ไนจีเรีย ประเทศที่ โชคดี และ โชคร้าย ในเวลาเดียวกัน

ไนจีเรีย ประเทศที่ โชคดี และ โชคร้าย ในเวลาเดียวกัน

ไนจีเรีย ประเทศที่ โชคดี และ โชคร้าย ในเวลาเดียวกัน /โดย ลงทุนแมน
ประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก
ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา
เราคงจะคิดว่า ดินแดนแห่งนี้คงจะเป็นดินแดนที่มีความมั่งคั่งและสงบสุขที่หนึ่งของโลก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม
เพราะประเทศที่เรากำลังพูดถึงนี้
มีทั้งสงคราม การประท้วง และเหตุจลาจล
เรากำลังพูดถึง ไนจีเรีย
ประเทศที่ “โชคดี” จากการมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์
แต่กลับเป็นประเทศที่ “โชคร้าย” จากการมีสิ่งเหล่านั้น ในเวลาเดียวกัน
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ไนจีเรีย เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา
เนื่องด้วยดินแดนทางทิศใต้ของไนจีเรียติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้ในช่วงศตวรรษที่ 18 ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางหนึ่งของการค้าทาส เพื่อส่งข้ามมหาสมุทรไปใช้แรงงานยังทวีปอเมริกา
ไนจีเรีย ถูกอังกฤษเข้ายึดครองครั้งแรกตั้งแต่ปี 1851
ก่อนที่จะได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 1960
ปี 2019 ไนจีเรียมีขนาดเศรษฐกิจประมาณ 14 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ของมูลค่า GDP ทั้งทวีป
ไนจีเรียมีประชากรมากถึง 207 ล้านคน มากที่สุดในบรรดาประเทศในทวีปแอฟริกา อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีตลาดแรงงาน และตลาดการบริโภคที่มีขนาดใหญ่
นอกจากนั้นแล้ว ไนจีเรียยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เช่น ก๊าซธรรมชาติ, ดีบุก, แร่เหล็ก, ถ่านหิน และที่สำคัญที่สุดคือ “น้ำมันดิบ”
ปัจจุบันไนจีเรียมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบสูงถึง 36,972 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก
และด้วยราคาน้ำมันดิบที่ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปัจจุบัน ปริมาณสำรองน้ำมันดิบของไนจีเรียจะมีมูลค่าสูงถึง 47 ล้านล้านบาท
พอรู้แบบนี้แล้ว หลายคนน่าจะคิดว่า ไนจีเรียคงเป็นประเทศที่ร่ำรวย และมีกำลังในการพัฒนาประเทศให้น่าอยู่
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้นไม่ตรงกับที่หลายคนคิด..
อุปสรรคในการพัฒนาไนจีเรียที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน เกิดจากความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง สงครามที่เกิดขึ้นภายในประเทศ และการคอร์รัปชัน
นับตั้งแต่ปี 1960 ถึง 2012 มีการประเมินว่า ปัญหาคอร์รัปชันได้สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของไนจีเรียไม่ต่ำกว่า 12.4 ล้านล้านบาท
ปี 2019 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ได้ทำการจัดอันดับประเทศจากดัชนีการคอร์รัปชันของภาครัฐ ผลปรากฏว่า ไนจีเรีย อยู่อันดับที่ 146 จากทั้งหมด 179 ประเทศ
โดยดัชนีที่ว่านี้ วัดจากกิจกรรมของภาครัฐที่มีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น เช่น การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรับสินบนจากบริษัทน้ำมันเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าไปทำการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ทรัพยากรที่มีค่าอย่างน้ำมันดิบ นำมาซึ่งปัญหามากมาย
ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่มีอยู่มาก ทำให้รัฐบาลไนจีเรียมุ่งเน้นที่จะใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรมน้ำมันเพียงอย่างเดียว จนละเลยการพัฒนาอุตสาหกรรมอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ การบริหารจัดการรายได้จากการขายน้ำมันดิบของไนจีเรีย ทำได้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนัก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แม้ไนจีเรียจะเป็นประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบมาก และส่งออกน้ำมันดิบเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC)
แต่ไนจีเรียกลับต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเป็นมูลค่ามหาศาล
รู้ไหมว่า ในช่วงปี 2015-2019 ไนจีเรียมีรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบเท่ากับ 6.4 ล้านล้านบาท
แต่กลับมีรายจ่ายที่ต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเป็นมูลค่าสูงถึง 8.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่ารายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบเสียอีก
สาเหตุของเรื่องคือ รัฐบาลมีการอุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศ และตั้งราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศให้ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง เพื่อตรึงราคาน้ำมันให้ต่ำไว้เป็นระยะเวลายาวนาน
เรื่องนี้ทำให้ไม่มีภาคเอกชนรายไหนอยากจะลงทุนสร้างโรงกลั่นในไนจีเรีย เพราะกลั่นไปอย่างไรก็ถูกกดราคาโดยภาครัฐอยู่ดี
ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันของภาครัฐก็ขาดเงินทุนในการซ่อมบำรุง เนื่องจากการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้งบประมาณที่ควรนำมาใช้ในเรื่องจำเป็น ตกไปอยู่ในมือคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เมื่อโรงกลั่นในประเทศไม่สามารถกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศแทน
พอรัฐบาลประกาศยกเลิกการอุดหนุนราคาน้ำมัน ประชาชนจำนวนมากก็ไม่พอใจ และออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาล ซึ่งหลายครั้งได้นำไปสู่ปัญหาความรุนแรงภายในประเทศ
นอกจากการบริหารทรัพยากรที่ขาดประสิทธิภาพแล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลไนจีเรียยังขาดความสามารถในการกระจายความมั่งคั่งไปสู่ประชาชนในประเทศ
วันนี้ประชากรของไนจีเรียกว่า 83 ล้านคน หรือกว่า 40% ของประชากร มีฐานะยากจน
ประชาชนหลายคนในประเทศรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และตามมาด้วยปัญหาการก่อการร้ายที่เพิ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นปัญหาระดับชาติในช่วงที่ผ่านมา
เรื่องราวของไนจีเรียดูเหมือนจะให้แง่คิดกับเราว่า
ไม่ว่าประเทศจะมีขุมทรัพย์ที่มีค่ามากแค่ไหน
แต่ถ้าบริหารจัดการได้ไม่ดี และผลประโยชน์จากทรัพยากรนั้นตกอยู่ที่คนเพียงส่วนน้อยของประเทศ
สุดท้ายแล้ว
ความโชคดีที่มีทรัพยากรอันล้ำค่า
ก็สามารถนำไปสู่ความโชคร้ายได้เหมือนกัน
เหมือนอย่างที่ไนจีเรียกำลังเจออยู่ตอนนี้ นั่นเอง..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_proven_oil_reserves
-https://en.wikipedia.org/wiki/OPEC
- https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_African_countries_by_GDP_(nominal)
-https://toi.boi.go.th/information/worldwide/57
-https://en.wikipedia.org/wiki/Nigeria
-https://www.statista.com/statistics/1121438/poverty-headcount-rate-in-nigeria-by-state/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Corruption_in_Nigeria
-https://en.wikipedia.org/wiki/Corruption_Perceptions_Index
-https://www.bbc.com/news/world-africa-35990319

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon