L’ORÉAL บริษัทเครื่องสำอางใหญ่สุดในโลก / โดย ลงทุนแมน

พูดถึง L’Oréal บางคนคิดว่าบริษัทนี้อิ่มตัว
รู้ไหมว่า ตอนนี้บริษัท L’Oréal กำลังเติบโตดี
และมีมูลค่าบริษัทกว่า 4.6 ล้านล้านบาท
คิดเป็น 1 ใน 3 ของมูลค่า GDP ประเทศไทยทั้งประเทศ

แล้วตอนนี้ L’Oréal เติบโตดีขนาดไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ปัจจุบัน ไม่ว่าเราจะไป Boots, Watsons, Sephora, Eveandboy หรือแม้แต่ร้านตัดผม
เราจะเจอสินค้าในเครือของ L’Oréal อย่างน้อย 1 แบรนด์..

เรื่องนี้เกิดมาจากโมเดลธุรกิจของบริษัท L’Oréal ที่โฟกัสการขยายพอร์ตสินค้าโดยการเข้าซื้อกิจการบำรุงผิว เครื่องสำอางชั้นนำทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น

ปี 1967 เข้าซื้อ Lancôme และ Garnier
ปี 1971 เข้าซื้อ Biotherm
ปี 1989 เข้าซื้อ La Roche-Posay
ปี 1996 เข้าซื้อ Maybelline
ปี 2002 เข้าซื้อ Shu Uemura
ปี 2014 เข้าซื้อ NYX

และอีกหลายแบรนด์ จนปัจจุบัน L’Oréal มีแบรนด์ในเครือกว่า 36 แบรนด์ และขายอยู่ใน 150 ประเทศทั่วโลก..

แล้วตอนนี้ L’Oréal ขายดีขนาดไหน?

จากผลประกอบการล่าสุดของบริษัท L’Oréal สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2019

รายได้ 5.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2018
กำไร 8.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2018

แล้วรายได้ของ L’Oréal มาจากธุรกิจกลุ่มไหนบ้าง?

44.1% จากธุรกิจกลุ่ม Consumer Products
เป็นผลิตภัณฑ์ค้าปลีก เช่น L’Oréal Paris, Garnier, NYX, Maybelline

34.8% จากธุรกิจกลุ่ม L’Oréal Luxe
เป็นสินค้าเคาท์เตอร์แบรนด์ เช่น Lancôme, Giorgio Armani Beauty, Yves Saint Laurent Beauté, Biotherm, Kiehl's, Shu Uemura, Urban Decay

11.6% จากธุรกิจกลุ่ม Professional Products
เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เช่น L’Oréal Professional, Pureology, Kérastase

9.5% จากธุรกิจกลุ่ม Active Cosmetics
เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เช่น Vichy, CeraVe, SkinCeuticals

และถ้าดูว่าลูกค้าซื้อของ L’Oréal จากพื้นที่ไหน?

โซนเอเชียแปซิฟิก 31%
โซนยุโรปตะวันตก 28%
โซนอเมริกาเหนือ 26%
และโซนอื่นๆ อีก 15%

แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ แบรนด์ของบริษัท L’Oréal สามารถเข้าถึงคนทั่วโลกได้ไม่แพ้ธุรกิจเทคโนโลยีอย่าง Facebook หรือ Twitter

ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า ตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ L’Oréal ในตอนนี้เติบโต ไม่ได้มาจากการเพิ่มหน้าร้าน หรือเพิ่มตัวแทนจำหน่าย..

แต่กลับเป็นช่องทาง E-Commerce ที่เติบโตขึ้นเกือบ 49%
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า หากเราเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง
E-Commerce ไม่ได้มาฆ่าเรา แต่กลับทำให้เราขายดีขึ้นไปอีก

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ เจ้าของบริษัท L’Oréal คุณ Françoise Bettencourt Meyers และครอบครัวมีทรัพย์สินรวมกันกว่า 1.6 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นเศรษฐีที่รวยอันดับต้นๆ ของโลก

เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

ในวันที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน แข่งขันกันเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีชั้นนำของโลก

แต่หลายบริษัทฝรั่งเศส กลับเลือกที่เป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น LVMH หรือ L’Oréal

ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ดี ไม่แพ้บริษัทเทคโนโลยี..
----------------------
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่ อ่านฟรี
โหลดเลย Blockdit.com/download
----------------------
References
-L’Oréal, Earning Calls First-half 2019
-https://www.loreal-finance.com/en/annual-report-2018/acquisitions-2-4/