
GDP ของประเทศไทย ในมุมมองที่คิดไม่ถึง
GDP ของประเทศไทย ในมุมมองที่คิดไม่ถึง / โดย ลงทุนแมน
ปี 2018 ประเทศไทยมี GDP มูลค่า 15.7 ล้านล้านบาท
แต่ GDP ที่ว่านั้นคือ Nominal GDP ที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องค่าครองชีพ
แต่ GDP ที่ว่านั้นคือ Nominal GDP ที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องค่าครองชีพ
แต่ถ้ามีการเปรียบเทียบกับอำนาจซื้อโดยดูจากค่าครองชีพ
หรือเรียกว่า GDP at Purchasing Power Parity (PPP)
หรือเรียกว่า GDP at Purchasing Power Parity (PPP)
อันดับ GDP ของประเทศไทย จะพุ่งขึ้นสูงอย่างที่เราคาดไม่ถึง
เรื่องนี้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับคำว่า อำนาจซื้อ (Purchasing Power) คืออะไร
อำนาจซื้อ คือ ความสามารถของเงินที่จะสามารถซื้อสินค้าและบริการได้มากแค่ไหน
ถ้าราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น อำนาจซื้อของคนในประเทศก็จะลดลง
ในทางตรงข้าม ถ้าราคาสินค้าและบริการลดลง อำนาจซื้อก็เพิ่มขึ้น
ในทางตรงข้าม ถ้าราคาสินค้าและบริการลดลง อำนาจซื้อก็เพิ่มขึ้น
แน่นอนว่า ในแต่ละประเทศนั้นค่าครองชีพมีความแตกต่างกัน

การที่บนโลกเรามีประเทศกว่า 190 ประเทศ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะมีความแตกต่างด้านค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่
ประเทศไหนที่มีค่าครองชีพต่ำ แสดงว่าประเทศนั้นจะมีอำนาจซื้อสูง
เช่น คนไทยถึงแม้ว่าจะมี GDP เฉลี่ยต่อหัวไม่มาก แต่ก็อยู่ได้อย่างสบาย เมื่อเทียบกับบางประเทศที่มี GDP สูง แต่มีค่าครองชีพแพง
ซึ่งถ้าประเทศไทยถูกปรับด้วยอำนาจซื้อ
จะมีขนาด GDP (PPP) สูงถึง 41 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่กว่า Nominal GDP ถึง 2.6 เท่า
และอันดับ GDP ของไทยจะพุ่งจากอันดับ 25 เป็นอันดับที่ 19 ของโลก
จะมีขนาด GDP (PPP) สูงถึง 41 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่กว่า Nominal GDP ถึง 2.6 เท่า
และอันดับ GDP ของไทยจะพุ่งจากอันดับ 25 เป็นอันดับที่ 19 ของโลก

ส่วนประเทศที่ค่าครองชีพสูง เช่น ออสเตรเลีย จะตกอันดับจาก 14 เป็นอันดับที่ 20 ของโลก ซึ่งเป็นรองประเทศไทยเสียอีก
สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว ตัวเลข GDP (PPP) และ Nominal GDP จะมีค่าไม่แตกต่างกันมาก
แต่สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา GDP (PPP) จะสูงกว่า Nominal GDP มาก เนื่องจากค่าครองชีพต่ำมากทำให้มีอำนาจซื้อสูง
ญี่ปุ่น มีมูลค่า GDP (PPP) เท่ากับ 173 ล้านล้านบาท และ Nominal GDP 154 ล้านล้านบาท
เซาท์ซูดาน มีมูลค่า GDP (PPP) เท่ากับ 604,000 ล้านบาท และ Nominal GDP 121,800 ล้านบาท
จะเห็นว่า GDP (PPP) ของญี่ปุ่นสูงกว่า Nominal GDP เพียง 12%
แต่ขณะที่เซาท์ซูดานนั้น มี GDP (PPP) สูงกว่า Nominal GDP เกือบ 400%..
นอกจากเรื่องค่าครองชีพแล้ว มีอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า
ในช่วงปี 2016-2018
GDP ในรูปเงินบาทนั้นเติบโตเพียง 8.3%
GDP ในรูปเงินบาทนั้นเติบโตเพียง 8.3%
แต่ GDP ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐเติบโตถึง 18.3%
ซึ่งส่วนต่างนี้เป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
ซึ่งส่วนต่างนี้เป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
นั่นหมายความว่าถึงแม้ว่า GDP เราจะเติบโตไม่มาก
แต่ด้วยการที่ค่าเงินเราแข็งขึ้นมาก
จะทำให้ GDP ของไทยในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เติบโตสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว..
----------------------
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่ อ่านฟรี
โหลดเลย Blockdit.com/download
----------------------
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(PPP)
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-http://statisticstimes.com/economy/gdp-nominal-vs-gdp-ppp.php
-https://www.numbeo.com/cost-of-living/prices_by_country.jsp?displayCurrency=USD&itemId=111
-https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=409&language=TH
-https://www.worlddata.info/cost-of-living.php
แต่ด้วยการที่ค่าเงินเราแข็งขึ้นมาก
จะทำให้ GDP ของไทยในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เติบโตสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว..
----------------------
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่ อ่านฟรี
โหลดเลย Blockdit.com/download
----------------------
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(PPP)
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_countries_by_GDP_(nominal)
-http://statisticstimes.com/economy/gdp-nominal-vs-gdp-ppp.php
-https://www.numbeo.com/cost-of-living/prices_by_country.jsp?displayCurrency=USD&itemId=111
-https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=409&language=TH
-https://www.worlddata.info/cost-of-living.php