สรุปงาน CIO Forum 2025 Reshaping Investment Paradigm วิเคราะห์เศรษฐกิจ และการลงทุน ปีนี้ จากธนาคารกรุงไทย

สรุปงาน CIO Forum 2025 Reshaping Investment Paradigm วิเคราะห์เศรษฐกิจ และการลงทุน ปีนี้ จากธนาคารกรุงไทย

สรุปงาน CIO Forum 2025 Reshaping Investment Paradigm วิเคราะห์เศรษฐกิจ และการลงทุน ปีนี้ จากธนาคารกรุงไทย
ท่ามกลางความท้าทาย สงครามการค้า, ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์, การพัฒนาเทคโนโลยี AI และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ฯลฯ
คำถามในใจหลายคนตอนนี้ คงไม่พ้น
เราควรจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรดี ?
ล่าสุด ธนาคารกรุงไทย ได้จัดงานสัมมนา “CIO Forum 2025 Reshaping Investment Paradigm” ชวนมาเปิดมุมมองเศรษฐกิจ และการลงทุนแบบเจาะลึก ทั้งทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ความท้าทายจากสถานการณ์การค้าโลก และพัฒนาการของเทคโนโลยี AI
พร้อมกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุน และสร้างความมั่นคงทางการเงิน
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
- ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทย
โดยทางคุณดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า
เศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะเติบโตราว 2.3% - 3.3% โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากรายจ่ายภาครัฐ ที่เร่งตัวมากขึ้น และการเติบโตของการท่องเที่ยว รวมทั้งการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนความเสี่ยงที่ต้องจับตาคือ นโยบายของทรัมป์ ที่จะยกระดับมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งภาครัฐต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือผลกระทบ
ทางคุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ยังเสริมว่า
ปี 2025 ยังเป็นอีกปีที่ท้าทาย โดยฝั่งภาคการเงินเผชิญแรงกดดันจากการเติบโตของสินเชื่อที่ต่ำ และความเสี่ยงด้านหนี้เสีย
ซึ่งจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเปราะบาง และผู้ที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้ธนาคารต้องให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งประเทศไทย จะต้องเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงยิ่งขึ้น เช่น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาเทคโนโลยี และสังคมผู้สูงอายุ
เศรษฐกิจนอกระบบสูง หนี้ครัวเรือนสูง หนี้สาธารณะสูง ความเหลื่อมล้ำสูง แต่ความสามารถในการแข่งขันต่ำ
ธนาคารกรุงไทย จึงให้ความสำคัญกับการปรับตัว พัฒนากลยุทธ์และผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติของการลงทุน
- สงครามการค้ารอบใหม่ (Trade War 2.0)
โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า สงครามการค้ารอบใหม่ (Trade War 2.0) ทรัมป์มีแนวโน้มจะกีดกันทางการค้ากับทุกประเทศคู่ค้า ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ รวมถึงประเทศไทย แตกต่างจาก Trade War รอบแรก ที่เน้นการเก็บภาษีนำเข้าจากจีน
ด้าน ดร.มานะ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการฝ่าย Chief Investment Office ธนาคารกรุงไทย เสริมว่า สงครามการค้ารอบแรก ไม่ได้ส่งผลเสียกับจีนมากเท่าที่สหรัฐฯ คาดการณ์
เพราะจีนมีการ Relocation ย้ายการผลิตไปยังประเทศอื่น โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งส่งผลดีกับเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนไปด้วย
ดังนั้น สงครามการค้ารอบนี้ มีโอกาสที่ทรัมป์ จะเก็บภาษีนำเข้าจากหลายประเทศคู่ค้า และทำให้มีผลกระทบกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนและคู่ค้าหลัก อาจได้รับผลกระทบเชิงลบสูงกว่าในรอบก่อน
- เทคโนโลยี AI
ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ ViaLink และ Siametrics Consulting ให้มุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ว่า เป็นการปฎิวัติยุคใหม่ โดยเป็นการกำเนิดของระบบเศรษฐกิจอัจฉริยะ ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรม
ต่างจากการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งก่อน ๆ ที่มุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุน
แต่ครั้งนี้ AI มาพร้อมกับการลดต้นทุน และการเพิ่มขีดความสามารถไปพร้อมกัน
- มุมมองการลงทุน ปี 2025
คุณประมุข มาลาสิทธิ์ Head of Chief Investment Office ธนาคารกรุงไทย และ Mr. Matthew Quaife Global Head of Multi Asset Investment Management จาก Fidelity International เผยว่ามี 6 ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา คือ
เศรษฐกิจโลก, ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์, เงินเฟ้อในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน,
ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ ที่กลับมาเป็นปกติ, เศรษฐกิจยุโรปเปราะบาง และการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของจีน
ทั้งนี้ยังเสริมมุมมองว่า ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่การปรับขึ้นในรอบนี้ จะขยายตัวไปในวงกว้างมากขึ้น
โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ และตลาดหุ้นญี่ปุ่น
สำหรับตลาดเกิดใหม่ เห็นโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นจีน และอินเดีย
ส่วนด้านตราสารหนี้ มีมุมมองให้คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral)
แม้ว่าบอนด์ยีลด์ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาของตราสารหนี้
แต่ตราสารหนี้ High Yield ของสหรัฐฯ และตราสารหนี้เอกชนยุโรป ยังน่าสนใจ
ส่วนด้านสินค้าโภคภัณฑ์ มองว่า ราคาทองคำ จะสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกรอบ
โดยมีแรงหนุนจากธนาคารกลาง ในประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ของธนาคารกลางหลายแห่งตลอดปี 2025..

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon