ผู้ก่อตั้ง Ethereum ขึ้นแท่น เศรษฐีหมื่นล้าน ในวัย 27 ปี

ผู้ก่อตั้ง Ethereum ขึ้นแท่น เศรษฐีหมื่นล้าน ในวัย 27 ปี

ผู้ก่อตั้ง Ethereum ขึ้นแท่น เศรษฐีหมื่นล้าน ในวัย 27 ปี /โดย ลงทุนแมน
เมื่อไม่นานมานี้ ETH หรือ Ether คริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก
ได้มีมูลค่าทะลุ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเหรียญ ทำมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์
จนดันให้มูลค่าทั้งหมดของ ETH ใหญ่กว่าทั้ง Walmart, LVMH และ Mastercard
แล้วรู้หรือไม่ว่า การเติบโตของ DeFi ระบบการเงินไร้ตัวกลางที่หลายคนคิดว่าจะมาแทนธนาคาร
รวมถึง NFT เทคโนโลยีการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากคนเดียวกัน
นั่นก็คือ เด็กหนุ่มชาวรัสเซียที่ตอนนี้มีอายุเพียง 27 ปี
แต่ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐี Billionaire หรือบุคคลที่มีทรัพย์สิน
เกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3 หมื่นล้านบาท
แล้วเด็กหนุ่มคนนั้นคือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เด็กหนุ่มคนนั้นชื่อว่า “Vitalik Buterin”
ย้อนกลับไปในตอนที่ Vitalik Buterin เป็นเพียงเด็กวัย 17 ปี หรือเมื่อราว 10 ปีก่อน
พ่อของเขา หรือ Dmitriy Buterin ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ได้แนะนำให้ลูกชายรู้จักกับบิตคอยน์
แต่ครั้งแรกที่ Vitalik Buterin รู้จักกับบิตคอยน์
ตัวเขาก็ยังไม่ได้สนใจมันในทันที
เพราะคิดว่าสุดท้ายแล้วบิตคอยน์ก็จะล้มเหลว
เนื่องจากมันไม่ได้มีมูลค่าของตัวมันเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเริ่มได้ยินเรื่องราวจากคนรอบตัวบ่อยขึ้น
สุดท้ายเขาจึงเปิดใจและลองศึกษาเทคโนโลยีในตัวบิตคอยน์อย่างจริงจัง
จนกระทั่ง Vitalik Buterin ก็ได้พบว่าตัวเองหลงใหลเทคโนโลยีของบิตคอย์เป็นอย่างมาก
จึงทำให้ในเวลาต่อมา Vitalik Buterin ก่อตั้งนิตยสาร Bitcoin Magazine
เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ถึงเทคโนโลยีของคริปโทเคอร์เรนซีในเชิงลึกมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนบิตคอยน์อีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อเขาอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น

