ฟิลิปปินส์ ประเทศที่ “เคยรวยกว่า” ไทย
ฟิลิปปินส์ ประเทศที่ “เคยรวยกว่า” ไทย /โดย ลงทุนแมน
เมื่อ 60 ปีที่แล้ว คนฟิลิปปินส์เคยมีรายได้ต่อหัวมากกว่าคนไทย 2.5 เท่า
ปี 1960 คนฟิลิปปินส์มีรายได้ต่อปี 5,450 บาท
ในขณะที่คนไทยมีรายได้ต่อปีเพียง 2,140 บาท
ในขณะที่คนไทยมีรายได้ต่อปีเพียง 2,140 บาท
แต่พอถึงปี 2018 กลับกลายเป็นคนไทยที่มีรายได้ต่อหัวมากกว่าคนฟิลิปปินส์ 2 เท่า
โดยคนไทยมีรายได้ต่อปี 216,900 บาท
คนฟิลิปปินส์มีรายได้ต่อปี 93,680 บาท
คนฟิลิปปินส์มีรายได้ต่อปี 93,680 บาท
ครั้งหนึ่งฟิลิปปินส์เคยเป็นประเทศที่รุ่งเรือง มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี
กรุงมะนิลาเป็นเมืองหลวงแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีระบบรถไฟฟ้า
ระบบการศึกษาของฟิลิปปินส์มีชื่อเสียงมากในภูมิภาค
คนไทยที่มีฐานะจำนวนไม่น้อย ส่งลูกหลานไปศึกษาต่อยังประเทศฟิลิปปินส์
คนไทยที่มีฐานะจำนวนไม่น้อย ส่งลูกหลานไปศึกษาต่อยังประเทศฟิลิปปินส์
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศหมู่เกาะที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มาวันนี้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็น
มาวันนี้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็น
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ ซีรีส์บทความ ประเทศที่ “เคยรวยกว่า” ไทย ตอน ฟิลิปปินส์
┏━━━━━━━━━━━━┓
บทความนี้ของลงทุนแมน โพสต์ล่วงหน้าใน
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
┗━━━━━━━━━━━━┛
คำตอบสำหรับคำถามนี้ อาจประกอบไปด้วยปัจจัยหลายประการด้วยกัน
┏━━━━━━━━━━━━┓
บทความนี้ของลงทุนแมน โพสต์ล่วงหน้าใน
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
┗━━━━━━━━━━━━┛
คำตอบสำหรับคำถามนี้ อาจประกอบไปด้วยปัจจัยหลายประการด้วยกัน
ประการแรกอาจจะเป็นเหตุผลที่หลายคนคิดไม่ถึง
นั่นก็คือ สภาพทางภูมิศาสตร์..
นั่นก็คือ สภาพทางภูมิศาสตร์..
หมู่เกาะฟิลิปปินส์ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางมหาสมุทร
ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากกว่า 7,600 เกาะ
ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากกว่า 7,600 เกาะ
การมีเกาะจำนวนมากทำให้การคมนาคม การสื่อสาร และการติดต่อค้าขาย
เป็นไปด้วยความยากลำบาก
เป็นไปด้วยความยากลำบาก
อีกทั้งทำเลที่ตั้งยังอยู่ในเขตวงแหวนแห่งไฟ และใกล้เส้นศูนย์สูตร
ฟิลิปปินส์จึงประสบภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และพายุไต้ฝุ่น
ภัยพิบัติเหล่านี้ล้วนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมหาศาลในทุกๆ ปี
ภัยพิบัติเหล่านี้ล้วนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมหาศาลในทุกๆ ปี
และด้วยการที่ภูมิประเทศส่วนใหญ่ยังเป็นภูเขา ทำให้พื้นที่เพาะปลูกมีน้อย
เมื่อรวมกับปัญหาภัยธรรมชาติ ทำให้บ่อยครั้ง ผลผลิตทางการเกษตรมีไม่เพียงพอต่อความต้องการอาหารในประเทศ
เมื่อรวมกับปัญหาภัยธรรมชาติ ทำให้บ่อยครั้ง ผลผลิตทางการเกษตรมีไม่เพียงพอต่อความต้องการอาหารในประเทศ
เนื่องจากฟิลิปปินส์มีปัญหาประการต่อมา ก็คือ
จำนวนประชากร..
จำนวนประชากร..
ในปี 1960 ไทยมีประชากร 27.4 ล้านคน ซึ่งมากกว่าประชากรฟิลิปปินส์ที่มีอยู่ 26.3 ล้านคน
แต่เมื่อถึงปี 2018 ไทยมีประชากร 69 ล้านคน
ในขณะที่ประชากรฟิลิปปินส์พุ่งสูงถึง 106.7 ล้านคน
ในขณะที่ประชากรฟิลิปปินส์พุ่งสูงถึง 106.7 ล้านคน
ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ล้มเหลวในการคุมกำเนิดประชากร
สาเหตุหลักมาจากความเชื่อทางศาสนาที่ไม่สนับสนุนการคุมกำเนิด
สาเหตุหลักมาจากความเชื่อทางศาสนาที่ไม่สนับสนุนการคุมกำเนิด
ประชากรฟิลิปปินส์จึงเพิ่มขึ้นในอัตรา 1.72% ต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
เมื่อมีประชากรเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่พื้นที่มีเพียง 300,000 ตารางกิโลเมตร
ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นก็คือ
ผลผลิตจากการเพาะปลูกภายในประเทศไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูประชากร
ผลผลิตจากการเพาะปลูกภายในประเทศไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูประชากร
ฟิลิปปินส์จำเป็นต้องนำเข้าอาหารหลักโดยเฉพาะข้าว จากต่างประเทศ
คิดเป็นมูลค่าถึง 22,000 ล้านบาท ในปี 2017
คิดเป็นมูลค่าถึง 22,000 ล้านบาท ในปี 2017
ยังไม่รวมสินค้านำเข้าประเภทอื่นๆ ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม ยานยนต์ และเชื้อเพลิง
ทำให้ฟิลิปปินส์ประสบปัญหาการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา
นับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา
เมื่อประชากรมาก แต่แหล่งงานในประเทศมีจำกัด ทำให้เกิดการว่างงานสูง
คนฟิลิปปินส์กว่า 10 ล้านคน จึงต้องอพยพไปทำงานยังต่างประเทศ
และนั่นทำให้ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกแรงงานมากที่สุดในโลก
รองจากอินเดียและจีน
คนฟิลิปปินส์กว่า 10 ล้านคน จึงต้องอพยพไปทำงานยังต่างประเทศ
และนั่นทำให้ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกแรงงานมากที่สุดในโลก
รองจากอินเดียและจีน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข้อเสียก็มีข้อดี
ผู้อพยพเหล่านี้ส่งเงินกลับบ้านเป็นจำนวนมาก
คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.9 แสนล้านบาท ในปี 2017 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
การส่งเงินกลับบ้านนี้สามารถช่วยบรรเทาการขาดดุล และภาวะเงินไหลออกได้ระดับหนึ่ง
ผู้อพยพเหล่านี้ส่งเงินกลับบ้านเป็นจำนวนมาก
คิดเป็นมูลค่ากว่า 9.9 แสนล้านบาท ในปี 2017 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
การส่งเงินกลับบ้านนี้สามารถช่วยบรรเทาการขาดดุล และภาวะเงินไหลออกได้ระดับหนึ่ง
ซึ่งหากเทียบกับขนาดเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์แล้ว
เงินจากผู้อพยพจะคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 10% ของ GDP ประเทศ
เงินจากผู้อพยพจะคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 10% ของ GDP ประเทศ
ค่านิยมการอพยพไปทำงานในต่างประเทศ กลายเป็นความใฝ่ฝันของชาวฟิลิปปินส์
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง นี่คือปรากฏการณ์สมองไหลครั้งใหญ่
แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง นี่คือปรากฏการณ์สมองไหลครั้งใหญ่
ผู้อพยพจำนวนไม่น้อยเป็นผู้มีทักษะความรู้ความสามารถ
ทั้งในด้านวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล หรือนักกฎหมาย
ทั้งในด้านวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล หรือนักกฎหมาย
เมื่อทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ทยอยออกจากประเทศมากขึ้นทุกปี
ฟิลิปปินส์จึงขาดบุคลากรที่ดีมาช่วยกันพัฒนาประเทศ
ฟิลิปปินส์จึงขาดบุคลากรที่ดีมาช่วยกันพัฒนาประเทศ
แต่จากปัญหา 2 ประการข้างต้น
ทั้งปัจจัยภูมิศาสตร์ และประชากร
ก็คงเทียบไม่ได้เลยกับปัญหาที่หนักหนาที่สุด
ปัญหาที่ฝังรากลึกลงมานาน
ปัญหานั้นก็คือ
คอร์รัปชัน..
ทั้งปัจจัยภูมิศาสตร์ และประชากร
ก็คงเทียบไม่ได้เลยกับปัญหาที่หนักหนาที่สุด
ปัญหาที่ฝังรากลึกลงมานาน
ปัญหานั้นก็คือ
คอร์รัปชัน..
ฟิลิปปินส์เต็มไปด้วยระบบการเมืองแบบเส้นสาย
อำนาจรัฐในฟิลิปปินส์จำเป็นต้องพึ่งพิงการสนับสนุนจากกลุ่มอำนาจอิทธิพลท้องถิ่น
อำนาจรัฐในฟิลิปปินส์จำเป็นต้องพึ่งพิงการสนับสนุนจากกลุ่มอำนาจอิทธิพลท้องถิ่น
จุดเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญจนนำฟิลิปปินส์มาสู่การเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ
เริ่มต้นจากการเมืองยุคของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส (Ferdinand Marcos)
ในช่วงปี 1965 - 1986 ซึ่งกินระยะเวลายาวนานกว่า 21 ปี
เริ่มต้นจากการเมืองยุคของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส (Ferdinand Marcos)
ในช่วงปี 1965 - 1986 ซึ่งกินระยะเวลายาวนานกว่า 21 ปี
มาร์กอสได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 1965
ในสมัยแรกของมาร์กอส เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ยังคงเจริญรุ่งเรือง
ส่วนหนึ่งมาจากการช่วยเหลือทางการเงินของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเย็น
ในสมัยแรกของมาร์กอส เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ยังคงเจริญรุ่งเรือง
ส่วนหนึ่งมาจากการช่วยเหลือทางการเงินของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเย็น
แต่ในการเลือกตั้งสมัยต่อมา
มาร์กอสได้ใช้เงินซื้อเสียงจำนวนมากจนได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
มาร์กอสได้ใช้เงินซื้อเสียงจำนวนมากจนได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
คราวนี้มาร์กอสบริหารประเทศโดยดำเนินนโยบายที่เอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่ตนเอง และพวกพ้องอย่างมหาศาล ทั้งตำแหน่งทางการเมือง และโครงการก่อสร้างต่างๆ
อีกทั้งยังกุมอำนาจผูกขาดทั้งภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรม
แต่งตั้งคนที่ไว้ใจเข้าไปคุมในกระทรวง และรัฐวิสาหกิจทั้งหมด
แต่งตั้งคนที่ไว้ใจเข้าไปคุมในกระทรวง และรัฐวิสาหกิจทั้งหมด
พร้อมแก้ไขรัฐธรรมนูญ
จากเดิมที่ประธานาธิบดีสามารถดำรงตำแหน่งครั้งละ 4 ปี ติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ให้เป็น 20 ปี
จากเดิมที่ประธานาธิบดีสามารถดำรงตำแหน่งครั้งละ 4 ปี ติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ให้เป็น 20 ปี
ท้ายที่สุด เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ..
ระบบเศรษฐกิจเกิดวิกฤติเนื่องมาจากการขาดประสิทธิภาพในการจัดการ
จนรัฐบาลต้องขอกู้เงินจาก IMF
จนรัฐบาลต้องขอกู้เงินจาก IMF
หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1962
เป็น 26,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1985
หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 73 เท่า
เป็น 26,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 1985
หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 73 เท่า
นอกจากนั้น มาร์กอสยังใช้อำนาจในการจัดการกับฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง
โดยใช้ทหารและตำรวจเข้าจัดการ
โดยใช้ทหารและตำรวจเข้าจัดการ
แต่ที่พีกที่สุดก็คือ การลอบสังหารผู้นำฝ่ายค้าน เบนิกโน อากีโน จูเนียร์ เสียชีวิตคาสนามบิน
เรื่องนี้เป็นตัวจุดชนวนให้ประชาชนทนไม่ไหว
ต่างรวมตัวกันออกมาขับไล่มาร์กอสให้พ้นจากตำแหน่งในปี 1986
เรื่องนี้เป็นตัวจุดชนวนให้ประชาชนทนไม่ไหว
ต่างรวมตัวกันออกมาขับไล่มาร์กอสให้พ้นจากตำแหน่งในปี 1986
ภรรยาของผู้นำฝ่ายค้านที่เสียชีวิตคือ คอราซอน อากีโน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกหลังจากนั้น
แม้รัฐบาลของอากีโน จะเริ่มต้นด้วยความปรารถนาดีพร้อมเสียงสนับสนุนจากประชาชน
แต่โครงสร้างสังคมที่บิดเบี้ยวไปแล้ว และผู้นำก็หนีไม่พ้นจากการกอบโกยผลประโยชน์สู่ตนเองและครอบครัว ก็นำมาสู่การต่อต้านจากประชาชนอีกครั้ง
ความสิ้นหวังในนักการเมือง ทำให้ประชาชนหันไปเลือกดาราภาพยนตร์ ที่ชื่อว่า โจเซฟ เอสตราดา
มาเป็นประธานาธิบดีในปี 1998
มาเป็นประธานาธิบดีในปี 1998
แล้วดาราผู้ไม่มีความสามารถในการบริหาร ก็ซ้ำเติมประเทศด้วยการทุจริตไม่ต่างกัน
เอสตราดาถูกยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ในปี 2001
และถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตด้วยข้อหาคอร์รัปชัน
และถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตด้วยข้อหาคอร์รัปชัน
แต่เอสตราดากลับไม่ติดคุก
เพราะได้รับอภัยโทษจากประธานาธิบดีสมัยต่อมาก็คือ กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ซึ่งเคยเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยเอสตราดา
เพราะได้รับอภัยโทษจากประธานาธิบดีสมัยต่อมาก็คือ กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ซึ่งเคยเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยเอสตราดา
ที่น่าสนใจคือ อาร์โรโย เองก็ถูกจับด้วยข้อหาทุจริตเลือกตั้งในเวลาต่อมา..
