Oh! Veggies ขายผักสลัดและผลไม้ ใน 7-Eleven จนมีรายได้ 580 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
หนึ่งใน Pain Point ของคนที่ชอบทานผักและผลไม้สด คือไม่มีเวลามาล้างผัก หรือปอกเปลือกผลไม้

โดยธุรกิจที่เข้าใจปัญหานี้ และสามารถแก้ได้อย่างถูกจุดคือ Oh! Veggies
แบรนด์ผักสลัดและผลไม้พร้อมทาน ที่เราเห็นกันใน 7-Eleven

หลายคนอาจไม่เชื่อว่า ปีที่ผ่านมา Oh! Veggies มีรายได้มากถึง 580 ล้านบาทเลยทีเดียว

ที่น่าสนใจก็คือ ผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ไม่ใช่เกษตรกร
แต่เป็นหนุ่มออฟฟิศที่ลาออกจากงานประจำมาขายผัก

เรื่องราวของ Oh! Veggies เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ Oh! Veggies เกิดขึ้นในปี 2550
โดยคุณวุฒิชัย เจริญศุภกุล หนุ่มออฟฟิศ ที่เลือกลาออกจากงานประจำ เพราะอยากสร้างธุรกิจ

คุณวุฒิชัย เห็นโอกาสเติบโตในอาหารเพื่อสุขภาพ
โดยเฉพาะผักสลัดออร์แกนิก

โดยตลาดผักสลัดตอนนั้น เน้นขายกันแต่ผักไฮโดรพอนิกส์ หรือผักที่ปลูกด้วยน้ำ มากกว่าผักออร์แกนิก หรือผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยหรือสารเคมี

บวกกับอีกปัญหาที่สังเกตเห็นได้จากคนที่ใช้ชีวิตในเมืองก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่มีเวลามาล้าง หรือตัดแต่งผักสลัด จึงอยากทานแบบพร้อมทานเลย

ทำให้คุณวุฒิชัย เลือกขายผักสลัดออร์แกนิกแบบพร้อมทาน โดยตั้งชื่อแบรนด์ว่า Oh! Veggies

ที่เริ่มจากขายแบบคีออสก์ ในตึกออฟฟิศก่อน แต่ช่วง 3 เดือนแรก กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะคนส่วนใหญ่ยังคุ้นชินกับการซื้อผักจากตลาด

คุณวุฒิชัยเลยเปลี่ยนมาขายในร้านค้าเพื่อสุขภาพ รวมถึงออกบูทตามที่ต่าง ๆ

จนในช่วงกลางปี 2551 คุณวุฒิชัยได้นำ Oh! Veggies ไปขายในซูเปอร์มาร์เก็ตของห้าง ปรากฏว่า ได้ผลตอบรับดีมาก

และต่อมาในปี 2555 ทางทีมจัดซื้อของ 7-Eleven ได้ติดต่อให้ Oh! Veggies นำสินค้าเข้าไปเสนอ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแบรนด์

Oh! Veggies มีการพัฒนาทั้งสินค้า และแพ็กเกจจิง รวมถึงการยืดอายุสินค้า การควบคุมอุณหภูมิ การจัดเก็บ การขนส่ง ทำให้สินค้าสลัดผักอยู่ได้ประมาณ 5-7 วัน เพื่อให้สามารถวางขายใน 7-Eleven ได้ทั่วประเทศไทย

จากนั้นก็พัฒนามาสู่ ผลไม้พร้อมทาน ที่คุณวุฒิชัยได้ไอเดียจากผลไม้ที่ขายตามรถเข็น ที่หาทานได้ง่ายก็จริง

แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการมากกว่าคือ ความสะอาด และรสชาติที่มีมาตรฐาน Oh! Veggies เลยตอบโจทย์นั้น ด้วยการขายผลไม้พร้อมทานแบบกล่อง

ตัวอย่างสินค้าและราคาของ Oh! Veggies ใน 7-Eleven
- สลัดครีมพร้อมทาน ราคา 35 บาท
- มะม่วงและกะปิพร้อมทาน 27 บาท

โดยนอกจาก 7-Eleven แล้ว Oh! Veggies ยังวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตอื่น ๆ เช่น Central Food Hall, Tops, MaxValu, Villa Market

และนี่คือผลประกอบการของ บริษัท พลังผัก จำกัด ในช่วงที่ผ่านมา

ปี 2564 รายได้ 337 ล้านบาท กำไร 68 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 474 ล้านบาท กำไร 92 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 579 ล้านบาท กำไร 92 ล้านบาท

ซึ่งรายได้ของ Oh! Veggies เติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 31% เลยทีเดียว

โดยรายได้กว่า 90% มาจากร้านโมเดิร์นเทรด
ส่วนอีก 10% มาจากร้านสินค้าเพื่อสุขภาพในกรุงเทพฯ

แต่แบบนี้ ก็ทำให้เห็นว่า Oh! Veggies ยังพึ่งพาร้านค้าคนกลางเป็นหลัก
จึงทำให้ในเวลาต่อมา ทางแบรนด์ได้เปิดหน้าร้านของตัวเองขึ้นมา

ภายใต้แบรนด์ Oh! Veggies Salad ที่มีทั้งเมนูสลัด ข้าว แรปสลัด รวมถึงเครื่องดื่ม
เพื่อกระจายความเสี่ยง และสร้างแหล่งรายได้ใหม่ ๆ

โดยตอนนี้ Oh! Veggies Salad มีทั้งหมด 3 สาขา ในกรุงเทพฯ

สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จาก Oh! Veggies ก็คือ การมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจาก Pain Point ของผู้บริโภคในตลาด

ตั้งแต่การไม่มีเวลาล้างผักของชาวออฟฟิศ ไปจนถึงการอยากทานผลไม้พร้อมทานที่สะอาด แม้จะมีร้านรถเข็นที่หาทานได้ง่ายก็ตาม

และนั่นเองที่ทำให้ Oh! Veggies ของคุณวุฒิชัย
กลายมาเป็นแบรนด์ผักผลไม้ ที่ตอนนี้ทำเงินได้มากกว่าปีละ 500 ล้านบาท..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman