AOT ช่วยเหลือผู้ประกอบการยังไง ให้หุ้นลง 6%
AOT ช่วยเหลือผู้ประกอบการยังไง ให้หุ้นลง 6% / โดย ลงทุนแมน
สรุปมาตรการช่วยเหลือของ AOT ที่นักลงทุนไม่ชอบ
เปิดตลาดช่วงเช้านี้ มูลค่าบริษัท AOT หรือท่าอากาศยานไทยดิ่งลงทันที 6%
คิดเป็นมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท
เปิดตลาดช่วงเช้านี้ มูลค่าบริษัท AOT หรือท่าอากาศยานไทยดิ่งลงทันที 6%
คิดเป็นมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท
เรื่องดังกล่าวเป็นผลมาจากการประกาศมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19
สรุปมาตรการสำคัญคือ
ถ้าเป็นสัญญาผลตอบแทนแบบคงที่ AOT จะปรับลดค่าเช่าลงให้ 20%
ตั้งแต่ ก.พ. 63 ถึง ม.ค. 64 หรือ 1 ปีเต็มๆ และ อีก 1 ปี ถัดมาตั้งแต่ ก.พ. 64 ถึง มี.ค. 65 AOT จะพิจารณาอัตราการปรับลดอีกครั้ง
ถ้าเป็นสัญญาผลตอบแทนแบบคงที่ AOT จะปรับลดค่าเช่าลงให้ 20%
ตั้งแต่ ก.พ. 63 ถึง ม.ค. 64 หรือ 1 ปีเต็มๆ และ อีก 1 ปี ถัดมาตั้งแต่ ก.พ. 64 ถึง มี.ค. 65 AOT จะพิจารณาอัตราการปรับลดอีกครั้ง
ส่วนสัญญาจ่ายแบบเป็นส่วนแบ่งรายได้ ซึ่งมีผลตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee)
AOT จะงดการเก็บเงินขั้นต่ำ แต่จะเก็บเฉพาะส่วนแบ่งรายได้โดยจะเริ่มตั้งแต่ ก.พ. 63 ถึง มี.ค. 65 คิดเป็นระยะเวลา 2 ปีเต็มๆ..
AOT จะงดการเก็บเงินขั้นต่ำ แต่จะเก็บเฉพาะส่วนแบ่งรายได้โดยจะเริ่มตั้งแต่ ก.พ. 63 ถึง มี.ค. 65 คิดเป็นระยะเวลา 2 ปีเต็มๆ..
หมายความว่าจากเดิมที่ AOT จะมีรายได้ที่แน่นอนจากค่าเช่าแบบคงที่ ก็จะได้ลดลง 20% ในทันทีไปอย่างน้อย 1 ปี และจากเดิมที่ AOT ได้ผลตอบแทนขั้นต่ำ จากสัญญาประเภทส่วนแบ่งรายได้ ก็จะไม่ได้ขั้นต่ำ แต่จะได้เฉพาะยอดส่วนแบ่งรายได้แทน
AOT คิดมาให้แล้ว และคาดการณ์ว่ามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการจะกระทบต่อรายได้บริษัทในปีนี้ลดลง 5%
แต่ถ้าคิดว่ากำไร จะหายไป เท่ากับรายได้ เราจะคิดผิด
จริงๆแล้ว กำไรจะหายไปมากกว่านั้น
จริงๆแล้ว กำไรจะหายไปมากกว่านั้น
เพราะเมื่อรายได้หายไป ต้นทุนต่างๆ ของ AOT เช่น ค่าบำรุงรักษาสถานที่ ค่าใช้จ่ายพนักงาน ไม่ได้ลดลงมาก หมายความว่ารายได้ที่หายไปเกือบทั้งหมด จะไหลลงเป็นกำไรที่หายไปของ AOT ทันที ตลอดระยะเวลาของมาตรการเยียวยา นั่นก็คือ 2 ปี
ยกตัวอย่าง
ถ้าเรามีรายได้ 100 บาท ต้นทุน 60 บาท กำไร 40 บาท
ถ้าให้รายได้เหลือ 95 บาท ต้นทุน 60 บาท กำไรจะเหลือ 35 บาท
