Zach Yadegari ซีอีโอ ม.ปลาย วัย 17 ปี สร้างแอปทำเงิน ปีละ 400 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
- อายุ 10 ปี เรียนเขียนโคดด้วยตัวเอง และมาเปิดคอร์สสอนคนอื่น
- อายุ 12 ปี พัฒนาเกมมือถือลงบนแอปสตอร์
- อายุ 15 ปี สร้างเว็บไซต์เกม จนบริษัทใหญ่มาขอซื้อไป
- อายุ 17 ปี เป็นซีอีโอปั้นแอปพลิเคชัน ที่มีรายได้ 400 ล้านบาท

นี่คือเส้นทางชีวิตของ “Zach Yadegari” เด็กวัย 17 ปี

ปัจจุบันเป็นทั้งซีอีโอบริษัท และนักเรียนมัธยมปลาย ไปพร้อมกัน ที่สามารถรักษาสมดุลระหว่างเรื่องเรียนและทำงานได้เป็นอย่างดี

เรื่องราวการสร้างธุรกิจของเขาน่าสนใจอย่างไร ?
Zach Yadegari ทำอย่างไร ถึงสร้างแอปพลิเคชัน ที่ทำเงินหลักร้อยล้านบาทได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Zach Yadegari เป็นวัยรุ่นชาวอเมริกัน ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียน Roslyn High School ในรัฐนิวยอร์ก

ตัวเขานั้นสนใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่วัยเพียง 10 ปี เริ่มต้นจากเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง และเริ่มทำเงินจากการเปิดคอร์สสอนเขียนโปรแกรม โดยได้ค่าสอนชั่วโมงละ 1,000 บาท

ต่อมา Yadegari ได้ลองโฆษณาคอร์สลงบนกลุ่ม Facebook ทำให้เขามีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นมาก
และทำให้เขาเห็นถึงประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีในการขยายธุรกิจ

นอกจากนั้น เขายังได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง The Social Network จึงอยากพัฒนาแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมแบบมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บ้าง..

พอตอนอายุ 12 ปี เขาได้เริ่มสร้างเกมมือถือของตนเองที่ชื่อว่า Speed Soccer ลงบนแอปสตอร์ แม้ผลตอบรับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่นั่นก็ทำให้ เขาได้เรียนรู้ว่าควรตั้งโจทย์ผลิตภัณฑ์จากสิ่งที่เป็น Pain Point ของคนมากกว่า

หลังจากนั้นในปี 2022 ซึ่ง Yadegari มีอายุ 15 ปี ได้รับแจกโน้ตบุ๊กจากทางโรงเรียน เพื่อประกอบการเรียนการสอน ทำให้เขามีอุปกรณ์สำหรับเขียนโปรแกรมใหม่พอดี

โดยคราวนี้ เขาสังเกตว่า เพื่อน ๆ มักเปิดเว็บเบราว์เซอร์หลาย ๆ แท็บ เพื่อหาเกมที่ไม่โดนบล็อกจากโรงเรียน เขาจึงสร้างเว็บไซต์รวบรวมเกมที่เล่นได้มาไว้ในที่เดียว ชื่อว่า Totally Science ขึ้นมา

ซึ่ง Yadegari ได้นำประสบการณ์ตอนสอนคอร์สเขียนโคดมาประยุกต์ใช้ นั่นคือการโฆษณาโปรโมต Totally Science บนสื่อโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook หรือ TikTok

ทำให้สามารถขยายฐานผู้ใช้งานเว็บไซต์สูงถึง 5 ล้านบัญชี ได้อย่างรวดเร็ว

จนเมื่อต้นปี 2024 บริษัทเกมชื่อว่า FreezeNova มาดีลขอซื้อ Totally Science ไปด้วยเงินมูลค่าถึงหลักแสนดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว

แม้ Yadegari จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
ในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น แต่เขาก็ไม่หยุดมองหาโอกาสสร้างนวัตกรรมที่จะเป็นธุรกิจตัวใหม่อีกครั้ง

โดยคราวนี้ ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ชื่อว่า Henry Langmack และ Blake Anderson ที่เคยพบกันในค่ายฝึกเขียนโคด ก่อตั้งธุรกิจพัฒนาแอปพลิเคชันเกี่ยวกับข้อมูลโภชนาการอาหารขึ้นมา ชื่อว่า “Cal AI” โดยมี Yadegari ดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัท

ซึ่งไอเดียเริ่มต้นมาจาก Yadegari ได้ใช้งานแอปข้อมูลโภชนาการอาหารอย่าง MyFitnessPal แล้วรู้สึกว่าต้องเสียเวลาในการกรอกข้อมูลอาหารเอง

จึงพัฒนาฟีเชอร์ของ Cal AI ที่นำเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์รูปถ่ายอาหารของผู้ใช้งาน เพื่อแสดงผลโภชนาการและคำอธิบายที่เกี่ยวข้องจากฐานข้อมูลได้ทันที ซึ่งมีความแม่นยำมากถึงระดับ 90%

นอกจากนั้น ยังปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับยุคสมัย โดยจ้างอินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมตแอปพลิเคชันบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

และแอปพลิเคชันที่ว่านี้ก็โด่งดังจนกลายเป็นกระแสไวรัล โดยเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ก็มียอดดาวน์โหลดเกิน 1 ล้านครั้ง ภายใน 6 เดือนเท่านั้น

ด้วยจำนวนผู้ใช้งานเท่านี้ ก็มีการประเมินว่า Cal AI จะมีรายได้จากค่าสมัครใช้บริการ ถึง 405 ล้านบาทต่อปี เลยทีเดียว
ในขณะที่บริษัทมีพนักงาน Full-time เพียง 17 คนเท่านั้น

และแม้ว่า Yadegari จะต้องแบกรับภาระ ทั้งการเป็นซีอีโอ ที่ต้องบริหารธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และหน้าที่การเป็นนักเรียน

แต่ Yadegari ก็ยังสามารถรักษาสมดุลระหว่างการเรียนและการทำงานได้เป็นอย่างดี

โดยในช่วงเช้าของแต่ละวัน ระหว่างเรียนหนังสือ เขาจะคอยติดต่อสื่อสารกับทีมผ่านแพลตฟอร์มบริหารงานอย่าง Slack ส่วนการนัดประชุมจะจัดสรรไว้ในช่วงบ่ายหลังเลิกเรียน

ซึ่ง Yadegari ก็ยังสามารถรักษาเกรดเฉลี่ยที่ดีเอาไว้ได้เหมือนเดิมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อจบมัธยมปลาย เขาตั้งใจจะเว้นช่วงไม่สมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในทันที เพื่อโฟกัสการขยายธุรกิจ Cal AI อย่างเต็มที่

โดยวางแผนพัฒนาประสิทธิภาพของเทคโนโลยี AI ให้ดียิ่งขึ้น และทำตลาดผู้ใช้งานกลุ่มอื่นนอกจากวัยรุ่น เพราะเล็งเห็นว่าคนทุกวัยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น

รวมไปถึงหาโอกาสพัฒนาธุรกิจประเภทอื่น ๆ ที่คิดไว้ เช่น แพลตฟอร์มเกี่ยวกับการตลาดอินฟลูเอนเซอร์โดยเฉพาะ

ถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า การศึกษาความรู้เกี่ยวกับ “เทคโนโลยี” เป็นอาวุธติดตัวไว้ จะช่วยทำให้ไอเดียการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สามารถพัฒนากลายเป็นผลิตภัณฑ์และธุรกิจที่มีมูลค่าได้

นอกจากนั้น การอัปเดตเทรนด์ “โมเดลธุรกิจ” อยู่เสมอ จะเป็นตัวเสริมที่ทำให้สามารถปรับตัวทันต่อสถานการณ์ เช่น การประยุกต์ใช้ AI ที่ตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว หรือการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า

ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ได้มีข้อจำกัดด้านอายุหรืออาชีพการงาน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราเริ่มต้นทำมันเมื่อไรมากกว่า

เหมือนดังที่ Zach Yadegari กลายเป็นซีอีโอของธุรกิจ ที่มีศักยภาพทำรายได้หลักร้อยล้านบาท ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้นเอง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.forbes.com/sites/josipamajic/2024/11/02/meet-the-17-year-old-ceo-behind-a-12m-ai-powered-nutrition-app/
-https://businessday.ng/bd-weekender/article/meet-zach-yadegari-17yrs-old-who-took-on-fitness-tech-giants-with-12m-ai-powered-nutrition-app/
-https://fox2now.com/business/press-releases/ein-presswire/694436456/long-island-teen-sells-gaming-startup-to-global-giant-marking-a-new-era-in-youth-entrepreneurship/
-https://www.linkedin.com/in/zachyadegari
-https://totallyscience.co/about/