Samsung บริษัทที่กำลังเติบโต ในวิกฤติโควิด / โดย ลงทุนแมน

สัปดาห์ที่ผ่านมา Samsung Electronics ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020
ซึ่งถือว่าดีกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

บริษัท Samsung Electronics ไตรมาสที่ 4 ปี 2020

รายได้ 1.66 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%
กำไร 1.77 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
โดยเราสามารถแบ่งการเติบโตของรายได้ตามแต่ละกลุ่มธุรกิจ ออกเป็น

ธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น 6%
ธุรกิจสมาร์ตโฟน ลดลง 10%
ธุรกิจผลิตชิป และหน้าจอแสดงผล เพิ่มขึ้น 13%

ในขณะที่ ธุรกิจที่สร้างกำไรให้กับบริษัทสูงที่สุดก็คือ ธุรกิจผลิตชิป และหน้าจอแสดงผล
ที่สร้างกำไรสูงถึง 62% จากกำไรทั้งหมดที่บริษัททำได้ในไตรมาสที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมของแต่ละกลุ่มธุรกิจในไตรมาสที่ผ่านมานี้
ทางบริษัทได้ระบุว่า ธุรกิจสมาร์ตโฟน มีการแข่งขันที่รุนแรง
โดยเฉพาะในช่วงโปรโมชันสิ้นปี ซึ่งบริษัทจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น
ทำให้กำไรที่ทำได้ในธุรกิจสมาร์ตโฟนปรับตัวลดลง
ซึ่งตรงนี้จะสวนทางกันกับ Apple ที่มีรายได้จากธุรกิจสมาร์ตโฟนในช่วงเดียวกัน เติบโตระเบิดทั่วโลก

ในขณะที่ ธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สามารถเติบโตได้จากสินค้าพรีเมียมราคาสูง
เช่น ทีวี QLED, ตู้เย็น Bespoke และเครื่องซักผ้า AI

สำหรับกลุ่มธุรกิจที่เติบโตมากสุดของ Samsung ก็คือ ธุรกิจรับจ้างผลิตชิป และหน้าจอแสดงผล

โดยในไตรมาสล่าสุดนี้ ชิปเซตหลายตัวของบริษัทอย่าง DRAM และ NAND เติบโตขึ้น
จากการเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ตโฟน และคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกันกับการผลิตหน้าจอ ที่เติบโตขึ้นตามการผลิตสมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้น

ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทก็ได้ปรับโครงสร้างค่าใช้จ่ายในบางธุรกิจ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าแม้รายได้ของ Samsung จะเพิ่มขึ้นไม่สูงมาก แต่กำไรเพิ่มขึ้นสูงถึง 26%

หากเรามาดูผลประกอบการของ Samsung Electronics ทั้งปี 2020

รายได้ 6.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%
กำไร 7.10 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%

ซึ่งก็ถือว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung Electronics แม้จะเผชิญกับวิกฤติโรคระบาด
แต่ก็สามารถรักษาการเติบโตเอาไว้ได้ ตลอดทั้งปี

สำหรับเป้าหมายที่ บริษัท Samsung ได้วางแผนไว้ใน ครึ่งปีแรกของปีนี้ ก็แบ่งได้เป็น

1. ธุรกิจผลิตชิป

เน้นการผลิตชิป ประเภท DRAM (Dynamic Random Access Memory)
ที่ใช้สำหรับการผลิตชิปในการ์ดจอคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ และโทรทัศน์

นอกจากนี้ ทางบริษัทก็ได้คาดการณ์ว่า จะมียอดการสั่งผลิตที่มากขึ้น โดยสังเกตได้จากราคาที่สูงขึ้น กับปริมาณการสั่งซื้อชิปตัวนี้จากฐานลูกค้าในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

2. ธุรกิจสมาร์ตโฟน

ใช้โอกาสในจังหวะที่ บริษัท Huawei กำลังเผชิญปัญหาการแบนของโทรศัพท์มือถือเครือข่าย 5G จาก นานาประเทศ โดย Samsung คาดว่า Galaxy 21 โมเดลใหม่ของพวกเขาจะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดคืนกลับมาได้ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา และ ญี่ปุ่น

นอกจากนั้น กลุ่มนักวิเคราะห์ยังได้จับตามองภาพการเติบโตของการผลิตหน้าจอมือถือของ Samsung
เพราะปัจจุบัน iPhone ของค่าย Apple ได้ทำการสั่งหน้าจอ OLED จาก Samsung และ LG

นั่นก็หมายความว่า ยิ่ง Apple ขายไอโฟนรุ่นใหม่ได้ดีมากเท่าไร..
Samsung ก็จะมีรายได้จากการผลิตหน้าจอให้ Apple มากตามไปด้วยเช่นกัน

3. ธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้กับโทรทัศน์ เช่น Neo QLED/Micro LED
รวมถึงพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทาน ของผลิตภัณฑ์ตู้เย็น Bespoke
ให้รองรับการสั่งซื้อ และการกระจายสินค้าให้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบัน บริษัท Samsung Electronics
ยังคงเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดในประเทศเกาหลีใต้
โดยมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 15 ล้านล้านบาท
ซึ่งเกือบจะเท่ากับ มูลค่าบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยรวมกันทั้งหมด เลยทีเดียว..

References:
-https://www.morningstar.com/news/dow-jones/2021012715373/samsung-profit-rises-26-on-continued-pandemic-driven-demand
-https://www.reuters.com/article/us-samsung-elec-results/samsung-electronics-fourth-quarter-operating-profit-rises-26-on-chip-display-panel-sales-idUSKBN29X00I
-https://images.samsung.com/is/content/samsung/assets/global/ir/docs