ROE ตัวเลขการเงิน ที่เราควรรู้

ROE ตัวเลขการเงิน ที่เราควรรู้

ROE ตัวเลขการเงิน ที่เราควรรู้ / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนไม่ค่อยได้พูดถึงเกี่ยวกับตัวเลขวิชาการ
เพราะรู้ว่าพูดไปแล้วเข้าใจยาก น่าเบื่อ
ส่วนใหญ่จะชอบเล่าเรื่องให้ฟังมากกว่า
แต่ถ้าถามว่ามีตัวเลขทางการเงินตัวไหน
ที่อย่างน้อยเราควรต้องรู้
หนึ่งในนั้นคงต้องตอบว่า ROE
ROE น่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ROE ย่อมาจาก Return on Equity
มีค่าเป็นอัตราส่วน หรือ %
โดยมีวิธีการคำนวณ คือ กำไร หารด้วย ส่วนของผู้ถือหุ้น
แปลความหมายให้เข้าใจง่ายคือ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ต่อ ส่วนของผู้ถือหุ้น ถ้าตัวเลขนี้มากแปลว่าบริษัทมีประสิทธิภาพในการทำกำไรมาก
กำไรทุกคนคงรู้กันอยู่แล้วว่า คืออะไร
แต่ส่วนของผู้ถือหุ้น คืออะไร?
ส่วนของผู้ถือหุ้น คือ ส่วนของทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทหักออกด้วยหนี้สินของบริษัท
ถ้าให้ยกตัวอย่างบริษัทให้ชัดเจนขึ้น
บริษัท CPALL เจ้าของ 7-11 จะมี ROE เท่าไหร่ ในปี 2560 ?
กำไรสุทธิ 19,908 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 65,265 ล้านบาท (เฉลี่ยต้นปีและปลายปี)
ดังนั้น ROE เท่ากับ 30.5%
หมายความว่า CPALL ใช้ส่วนของผู้ถือหุ้น 100 บาท ในการทำกำไรได้ 30.5 บาท
ถ้าตัวเลข ROE อยู่ในระดับ 20% ขึ้นไป ถือว่าประสิทธิภาพการทำกำไรอยู่ในระดับสูง
มาดูอีกตัวอย่างหนึ่ง
บริษัท AOT ผู้บริหารสนามบินหลักของประเทศ มี ROE เท่าไหร่ ในปี 2560 ?
กำไรสุทธิ 20,684 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น 126,349 ล้านบาท
ดังนั้น ROE เท่ากับ 16.37%
จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 บริษัทมี ROE ที่ต่างกัน
บริษัท AOT มีกำไรต่อส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า CPALL
ตัวเลขนี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละธุรกิจ
โดยทั่วไป
ธุรกิจที่มีแบรนด์ มีความสามารถในการแข่งขัน และใช้ทุนในการขยายกิจการน้อย จะมี ROE ที่สูงกว่า
เพราะเราสามารถทำกำไรได้มากเมื่อเทียบกับเงินทุนของเรา
สำหรับธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง และต้องใช้ทุนสูง จะมี ROE ที่น้อย
รวมถึงสำหรับบริษัทที่มีทรัพย์สินเยอะเกินไป หรือเก็บเงินไว้กับบริษัทเยอะเกินไป แต่ไม่สามารถทำกำไรได้ ก็อาจส่งผลให้มี ROE ที่แย่ได้
เราสามารถนำตัวเลขนี้ไปวิเคราะห์โมเดลธุรกิจต่างๆ ได้ ว่าธุรกิจไหนทำกำไรได้ดี
แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เพราะการลงทุนคือการมองไปในอนาคต
ถ้าเราลงทุนในบริษัทที่ ROE ต่ำ แต่ถ้าบริษัทนั้นมีแนวโน้มที่มีตัวเลข ROE ที่ดีขึ้นในอนาคต ก็อาจจะเป็นการลงทุนที่ดี
แต่ถ้าเราลงทุนในบริษัทที่ ROE สูง แต่ถ้าบริษัทนั้นมีแนวโน้มของ ROE ที่แย่ลง ก็อาจจะเป็นการลงทุนที่ไม่ดี
ดังนั้น ROE จะเหมือนเป็นแค่กระจกมองหลังของธุรกิจว่ามีสถานะที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
การมองไปในอนาคตเป็นศิลปะที่ต้องใช้ประสบการณ์และความเข้าใจในธุรกิจประกอบด้วย
แต่โดยทั่วไปแล้ว
สำหรับบริษัทที่แข็งแกร่ง ไม่เก็บเงินในบริษัทมากเกินไป และ จ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นสม่ำเสมอ จะสามารถรักษา ROE ที่สูงอยู่ในระดับ 20% ขึ้นไปได้อย่างสม่ำเสมอ และถือเป็นตัวชี้วัดว่าบริษัทนั้นเป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพได้..
----------------------
อยากรู้เรื่องการลงทุนอ่าน ROE บทความเดียวคงไม่พอ
ติดตามเรื่องอื่นๆ ของลงทุนแมน ได้ที่
-แอปลงทุนแมน blockdit.com/app
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
-หนังสือลงทุนแมน เล่ม 1-3 ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon