Baidu บริษัทกูเกิลของคนจีน / โดย ลงทุนแมน

Baidu อ่านว่า ไป่ตู้ แปลว่า นับไม่ถ้วน
คนไทยใช้ Google ในการค้นหา แต่คนจีนใช้ Baidu
บริษัทนี้เป็นบริษัทเทคโนโลยีอันดับต้นๆ ในจีน
ที่เป็นคู่แข่งกับ Alibaba และ Tencent

ที่น่าสนใจคือ ชื่อนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก กลอนของกวีสมัยราชวงศ์ซ่งในอดีตที่กล่าวว่า

“จากการค้นหานับครั้งไม่ถ้วนในหมู่คนมากมาย เธออยู่ที่นั่นเอง ในที่ที่มีแสงเทียนริบหรี่ที่สุด”

คำว่านับไม่ถ้วนนี้เอง ชื่อ Baidu จึงถูกนำมาใช้ เพื่อการค้นหาทุกอย่างที่ต้องการ

รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบัน บริษัท Baidu เป็นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ มีมูลค่าตลาดถึง 3.16 ล้านล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าบริษัท ปตท. ที่เป็นบริษัทที่ใหญ่สุดในประเทศไทย

Baidu มีรายได้ปีล่าสุดอยู่ที่ 415,267 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากการโฆษณา

ความเป็นมาของ Baidu น่าสนใจขนาดไหน

ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปประมาณ 50 ปีที่แล้ว..

นายหลี่ เยี่ยนหง หรือ โรบิน หลี่ เกิดขึ้นในมณฑลชานซี ประเทศจีน

ครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง พ่อและแม่ของเขา เป็นพนักงานในโรงงาน

เมื่อเขาโตขึ้น เขาสามารถสอบเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สาขาบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศได้ และใฝ่ฝันที่จะเรียนจนจบปริญญาเอก

หลังจากจบปริญญาตรีไม่นาน

เด็กหนุ่มในวัย 23 ปี ได้เดินทางตามล่าความฝันทางการศึกษาโดยจุดมุ่งหมาย นั่นก็คือ สหรัฐอเมริกา..

นายหลี่เข้าเรียนและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย University at Buffalo, The State University of New York สาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

แต่โลกแห่งความเป็นจริงก็เปลี่ยนความฝันวัยเด็กของเขา..

หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาโท เขากลับตัดสินใจไม่เรียนต่อปริญญาเอก และเริ่มหางานทำในอเมริกา

นายหลี่ เริ่มต้นชีวิตการทำงานโดยรับหน้าที่เป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับนิตยสารฉบับออนไลน์ ของ The Wall Street Journal

นาย หลี่ พัฒนาระบบหลังบ้าน RankDex เพื่อใช้ในการจัดลำดับ เว็บไซต์ จากการใช้เครื่องมือ การค้นหาในโลกออนไลน์ และระบบดังกล่าวได้รับการจดสิทธิบัตร ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

จากความสามารถที่โดดเด่นทำให้นายหลี่ มีโอกาสได้ทำงานใน Silicon Valley กับ
บริษัท search engine ยุคแรกอย่าง Infoseek

ที่นั่น เขาพัฒนาฟังก์ชันของ search engine ให้รองรับการค้นหาข้อมูลด้วยรูปได้สำเร็จ

หลังจากสะสมประสบการณ์มามากพอ รวมกับความสามารถที่โดดเด่น

นายหลี่ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดของเขา และวางแผนการสร้าง search engine ของตัวเองขึ้นมา โดยมีห้องเล็กๆ ห้องนึงเป็นสถานที่ทำงาน

ที่นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของอาณาจักร Baidu ในเวลาต่อมา..

นายหลี่เปิดตัวระบบการค้นหา Baidu ในปี ค.ศ. 2000

นายหลี่ประยุกต์ระบบการค้นหาข้อมูลด้วยรูปภาพ เพิ่มฟังก์ชันการจัดหมวดหมู่บทความรวม ไปถึงการค้นหาด้วยคำสั่งเสียงเพื่อตอบโจทย์คนจีนโดยเฉพาะ

จากการตีโจทย์ปัญหาพื้นฐานของคนจีนในยุคนั้นได้สำเร็จ Baidu จึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นายหลี่จึงเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะขยับขยายอาณาจักรของเขาให้กว้างขวาง มากยิ่งขึ้น

เขาจึงตัดสินใจนำ Baidu ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เพื่อระดมทุน

Baidu มีผู้ใช้งานมากขนาดไหน?

Baidu กลายมาเป็นเว็บไซต์ที่มีการเข้าใช้งานมากที่สุดรองจากแค่ Google, YouTube และ Facebook ด้วยตัวเลขผู้ใช้งานกว่า 665 ล้านคน

ทำให้ Baidu เป็น search engine อันดับ 2 รองจากแค่ Google โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด ในประเทศจีนสูงถึง 76.05%

ดูเหมือนว่าการตัดสินใจบินกลับมาพัฒนา Baidu ของนายหลี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ

เมื่อ Google เห็นการเติบโตของตลาดอินเทอร์เน็ตในจีน Google จึงไม่รีรอที่จะขยายธุรกิจไปที่ประเทศจีน แต่ก็ช้ากว่า Baidu ที่ให้บริการในประเทศจีนมาแล้วถึง 5 ปี

Google พยายามตีตลาดในจีนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการเปลี่ยนชื่อเป็น กูเก้อ มีความหมายว่า “บทเพลงแห่งการเก็บเกี่ยว” และ สร้างระบบให้ค้นหาด้วยภาษาจีน

แต่การลงทุนในจีนของ Google ก็โดนขัดขวางจากรัฐบาลจีนพอสมควร..

เนื้อหาและข้อมูลจากทั้ง Google และ YouTube จะถูกตรวจสอบโดยรัฐบาลจีนอย่างเคร่งครัด
เนื่องจากรัฐบาลจีนไม่ต้องการให้ภาพปัญหาความรุนแรงถูกเผยแพร่ออกไป

สุดท้าย Google ก็ไม่สามารถอยู่รอด จากรายได้ที่หดตัวลงอย่างมหาศาลและถูกตรวจสอบ อย่างเคร่งครัด และเป็นบริษัทนอกประเทศ

เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ คู่แข่งคนสำคัญของ Baidu ก็ไม่มีอีกต่อไป ทำให้นายหลี่ สามารถสร้าง อาณาจักร Baidu ต่อ อย่างไร้ความกังวล และขยับขยายธุรกิจให้กระจายไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

นอกจาก Search Engine แล้ว Baidu มีอะไรอีกบ้าง?

Baidu พัฒนาระบบแผนที่ ระบบแปลภาษา ที่มีลักษณะคล้าย Google Maps และ Google Translate

แต่ชื่อเสียง Baidu สำหรับคนไทยดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลก

สาเหตุคือ Baidu เคยออกแอปพลิเคชันสุดฮิตอย่าง Baidu Antivirus ที่เราคนไทยหลายคนอาจจะมีประสบการณ์ในการ uninstall ไม่ได้ และ Baidu PC Faster ที่เคยถูกพูดถึงข้อดี ข้อเสียกันอย่างสนุกสนาน..

อย่างไรก็ตามสำหรับคนจีนแล้ว Baidu ถือว่าเป็นบริษัทที่คนจีนขาดไม่ได้แล้ว เพราะเวลาคนจีนอยากค้นหาอะไร จะค้นหาใน Baidu

หากมองผ่านๆ เรื่องนี้อาจไม่มีอะไร แต่เรื่องนี้ให้ข้อคิดหนึ่งอย่างที่สำคัญ..

นายหลี่ เริ่มต้นจากการเป็นเด็กนักเรียนธรรมดาหนึ่งคน ที่ตั้งใจจะเรียนให้จบปริญญาเอก แต่กลายมาเป็นเศรษฐีระดับแสนล้านด้วยลำแข้งของตัวเอง

แม้ว่านายหลี่รู้ว่า Google เพียบพร้อมกว่าเขาขนาดไหนตอนที่ Baidu ยังเป็นแค่ชื่อ เขาก็กล้าพอที่จะสร้างมันขึ้นมา

จริงอยู่ที่รัฐบาลจีนมีส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อ Baidu เป็นอย่างมาก แต่ถ้า Baidu มีดีไม่พอ คงไม่มีผู้ใช้งานระดับ 665 ล้านคน..

เรื่องนี้ทำให้เราคิดได้ว่า ทุกคนมีศักยภาพมากพอที่จะประสบความสำเร็จ

ขอแค่เริ่มทำ

ไม่ต้องกลัวยักษ์ใหญ่

ถ้าเราทำให้ดีที่สุด ให้เป็นรองเพียงแค่ยักษ์

ในวันหนึ่งถ้ายักษ์ล้มลงไป

เรานี่แหละ จะเป็นยักษ์ตัวต่อไป..
----------------------
ไปจีนต้องใช้ Baidu
แต่ถ้าอยากอ่านบทความน่ารู้ ต้องติดตามลงทุนแมน
-แอปลงทุนแมน blockdit.com
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
-หนังสือลงทุนแมน 3.0 ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
----------------------
Reference
-https://expandedramblings.com/index.php/baidu-stats/
-https://www.investopedia.com/articles/investing/051215/baidu-vs-google-how-are-they-different.asp
-https://amigobulls.com/stocks/BIDU/income-statement/annual
-https://en.wikipedia.org/wiki/Baidu#Early_development
-https://en.wikipedia.org/wiki/Google_China
[7116].