ระหว่างที่ศึกษานั่นเอง Vitalik Buterin ก็ได้เล็งเห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซีนั้นสามารถไปได้ไกลกว่าการทำธุรกรรมโอนเงินอย่างที่บิตคอยน์ทำอยู่ในปัจจุบัน
เขาจึงได้ไอเดียที่จะสร้างบล็อกเชนขึ้นใหม่ ให้ครอบคลุมการทำธุรกรรมมากขึ้น
โดยอนุญาตให้นักพัฒนาเข้ามาสร้าง Smart Contracts เพื่อให้เรานำคริปโทเคอร์เรนซีไปค้ำประกัน, การปล่อยกู้ หรือนำไปซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและอีกหลายธุรกรรมได้ นั่นเอง
โดยระบบที่ว่านี้ได้มีชื่อเรียกกันว่า “Ethereum Blockchain”
หลังจากที่ได้ไอเดียแล้ว Vitalik Buterin ก็ได้เสนอไอเดียเหล่านี้กับเหล่าทีมงานพัฒนาในชุมชนผู้ที่สนใจในบิตคอยน์แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครสนใจเนื่องจากพวกเขาให้เหตุผลว่า ไอเดียน่าสนใจก็จริง แต่มันยังเร็วไป และไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม Vitalik Buterin ก็ได้เริ่มออก White Paper หรือเอกสารที่อธิบายเกี่ยวกับหลักการทั้งหมดของ Ethereum
ซึ่งเอกสารดังกล่าว ก็ได้ดึงดูดเหล่าผู้คนในชุมชนคริปโทเคอร์เรนซีให้เข้ามาร่วมทีมพัฒนาบล็อกเชนร่วมกับเขาได้
หลังจากนั้น Vitalik Buterin และทีมงานก็ได้เดินสายโปรโมตไอเดีย
และนั่นทำให้เขาได้รับเงินทุนจากกองทุน “Thiel Fellowship” ซึ่งเป็นกองทุน
ที่ให้เงินสนับสนุนแก่นักศึกษาที่ออกจากมหาวิทยาลัยในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อโลก
โดยกองทุนดังกล่าว มีผู้ก่อตั้งคือคุณ Peter Thiel นักลงทุนที่มีชื่อเสียง
จากการเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และเป็นนักลงทุนรายแรกของ Facebook นั่นเอง
หลังจากได้รับเงินทุนแล้ว Vitalik Buterin และทีมงานก็ได้ทำให้ไอเดียเป็นรูปร่างขึ้นมา
จนในที่สุด Ethereum และเหรียญ ETH ได้เปิดตัวครั้งแรก
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ปี 2015 หรือราว 6 ปีก่อน
หลังจากนั้นก็พัฒนาเรื่อยมา
จนกลายเป็นรากฐานของ Ecosystem ของการนำคริปโทเคอร์เรนซีไปใช้ในปัจจุบัน
เช่น DeFi หรือ Decentralized Finance ระบบการเงินรูปแบบใหม่ ที่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ตั้งแต่ การฝากเงิน, การกู้ยืมเงิน, การค้ำประกัน, การทำประกัน ไปจนถึงการลงทุน ด้วยคริปโทเคอร์เรนซี
และเมื่อการทำธุรกรรมไม่ต้องผ่านตัวกลางหรือสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์
หรือสถาบันปล่อยสินเชื่อต่าง ๆ ส่งผลให้เราสามารถทำธุรกรรมการเงินได้รวดเร็วขึ้น
นอกจาก DeFi แล้ว ก็ยังมี NFT หรือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งก็เป็นอีกเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง ที่ทำให้เราสามารถสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ต้องกลัวคนอื่นมาขโมยลิขสิทธิ์
เพราะทุก ๆ ขั้นตอน คอมพิวเตอร์บนโลกที่อยู่บนระบบบล็อกเชนของ Ethereum จะทำหน้าที่คอยตรวจสอบให้
จากเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวมา สะท้อนให้เห็นว่า Ethereum
กำลังมีบทบาทสำคัญอย่างมากทั้งด้านการเงินและโลกดิจิทัล
เมื่อไม่นานมานี้มูลค่าเหรียญ ETH หรือ Ether ได้มีมูลค่าทะลุ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อเหรียญ
ขึ้นไปทำมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์
ส่งผลให้ผู้ก่อตั้งอย่าง Vitalik Buterin ถูกประเมินมูลค่าสินทรัพย์เกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3 หมื่นล้านบาท ขึ้นแท่นเศรษฐีของโลก ในวัยเพียง 27 ปี นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-หนังสือ Cryptoassets โดยคริส เบอร์นิสก์ และแจ็ก ทาทาร์
-https://cointelegraph.com/ethereum-for-beginners/who-is-vitalik-buterin
-https://cointelegraph.com/news/ethereum-co-founder-vitalik-buterin-becomes-billionaire-as-ether-hits-3k
-https://www.thewrap.com/nft-market-surges-2100-to-2-billion-in-q1-sales/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon