กรณีศึกษา การลงทุนครั้งใหญ่ของ Nestlé ในประเทศไทย
กรณีศึกษา การลงทุนครั้งใหญ่ของ Nestlé ในประเทศไทย
Nestlé X ลงทุนแมน
Nestlé X ลงทุนแมน
Nestlé เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
มีสินค้ากว่า 2,000 แบรนด์ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก
มีสินค้ากว่า 2,000 แบรนด์ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก
โดยหนึ่งในประเทศที่ Nestlé ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขายก็คือ ประเทศไทย
ที่ในแต่ละปีมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่ในแต่ละปีมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดก็คือ Nestlé ได้ใช้เงินลงทุน 4,500 ล้านบาท
เพื่อสร้างและขยายโรงงานในประเทศไทย
เพื่อสร้างและขยายโรงงานในประเทศไทย
ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่าการลงทุนครั้งนี้
เป็นอีกก้าวสำคัญของ Nestlé ที่กำลังเกี่ยวข้องกับเราทุก ๆ คน
เป็นอีกก้าวสำคัญของ Nestlé ที่กำลังเกี่ยวข้องกับเราทุก ๆ คน
ทีนี้..หลายคนคงสงสัยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับตัวเราได้อย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่าบริษัท Nestlé เข้ามาทำธุรกิจในไทยมานาน 127 ปี
มีสินค้ากว่า 40 แบรนด์ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่ม, อาหาร, ไอศกรีม, ขนม, อาหารสัตว์เลี้ยง
ก็ไม่แปลกที่คนไทยจะคุ้นเคยและผูกพันกับสินค้าในเครือ Nestlé
มีสินค้ากว่า 40 แบรนด์ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องดื่ม, อาหาร, ไอศกรีม, ขนม, อาหารสัตว์เลี้ยง
ก็ไม่แปลกที่คนไทยจะคุ้นเคยและผูกพันกับสินค้าในเครือ Nestlé
จนเมื่อเกิด “จุดเปลี่ยน” ซึ่งก็คือพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ต้องการสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ
มองหาของทานเล่นเพื่อเพิ่มความสุข, ชื่นชอบสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนิยมช้อปออนไลน์กันมากขึ้น
มองหาของทานเล่นเพื่อเพิ่มความสุข, ชื่นชอบสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนิยมช้อปออนไลน์กันมากขึ้น
และหากต้องการตอบโจทย์ insight เหล่านี้
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการ “พัฒนานวัตกรรม และผลิตสินค้า” ให้ตรงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ก็เลยเป็นที่มาให้ Nestlé ต้องใช้งบลงทุน 4,500 ล้านบาทใน 3 โรงงาน
ที่มีทั้งการสร้างโรงงานใหม่กับขยายโรงงานเก่าให้ดีขึ้นกว่าเดิม
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการ “พัฒนานวัตกรรม และผลิตสินค้า” ให้ตรงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ก็เลยเป็นที่มาให้ Nestlé ต้องใช้งบลงทุน 4,500 ล้านบาทใน 3 โรงงาน
ที่มีทั้งการสร้างโรงงานใหม่กับขยายโรงงานเก่าให้ดีขึ้นกว่าเดิม
แล้วผู้บริโภคคนไทยจะได้รับผลดีอย่างไรกับการลงทุนครั้งนี้
โรงงานแรกคือที่ บางชัน ที่ผลิตไอศกรีม Nestlé ทุกรสชาติ โดยใช้งบ 440 ล้านบาท
ขยายไลน์การผลิต เพื่อให้เราได้มีไอศกรีมรสชาติแปลกใหม่ได้ทานตลอด
อย่างที่กลายเป็น Talk of The Town ก็คือ ไอศกรีมคิทแคท ที่เป็นการนำเอาขนมช็อกโกแลตยอดฮิตมาผสมกับไอศกรีม หรือแม้แต่ ไอศกรีมโมจิ ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่
ขยายไลน์การผลิต เพื่อให้เราได้มีไอศกรีมรสชาติแปลกใหม่ได้ทานตลอด
อย่างที่กลายเป็น Talk of The Town ก็คือ ไอศกรีมคิทแคท ที่เป็นการนำเอาขนมช็อกโกแลตยอดฮิตมาผสมกับไอศกรีม หรือแม้แต่ ไอศกรีมโมจิ ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่
ขณะเดียวกัน โรงงานแห่งนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนแพ็กเกจจิงเป็นกระดาษชนิดพิเศษ
ที่รีไซเคิลได้ และสามารถปิดผนึกห่อได้ด้วยความร้อนโดยไม่ต้องพึ่งพลาสติก
ที่รีไซเคิลได้ และสามารถปิดผนึกห่อได้ด้วยความร้อนโดยไม่ต้องพึ่งพลาสติก
โรงงานที่สอง ยูเอชที นวนคร 7 ใช้งบลงทุน 1,530 ล้านบาท
ผลิตเครื่องดื่ม UHT โดยแบรนด์ที่เรารู้จักกันดี ไมโล และ นมตราหมี
ที่นอกจากจะเพิ่มกำลังการผลิตจนถึงการคิดค้นรสชาติสินค้าใหม่ ๆ ในกลุ่ม UHT
เพื่อให้คนไทยได้มีทางเลือกในการซื้อเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้นแล้วนั้น
ผลิตเครื่องดื่ม UHT โดยแบรนด์ที่เรารู้จักกันดี ไมโล และ นมตราหมี
ที่นอกจากจะเพิ่มกำลังการผลิตจนถึงการคิดค้นรสชาติสินค้าใหม่ ๆ ในกลุ่ม UHT
เพื่อให้คนไทยได้มีทางเลือกในการซื้อเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้นแล้วนั้น
รู้หรือไม่ว่า โรงงานแห่งนี้ยังใช้เทคโนโลยีทันสมัยพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม
ส่วนแพ็กเกจจิงต่าง ๆ ก็จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างเช่น ไมโล UHT ที่ใช้หลอดกระดาษงอได้
ซึ่งคาดว่าจะลดการใช้หลอดพลาสติกมากกว่า 500 ล้านหลอดในปี 2564
ส่วนแพ็กเกจจิงต่าง ๆ ก็จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างเช่น ไมโล UHT ที่ใช้หลอดกระดาษงอได้
ซึ่งคาดว่าจะลดการใช้หลอดพลาสติกมากกว่า 500 ล้านหลอดในปี 2564
สุดท้ายคือสร้างโรงงานอมตะแห่งใหม่มูลค่า 2,530 ล้านบาท เพื่อเสริมพอร์ตอาหารสัตว์เลี้ยง
รู้หรือไม่ว่า..ในช่วงที่ผ่านมา หลายธุรกิจที่เผชิญกับความท้าทาย
ในเรื่องยอดขายจากการระบาดของโควิด 19 แต่ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงกลับโตระเบิด
รู้หรือไม่ว่า..ในช่วงที่ผ่านมา หลายธุรกิจที่เผชิญกับความท้าทาย
ในเรื่องยอดขายจากการระบาดของโควิด 19 แต่ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงกลับโตระเบิด
นั่นเพราะพฤติกรรมคนไทยที่หันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนคลายเหงามากขึ้น
พอเป็นแบบนี้ Nestlé จึงสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
จนถึงเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการเจ้าของสัตว์
ที่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงสุดที่รักของตัวเอง มีสุขภาพที่ดี
จึงพอสรุปภาพรวมการลงทุนของ Nestlé ครั้งนี้
ก็คือการขยายการลงทุน เพิ่มกำลังการผลิตสินค้า คิดค้นนวัตกรรม
ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มีโอกาสได้ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ
จนถึงได้สัมผัสกับความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลานั่นเอง
พอเป็นแบบนี้ Nestlé จึงสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
จนถึงเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการเจ้าของสัตว์
ที่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงสุดที่รักของตัวเอง มีสุขภาพที่ดี
จึงพอสรุปภาพรวมการลงทุนของ Nestlé ครั้งนี้
ก็คือการขยายการลงทุน เพิ่มกำลังการผลิตสินค้า คิดค้นนวัตกรรม
ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มีโอกาสได้ซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ
จนถึงได้สัมผัสกับความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลานั่นเอง
แล้วเรื่องที่น่าสนใจอีกอย่าง..คือเราจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 โรงงานนี้
ถูกสร้างให้กระบวนการผลิตสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ถูกสร้างให้กระบวนการผลิตสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เหตุผลมาจากนโยบายบริษัทแม่ที่ต้องการให้ภายในปี 2568 แพ็กเกจจิงสินค้า Nestlé ทั่วโลก
สามารถนำไปรีไซเคิลได้ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเป้าหมายของ Nestlé ในประเทศไทยเช่นกัน
สามารถนำไปรีไซเคิลได้ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเป้าหมายของ Nestlé ในประเทศไทยเช่นกัน
และสุดท้ายก็คือ การลงทุนเพื่อรุกตลาดอีคอมเมิร์ซ
ที่ในปี 2563 นี้ Nestlé มียอดขายในออนไลน์เติบโตกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 2 เท่า
ซึ่งก็เป็นไปตามเทรนด์พฤติกรรมการช้อปของคนไทยที่กำลังมุ่งสู่ออนไลน์เต็มตัว
ที่ในปี 2563 นี้ Nestlé มียอดขายในออนไลน์เติบโตกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 2 เท่า
ซึ่งก็เป็นไปตามเทรนด์พฤติกรรมการช้อปของคนไทยที่กำลังมุ่งสู่ออนไลน์เต็มตัว
เรื่องนี้ก็เลยทำให้ Nestlé จัดตั้งทีมอีบิสซิเนสตั้งแต่ปี 2561 ทำหน้าที่ทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาสินค้า, กลยุทธ์การตลาด และวิธีการโฆษณา
ซึ่งล่าสุดก็มีการลงทุนในทีมนี้อีก 50 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี
ซึ่งล่าสุดก็มีการลงทุนในทีมนี้อีก 50 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี
จะเห็นว่า Nestlé ปรับตัวหลายอย่างเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมคนไทยที่เปลี่ยนไป
นับเป็นโจทย์ใหญ่อันท้าทาย เพราะในอนาคตพฤติกรรมผู้บริโภคก็ต้องเปลี่ยนไปอีก
ดังนั้นภารกิจของ Nestlé ก็คือการสร้าง Good Food, Good Life
ในทุกจังหวะของการเปลี่ยนแปลง นั่นเอง..
นับเป็นโจทย์ใหญ่อันท้าทาย เพราะในอนาคตพฤติกรรมผู้บริโภคก็ต้องเปลี่ยนไปอีก
ดังนั้นภารกิจของ Nestlé ก็คือการสร้าง Good Food, Good Life
ในทุกจังหวะของการเปลี่ยนแปลง นั่นเอง..
Reference
-เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จํากัด
-เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จํากัด