See’s Candies ร้านลูกกวาดของ Warren Buffett / โดย ลงทุนแมน

Warren Buffett ได้ลิ้มรสขนมของ See’s Candies เป็นครั้งแรกในปี 1971
หลังจากนั้น 1 ปี เขาก็ตัดสินใจซื้อธุรกิจขายลูกกวาดนี้ในราคา 830 ล้านบาท
ปัจจุบัน See’s Candies สามารถสร้างกำไรมากถึง 3,323 ล้านบาทต่อปี
คงต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในเคสการลงทุนที่สุดคลาสสิกของ Warren Buffett

Warren Buffett เห็นอะไรในธุรกิจขายลูกกวาดนี้?
และเหตุใดเขาจึงตัดสินใจซื้อ See’s Candies?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

See’s Candies เริ่มต้นจากความฝันของ Charles See ที่อยากจะมีร้านขายลูกกวาดฝีมือของคุณแม่

เขาจึงเปิดร้าน See’s Candies สาขาแรกที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1921

เมื่อเวลาผ่านไป See’s Candies ก็มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ทั้งในแง่ของประเภทขนมหวาน จำนวนสาขา รวมทั้งการเพิ่มบริการ Delivery

โดยเน้นคติที่ว่า “คุณภาพไม่สามารถต่อรองได้”

ทำให้ลูกค้าของ See’s Candies มีตั้งแต่ประชาชนทั่วไป ไปจนถึงคนดังระดับ Hollywood

แม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ทำลูกกวาดเริ่มขาดตลาด
แต่ See’s Candies ก็ยังคงยืนหยัดในเรื่องคุณภาพ ยอมผลิตสินค้าในปริมาณที่ลดลง

ซึ่งผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าลูกค้าก็ยังยินดีที่จะต่อคิวเพื่อรอซื้อขนมของร้าน See’s Candies

แต่เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาในเรื่องการลงทุนก็เพราะว่า

ในปี 1972 Warren Buffett นักลงทุนชื่อดังได้ขอซื้อกิจการจากครอบครัว See

See’s Candies กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ Buffett ชอบมากที่สุด

โดยเขามักกล่าวว่า See’s Candies ถือเป็นธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ

แล้ว Warren Buffett เห็นอะไรใน See’s Candies?

ลองคิดกันง่ายๆ ว่าธุรกิจที่สมบูรณ์แบบจะต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง
การบริหารจัดการที่ดี
สามารถขึ้นราคาได้โดยที่ไม่เสียลูกค้า
ใช้เงินลงทุนน้อย และมีกำไรมาก

See’s Candies มีแทบทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมด

โดย Buffett ได้กล่าวไว้ตอนที่ตัดสินใจซื้อ See’s Candies ว่า

“ทุกคนในแคลิฟอร์เนียชื่นชอบและประทับใจใน See’s Candies จนทำให้กลายเป็นแบรนด์ในใจของใครหลายๆ คน และการที่เราเข้าไปอยู่ในใจของผู้คนได้ ทำให้เราสามารถขึ้นราคาได้”

Buffett มีความเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คนก็ยังกินขนมหวานเหล่านี้อยู่

เช่นเดียวกับกรณีของ Coca-Cola หรือโค้ก หุ้นอีกหนึ่งตัวที่ Buffett ถือมาอย่างยาวนาน
เพราะ โค้กเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม และอยู่ในใจของใครหลายคน

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปขนาดไหน คนจะออกมาบอกว่ามันไม่ดีอย่างไร คนส่วนใหญ่ก็ยังดื่มโค้กอยู่ดี

เพราะโค้กก็คือโค้ก..

เรื่องที่น่าสนใจคือ Buffett กล่าวว่าหากเขาไม่ได้ซื้อ See’s Candies เขาก็คงไม่ได้ตัดสินใจซื้อหุ้น Coca-Cola ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ของเขาเช่นกัน

ย้อนกลับมาดูรายได้ของ See’s Candies

ในปี 1972 ธุรกิจนี้มีรายได้ 997 ล้านบาท และกำไร 140 ล้านบาท

และในปี 2007 พบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 13 เท่า อยู่ที่ 12,727 ล้านบาท
ส่วนกำไรเพิ่มเกือบ 20 เท่า เป็น 2,725 ล้านบาท

โดยในปี 2011 Buffett ออกมาประกาศว่าตลอด 40 ปีที่ผ่านมา See’s Candies ได้ทำกำไรให้เขากว่า 5 หมื่นล้านบาทแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำเงินได้ 5 หมื่นล้านบาท จากการลงทุน 830 ล้านบาท

ปัจจุบัน See’s Candies ยังทำขนมโดยเน้นหลักการ “คุณภาพไม่สามารถต่อรองได้” เช่นเดิม

แน่นอนว่าหนึ่งในลูกค้าประจำของ See’s Candies ก็คือตัว Warren Buffett เอง

โดยจะสังเกตได้จากกล่องขนม Peanut Brittle ที่มักจะวางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าผู้ถือหุ้นนับพันของ Berkshire Hathaway ในการประชุมผู้ถือหุ้นทุกปี

และในการประชุมที่ผ่านมา Buffett ก็ได้กล่าวถึง Elon Musk อย่างติดตลกว่า Musk คงไม่เข้ามาทำธุรกิจลูกกวาดแข่งกับเขาหรอกนะ

แต่เรื่องที่ตลกกว่า คือหลังจากนั้นไม่นาน Elon Musk ก็ตอบโต้ในทวิตเตอร์ว่า เขาจะเปิดบริษัทผลิตลูกกวาดมาแข่งกับ Buffett

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้า Elon Musk ทำลูกกวาดจริง จะสู้กับ See’s Candies ของ Buffett ได้หรือไม่..
----------------------
นอกจากร้านลูกกวาดแล้ว ติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ แบบเรียลไทม์ได้ที่แอปพลิเคชันลงทุนแมน โหลดฟรีทั้ง iOS และ android www.blockdit.com/app

แอปพลิเคชัน blockdit ไม่ได้มีแต่เรื่องลงทุน เรื่องเกมก็มีนะ
----------------------

Reference
-https://www.sees.com
-https://www.forbes.com/sites/jenniferwang/2017/10/24/the-greatest-givers-americas-20-most-generous-philanthropists/#2b8f80b0661e
-https://www.fool.com/investing/general/2014/07/13/warren-buffett-bought-this-company-for-25-million.aspx
-https://www.valuewalk.com/2015/01/sees-candies-case-study-prepared/
-บทความนี้ใชอัตราแลกเปลี่ยนเดียวกันทั้งหมดคือ USD/THB 33.23
[8751].