จะเห็นได้ว่า การเมืองฟิลิปปินส์ที่ผ่านมาวนเวียนอยู่กับปัญหาคอร์รัปชันของผู้นำประเทศมานานหลายสิบปี
ไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้นำไปแล้วกี่คน
คนใหม่มา ก็ยังเกิดปัญหาเดิม จนประชาชนในประเทศเริ่มหมดหวัง
สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่ร่ำรวยกว่าไทยอยู่ 2.5 เท่า
มาวันนี้ประเทศฟิลิปปินส์กลับตามหลังไทยอยู่ 2 เท่า
ไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้นำไปแล้วกี่คน
คนใหม่มา ก็ยังเกิดปัญหาเดิม จนประชาชนในประเทศเริ่มหมดหวัง
สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่ร่ำรวยกว่าไทยอยู่ 2.5 เท่า
มาวันนี้ประเทศฟิลิปปินส์กลับตามหลังไทยอยู่ 2 เท่า
เรื่องนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้กับประเทศเราได้เป็นอย่างดี
ถ้าผู้นำยังคงวนเวียนอยู่กับการคอร์รัปชัน
ไม่ว่าเราจะมีทำเลทางภูมิศาสตร์ดีอย่างไร
หรือเราจะมีประชากรที่มีความสามารถแค่ไหน
สุดท้ายผู้นำที่แย่ สามารถนำประเทศไปสู่จุดหายนะได้เสมอ
ถ้าผู้นำยังคงวนเวียนอยู่กับการคอร์รัปชัน
ไม่ว่าเราจะมีทำเลทางภูมิศาสตร์ดีอย่างไร
หรือเราจะมีประชากรที่มีความสามารถแค่ไหน
สุดท้ายผู้นำที่แย่ สามารถนำประเทศไปสู่จุดหายนะได้เสมอ
และปัญหาเดียวกัน กำลังเกิดขึ้นกับอีกประเทศในอีกซีกโลกหนึ่ง
แต่ความรุนแรงของประเทศนี้กลับมากกว่าฟิลิปปินส์
ทั้งๆ ที่ประเทศนี้มีทรัพยากรมหาศาล
ผู้คนในประเทศเคยรวยกว่าไทยถึง 11 เท่า
มาในวันนี้กลับแย่ลง จนแทบจะเป็นศูนย์
แต่ความรุนแรงของประเทศนี้กลับมากกว่าฟิลิปปินส์
ทั้งๆ ที่ประเทศนี้มีทรัพยากรมหาศาล
ผู้คนในประเทศเคยรวยกว่าไทยถึง 11 เท่า
มาในวันนี้กลับแย่ลง จนแทบจะเป็นศูนย์
ประเทศนี้มีชื่อว่า “เวเนซุเอลา”..
ติดตาม ซีรีส์ ประเทศที่ “เคยรวยกว่า” ไทย ตอนต่อไปได้ในสัปดาห์หน้า
โหลดแอป Blockdit เพื่ออ่านซีรีส์ตอนก่อนหน้านี้ ได้ที่ Blockdit.com/download
โหลดแอป Blockdit เพื่ออ่านซีรีส์ตอนก่อนหน้านี้ ได้ที่ Blockdit.com/download
----------------------
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
----------------------
References
-https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/577608
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_the_Philippines
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/philippines/trade-balance
-https://www.populationpyramid.net/philippines/1960/
-https://www.populationpyramid.net/migrants/en/philippines/2013/
-https://www.pewresearch.org/global/interactives/remittance-flows-by-country/
-http://www.worldstopexports.com/philippines-top-10-imports/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Ferdinand_Marcos
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
----------------------
References
-https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/577608
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_the_Philippines
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/philippines/trade-balance
-https://www.populationpyramid.net/philippines/1960/
-https://www.populationpyramid.net/migrants/en/philippines/2013/
-https://www.pewresearch.org/global/interactives/remittance-flows-by-country/
-http://www.worldstopexports.com/philippines-top-10-imports/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Ferdinand_Marcos