ทุกคนคงเคยเห็นโฆษณา การดัดฟันแบบไม่ต้องใส่เหล็กดัด
บริษัทที่ผูกขาดธุรกิจนี้ชื่อ Align Technology
เจ้าของผลิตภัณฑ์ชื่อ Invisalign

จุดเริ่มต้นของบริษัท Align Technolgy เริ่มมากจากราวๆ 20 ปีก่อน

นักศึกษาจบใหม่จาก Stanford นาม Zia Chishti ได้พบว่า

การใส่เหล็กดัดฟันมีความยุ่งยากและไม่สะดวกหลายอย่าง เขาจึงเกิดไอเดียว่าจะต้องหาวิธีการใหม่ๆ ที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น สำหรับคนดัดฟัน

Zia จึงได้ร่วมกับเพื่อนๆก่อตั้งบริษัท Align Technology ขึ้นมา โดยใช้เทคโนโลยีการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ และเครื่องปรินท์สามมิติ ซึ่งถือว่าเป็นของใหม่มากในยุคนั้น มาใช้ในการออกแบบ และสร้าง plastic retainer

ซึ่งก็เหมือนกับธุรกิจตั้งใหม่โดยส่วนใหญ่ ในช่วงแรก Align Technology ประสบปัญหาในการระดมทุมอย่างมาก Zia และผู้ก่อตั้งคนอื่นๆต้องใช้ ความพยายามอย่างมากเพื่อจะได้เงินทุนมาสนับสนุนไอเดียของพวกเขา

มีเรื่องเล่าว่าในที่สุดบริษัทได้รับเงินทุน เนื่องจากระหว่างการประชุมเพื่อขอเงินทุน ทางทีมของ Align Technology ได้สวมผลิตภัณฑ์ดัดฟันพลาสติกแบบใหม่ของพวกเขา โดยที่นักลงทุนแทบไม่สังเกตเห็นเลยว่าพวกเขาใส่ที่ดัดฟันอยู่ นักลงทุนกลุ่มนั้นเลยเกิดความประทับใจมาก

ความลำบากของพวกเขาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ในช่วงแรกๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ของพวกเขา ก็แทบจะไม่ได้รับความเชื่อถือเลย เนื่องจากในทีมก่อตั้งนั้น ไม่มีใครเลยที่เรียนจบทางด้านทันตกรรมมา

บริษัทจึงต้องทุ่มความพยายาม(และเงิน)อย่างหนัก เพื่อให้เกิดความต้องการใช้สินค้าของพวกเขาจากผู้บริโภค และการยอมรับจากเหล่าทันตแพทย์

ต่อมาบริษัท Align Technology สามารถเข้าระดมทุน IPO ได้ในปี 2001 หลังจากนั้นไม่นาน Zia Chishti ก็ลาออกจากบริษัท

แต่ในความเป็นจริงคือ Zia Chishti ถูกกดดันให้ลาออก เนื่องจากเขาเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ปากีสถาน และตัวเขาก็เคยอาศัยและศึกษาในปากีสถานในช่วงวัยเด็ก

บริษัท Align Technology จึงได้มีออฟฟิศในปากีสถาน เพื่อใช้ในงานออกแบบสามมิติ หลังจากเหตุการณ์ 9/11 Zia ยังคงยืนยันที่จะให้บริษัทมีออฟฟิศในปากีสถานต่อ ทำให้เกิดความไม่พอใจจากบอร์ด เป็นที่มาที่ทำให้เขาต้องลาออกในที่สุด

แม้จะผ่านช่วงล้มลุกคลุกคลานมามากมาย แต่ด้วยตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง เป็นที่ถูกใจผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

ข้อดีของ Invisalign เมื่อเทียบกับเหล็กดัดฟันแบบดั้งเดิม มีหลายข้อ หลักๆคือการที่มันใส มองไม่เห็น และทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องเศษอาหารติดฟัน

ที่น่าสนใจคือ สินค้าสามารถบวกกำไรได้มากเพราะเป็นนวัตกรรม คนที่จะจัดฟันแบบนี้ต้องจ่ายเงินถึงหลักแสนบาท แต่คนก็ยอมจ่ายเพราะความไว้วางใจในแบรนด์ Invisalign

และข้อสำคัญที่สุดคือ สินค้าทุกๆชิ้นจะถูกออกแบบโดยบริษัท Align Techonology ทันตแพทย์มีหน้าที่เสมือนเป็นแค่นายหน้าส่งงานให้บริษัท Align Technology เท่านั้น

พอเรื่องเป็นอย่างนี้ บริษัทนี้ก็เริ่มที่จะกินรวบการจัดฟันแบบใสมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่งผลให้บริษัทมียอดขายและกำไรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2014 2015 2016 บริษัทมียอดขายราวๆ 25,000 28,000 36,000 ล้านบาท และมีกำไร 4,900 4,800 6,300 ล้านบาทตามลำดับ

นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า แม้ผู้ก่อตั้งไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในด้านทันตกกรม แต่ด้วยความที่มองเห็นปัญหาของผู้บริโภค ก็สมามารถทำผลิตภัณฑ์ ที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคได้..