยากลองสามารถหาซื้อได้ที่ Tops, Central Food Hall, Gourmet Market, Home Fresh Mart, Villa Market, Foodland, Lotus’s, Tesco Express, Lotus’s go fresh, Big C และ MaxValu
และกดสั่งซื้อทาง Shopee ตามลิงก์นี้ >> https://shp.ee/2skwkf5 กับโปรโมชั่นพิเศษลด 10% พร้อมกระเป๋าเก็บความเย็น เมื่อซื้อครบ 399.- เฉพาะวันที่ 24-26 ส.ค. นี้เท่านั้น
References:
-https://gfi.org/press/plant-based-food-retail-sales-grow-27-percent-to-reach-7-billion-in-2020/
-https://www.fooddive.com/news/plant-based-food-worth-7b-in-2020-posting-27-growth/597865/
-https://gmo-research.com/news-events/articles/plant-based-industry-asia
-https://finance.yahoo.com/news/15-largest-food-companies-world-111412454.html
-https://www.tysonfoods.com/
-https://www.firstpridethailand.com/
-https://gfi.org/press/plant-based-food-retail-sales-grow-27-percent-to-reach-7-billion-in-2020/
-https://www.fooddive.com/news/plant-based-food-worth-7b-in-2020-posting-27-growth/597865/
-https://gmo-research.com/news-events/articles/plant-based-industry-asia
-https://finance.yahoo.com/news/15-largest-food-companies-world-111412454.html
-https://www.tysonfoods.com/
-https://www.firstpridethailand.com/