รายได้ลดลง 5% แต่กำไรจะลดลง 12.5% (คำนวณจาก 40 บาท ลดเหลือ 35 บาท)
ถ้าเรามีรายได้ 100 บาท ต้นทุน 60 บาท กำไร 40 บาท
ถ้าให้รายได้เหลือ 95 บาท ต้นทุน 60 บาท กำไรจะเหลือ 35 บาท
รายได้ลดลง 5% แต่กำไรจะลดลง 12.5% (คำนวณจาก 40 บาท ลดเหลือ 35 บาท)
อย่างไรก็ตาม AOT ไม่ได้มีรายได้จากการให้เช่าเท่านั้น
สำหรับรายได้ทุกๆ 100 บาทของ AOT มาจาก
รายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน 56 บาท
รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 44 บาท (ซึ่งเรื่องการเช่าและส่วนแบ่งรายได้จะอยู่ในนี้)
สำหรับรายได้ทุกๆ 100 บาทของ AOT มาจาก
รายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน 56 บาท
รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน 44 บาท (ซึ่งเรื่องการเช่าและส่วนแบ่งรายได้จะอยู่ในนี้)
ซึ่งรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน AOT ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะปกติแล้ว AOT จะคิดเป็นค่าธรรมเนียมต่อผู้โดยสาร ซึ่งผู้โดยสารน้อยลง รายได้ก็จะน้อยลง
โดย AOT ให้ข้อมูลว่า ทั้ง 6 สนามบิน ของ AOT มีจำนวนผู้โดยสารลดลงไป 25-30% ในช่วงนี้ จากเดิมที่มีวันละ 4.5 แสนคนต่อวัน ลดลงเหลือ 3 แสนคนต่อวัน เนื่องจากผู้โดยสารจากจีนมีสัดส่วนสูงถึง 26% สูงกว่าผู้โดยสารไทยที่มีสัดส่วน 18%
ที่น่าสนใจคือ หนึ่งในผู้เช่ารายใหญ่ของ AOT ก็คือร้านปลอดภาษีของบริษัท King Power ที่เพิ่งประมูลได้ มีสัญญาจ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรวมประมาณ 23,500 ล้านบาทต่อปี
โดยดีลที่ King Power ประมูลได้มีรายละเอียดคือ
สิทธิในการขายสินค้าปลอดอากร สนามบินสุวรรณภูมิ
ส่วนแบ่ง 20% ของรายได้ หรือขั้นต่ำ 15,419 ล้านบาทต่อปี
สิทธิในการขายสินค้าปลอดอากร สนามบินสุวรรณภูมิ
ส่วนแบ่ง 20% ของรายได้ หรือขั้นต่ำ 15,419 ล้านบาทต่อปี
สิทธิในการบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ
ส่วนแบ่ง 15% ของรายได้ หรือขั้นต่ำ 5,798 ล้านบาทต่อปี
ส่วนแบ่ง 15% ของรายได้ หรือขั้นต่ำ 5,798 ล้านบาทต่อปี
สิทธิในการขายสินค้าปลอดอากร สนามบินภูเก็ต สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินหาดใหญ่
ส่วนแบ่ง 20% ของรายได้ หรือขั้นต่ำ 2,331 ล้านบาทต่อปี
ส่วนแบ่ง 20% ของรายได้ หรือขั้นต่ำ 2,331 ล้านบาทต่อปี
นั่นหมายความว่า King Power จะถูกงดเว้นการจ่ายขั้นต่ำ 23,500 ล้านบาทต่อปี แต่ไปจ่ายส่วนแบ่งของรายได้ แทน..
เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ใครคิดว่า AOT จะเป็นเสือนอนกิน ได้รายได้จากค่าธรรมเนียม ค่าเช่า แบบนิ่มๆ น่าจะได้เรียนรู้ว่า ในวันที่เกิดเหตุการณ์พิเศษ เมื่อผืนป่าลุกเป็นไฟ เสือที่เคยนอนกิน ก็คงต้องลุกมาช่วยเพื่อนๆ ในป่า เหมือนกัน..
ใครคิดว่า AOT จะเป็นเสือนอนกิน ได้รายได้จากค่าธรรมเนียม ค่าเช่า แบบนิ่มๆ น่าจะได้เรียนรู้ว่า ในวันที่เกิดเหตุการณ์พิเศษ เมื่อผืนป่าลุกเป็นไฟ เสือที่เคยนอนกิน ก็คงต้องลุกมาช่วยเพื่อนๆ ในป่า เหมือนกัน..
ถ้าอยากรู้เรื่องเศรษฐกิจ เข้าใจโลกนี้ได้ดีขึ้น หนังสือ "เศรษฐกิจโลก 1,000 ปี" ของลงทุนแมนเพิ่งออกใหม่จะช่วยได้ หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงประวัติเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1100 ไล่ยาวไปจนถึง ค.ศ.2019 โดยเรื่องจะถูกเล่าแบบกระชับ ตั้งใจเรียบเรียง สนุก เหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ
หนังสือนี้พิมพ์ครั้งแรกขายหมดภายใน 1 สัปดาห์ ในรอบนี้เป็นการพิมพ์ครั้งที่สองซึ่งมีของมาอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มาก
สนใจรีบสั่งซื้อก่อนของหมด และซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท สั่งซื้อได้ที่
Shopee : สินค้าใน Shopee หมดแล้ว ให้สั่งใน Lazada
ลงทุนแมนรับรองว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นเล่มที่ใช้ไปได้ตลอดชีวิต
โลกทั้ง 1,000 ปีจะถูกย่นย่อ สรุปความให้เหลือ 1 เล่ม
ด้วยถ้อยคำสไตล์ลงทุนแมนที่บรรจงเชื่อมโยงร้อยเรียงขึ้นมา
โลกทั้ง 1,000 ปีจะถูกย่นย่อ สรุปความให้เหลือ 1 เล่ม
ด้วยถ้อยคำสไตล์ลงทุนแมนที่บรรจงเชื่อมโยงร้อยเรียงขึ้นมา
ถ้าใครได้อ่านแล้วจะสามารถเชื่อมโยง เข้าใจโลกได้ดีขึ้น
เหมาะแก่การซื้อไว้อ่านเอง มอบให้ญาติผู้ใหญ่เป็นของขวัญ ซื้อไปให้ลูกค้า ซื้อให้ลูกหลานอ่าน
เหมาะแก่การซื้อไว้อ่านเอง มอบให้ญาติผู้ใหญ่เป็นของขวัญ ซื้อไปให้ลูกค้า ซื้อให้ลูกหลานอ่าน
ซึ่งตัวลงทุนแมนเองก็น่าจะต้องกลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้อีกบ่อยๆเช่นกัน
ด้วยเนื้อหาที่ต้องใช้พลังในการเขียนมาก
และคงยากที่ลงทุนแมนจะเขียนเนื้อหาแนวนี้อีกครั้ง
ทำให้หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือฉบับสมบูรณ์ที่ทุกคนควรมี
ด้วยเนื้อหาที่ต้องใช้พลังในการเขียนมาก
และคงยากที่ลงทุนแมนจะเขียนเนื้อหาแนวนี้อีกครั้ง
ทำให้หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นหนังสือฉบับสมบูรณ์ที่ทุกคนควรมี
ซื้อตอนนี้มีส่วนลด 10% จากราคาปก 350 บาท
Shopee : สินค้าใน Shopee หมดแล้ว ให้สั่งใน Lazada