
ผ่อนสินค้า 0% แล้ว ใครได้เงินบ้าง?
ผ่อนสินค้า 0% แล้ว ใครได้เงินบ้าง? / โดย ลงทุนแมน
หลายคนน่าจะเคยสงสัยว่า
เมื่อเราซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต ที่มีโปรโมชันดอกเบี้ย 0%
มองผ่านๆ ดูเหมือนว่าผู้ซื้อน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด
และสถาบันการเงินที่ไม่ได้ดอกเบี้ย น่าจะเป็นผู้เสียประโยชน์
เมื่อเราซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต ที่มีโปรโมชันดอกเบี้ย 0%
มองผ่านๆ ดูเหมือนว่าผู้ซื้อน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด
และสถาบันการเงินที่ไม่ได้ดอกเบี้ย น่าจะเป็นผู้เสียประโยชน์
แต่จริงๆ แล้วมันเป็นแบบนี้หรือไม่ ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
สมมติว่าเราอยากซื้อสมาร์ตโฟน ราคา 30,000 บาท
โดยสามารถผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน
โดยสามารถผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน
ในกรณีนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีทั้งหมด 3 ฝ่ายคือ
1.ลูกค้า
2.ร้านค้า
3.สถาบันการเงินเจ้าของบัตรเครดิต
1.ลูกค้า
2.ร้านค้า
3.สถาบันการเงินเจ้าของบัตรเครดิต
เรามาดูว่าแต่ละฝ่ายจะได้ประโยชน์อะไรในธุรกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
สำหรับลูกค้า แน่นอนว่าเขาจะได้สมาร์ตโฟนกลับไปใช้เลยเมื่อตัดสินใจซื้อ
โดยที่มีหน้าที่ผ่อนชำระค่าบัตรเครดิตเดือนละ 3,000 บาทให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดคือ 10 เดือน
โดยที่มีหน้าที่ผ่อนชำระค่าบัตรเครดิตเดือนละ 3,000 บาทให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดคือ 10 เดือน
สำหรับร้านค้า จะได้รับเงินค่าขายสินค้าจากสถาบันการเงินทันทีเช่นกัน
ส่วนสถาบันการเงินหรือผู้ออกบัตรเครดิต มีหน้าที่เรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามระยะเวลาที่ผ่อนคือ 10 เดือน
สถาบันการเงินผู้ออกบัตรดูเหมือนจะเสียเปรียบมากที่สุด เพราะต้องตามเก็บเงินจากลูกค้าซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นหนี้เสียหรือไม่
แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีอะไรซ่อนอยู่ที่เราอาจนึกไม่ถึง
1. สถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะได้ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากร้านค้าตามที่ตกลงกัน
เช่น ถ้าตกลงกันที่ 2% ร้านค้าก็จะต้องเสียส่วนแบ่งให้กับสถาบันการเงิน 600 บาท เหลือ 29,400 บาทที่ร้านค้าจะได้รับ
เช่น ถ้าตกลงกันที่ 2% ร้านค้าก็จะต้องเสียส่วนแบ่งให้กับสถาบันการเงิน 600 บาท เหลือ 29,400 บาทที่ร้านค้าจะได้รับ
2. แม้ว่าสถาบันการเงินจะไม่ได้รับดอกเบี้ย แต่ถ้าในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถผ่อนชำระตามเวลาที่กำหนด สถาบันการเงินจะเริ่มคิดดอกเบี้ย และ ดอกเบี้ยนี้สูงเสียด้วย
3. การผ่อนสินค้าดอกเบี้ย 0% เป็นการทำให้บัตรเครดิตของสถาบันการเงิน มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง มีภาระผูกพันที่จะผ่อนสินค้าไปนานๆ และมีโอกาสที่จะนำบัตรเครดิตนั้นไปซื้อสินค้าชิ้นต่อไป และนั่นหมายถึงโอกาสที่จะได้ดอกเบี้ยจากลูกค้าที่ผิดนัดผ่อนชำระ
4. ข้อมูลในการซื้อสินค้าของลูกค้าในแต่ละครั้ง สถาบันการเงินสามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอด เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาสินเชื่อหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เพื่อขายให้แก่ลูกค้าในอนาคต
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมบัตรเครดิตในประเทศไทยจึงเติบโตได้ดี
สถิติจำนวนบัตรเครดิตของประเทศไทย
ปี 2558 จำนวนบัตรเครดิต 18.9 ล้านใบ
ปี 2559 จำนวนบัตรเครดิต 20.1 ล้านใบ
ปี 2560 จำนวนบัตรเครดิต 20.3 ล้านใบ
ปี 2558 จำนวนบัตรเครดิต 18.9 ล้านใบ
ปี 2559 จำนวนบัตรเครดิต 20.1 ล้านใบ
ปี 2560 จำนวนบัตรเครดิต 20.3 ล้านใบ
สรุปแล้ว ข้อดีของการผ่อน 0% ด้วยบัตรเครดิต ก็คือ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินก้อนในคราวเดียว โดยให้ร้านค้าเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าธรรมเนียมบางส่วน และ สถาบันการเงินผู้ออกบัตรเครดิตรับภาระในการตามเก็บเงิน
ซึ่งถ้าเรามีวินัยในการผ่อนชำระ เรื่องนี้ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับเรา
จุดสำคัญของเรื่องนี้คือ ถ้าผู้ที่ซื้อสินค้าเริ่มไม่สามารถผ่อนได้ครบตามกำหนดทั้งจำนวนเงินหรือระยะเวลา เช่น เริ่มจ่ายขั้นต่ำหรือเริ่มผ่อนชำระช้ากว่ากำหนด สถาบันการเงินจะเริ่มมาคิดดอกเบี้ยจากบัตรเครดิต
ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ 18% ซึ่งอัตรานี้ถูกควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ถ้าคิดง่ายๆ ว่าเราค้างชำระ 1 ปี จากราคาสินค้า 30,000 บาท ถ้ารวมดอกเบี้ย 18% ต่อปี เข้าไปด้วย ก็จะกลายเป็น 35,400 บาทในทันที
จากที่เราจะซื้อของได้ถูกลง กลับกลายเป็นว่าเราต้องจ่ายค่าสินค้านั้นแพงขึ้น..
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในปี 2560 มีการสำรวจพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตของคนกรุงเทพฯ พบว่ามีการชำระหนี้บัตรเครดิตตามกำหนดและเต็มจำนวนเพียง 54% หมายความว่าอีก 46% ของผู้ใช้บัตรเครดิตนั้นชำระไม่ครบจำนวนหรือชำระไม่ตรงตามกำหนดเวลา
และนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้สถาบันการเงินพยายามทำโปรโมชันลักษณะนี้ออกมาเรื่อยๆ เพราะยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ชำระหนี้ขั้นต่ำหรือล่าช้า ทำให้สถาบันการเงินมีรายได้ดอกเบี้ยบัตรเครดิต
ดังนั้น ในเรื่องของการซื้อสินค้าที่มีโปรโมชันการผ่อนชำระค่าสินค้า 0% นั้น เราต้องแน่ใจว่าตัวเองมีวินัยที่ดีพอในการผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่กำหนด
เพราะไม่เช่นนั้น คนที่ดูเหมือนว่าจะได้ประโยชน์ จริงๆ แล้ว อาจจะกลายเป็นคนที่เสียประโยชน์มากที่สุดก็เป็นได้..
----------------------
References
-http://monkeyfreetime.blogspot.com/2017/12/0-10.html
-https://www.moneyguru.co.th/blog/ผ่อน-0เปอร์เซ็นต์
- https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/News2560/n3660t.pdf
- http://www.imoneythailand.com/articles/how-to-calculate-credit-card-interest/
- https://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=KTC&ssoPageId=4&language=th&country=TH
-http://www.bltbangkok.com/POLL/รูดปรื๊ดๆเผยพฤติกรรมรูดบัตรคนกรุง
----------------------
References
-http://monkeyfreetime.blogspot.com/2017/12/0-10.html
-https://www.moneyguru.co.th/blog/ผ่อน-0เปอร์เซ็นต์
- https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/News2560/n3660t.pdf
- http://www.imoneythailand.com/articles/how-to-calculate-credit-card-interest/
- https://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=KTC&ssoPageId=4&language=th&country=TH
-http://www.bltbangkok.com/POLL/รูดปรื๊ดๆเผยพฤติกรรมรูดบัตรคนกรุง