Liberty Media ผู้พลิกฟื้น F1 ให้กลับมาฮิต จนทำผลตอบแทนได้หลายเด้ง
Liberty Media ผู้พลิกฟื้น F1 ให้กลับมาฮิต จนทำผลตอบแทนได้หลายเด้ง /โดย ลงทุนแมน
ในช่วงต้นปี 2000 การแข่งรถ Formula 1 หรือ F1 เคยมีฐานผู้ชมทั่วโลกกว่า 600 ล้านคน
ในช่วงต้นปี 2000 การแข่งรถ Formula 1 หรือ F1 เคยมีฐานผู้ชมทั่วโลกกว่า 600 ล้านคน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป F1 กลับเจอปัญหาใหญ่ เพราะความนิยมในการแข่งขัน เริ่มลดลงเรื่อย ๆ
ทั้งจำนวนผู้ชม และเม็ดเงินของธุรกิจ
ทั้งจำนวนผู้ชม และเม็ดเงินของธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน F1 กลับมาฮิตได้อีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์ และไม่ใช่กีฬาที่มีไว้เฉพาะคนรวยอีกต่อไป
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด ถูกเขียนขึ้นใหม่ โดยบริษัทสื่อชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อว่า Liberty Media
Liberty Media คือใคร
แล้วเข้ามาทำอะไรให้ F1 ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Liberty Media ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยคุณ John C. Malone เจ้าของฉายา Cable Cowboy ซึ่งเขาได้มาจากการนำ Liberty Media ให้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีในสหรัฐอเมริกา
แล้วเข้ามาทำอะไรให้ F1 ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Liberty Media ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 โดยคุณ John C. Malone เจ้าของฉายา Cable Cowboy ซึ่งเขาได้มาจากการนำ Liberty Media ให้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเคเบิลทีวีในสหรัฐอเมริกา
โดยก่อนจะสร้าง Liberty Media คุณ Malone เคยเป็น CEO ให้กับ Tele-Communications (TCI) บริษัทสื่อเล็ก ๆ ซึ่งเขาได้นำทัพและปั้นให้ TCI กลายเป็นบริษัทเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา
และต่อมา คุณ Malone ก็ได้แยกส่วนงานธุรกิจบันเทิงและสื่อของ TCI ออกมาตั้งเป็นบริษัทแยกชื่อว่า Liberty Media
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Liberty Media ภายใต้การนำของคุณ Malone ได้ลงทุนและถือหุ้นในบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมสื่อ เช่น
- SiriusXM ผู้ให้บริการวิทยุผ่านดาวเทียมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดย Liberty Media ถือหุ้นในสัดส่วน 83%
- Live Nation Entertainment บริษัทจัดคอนเสิร์ตและอิเวนต์สดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดย Liberty Media ถือหุ้นในสัดส่วน 30% ผ่านบริษัทย่อยที่ชื่อว่า Liberty Live Group
โดย Liberty Media ถือหุ้นในสัดส่วน 30% ผ่านบริษัทย่อยที่ชื่อว่า Liberty Live Group
และอีกหนึ่งการลงทุนขยายพอร์ตที่สร้างชื่อเสียงและการเติบโตให้กับ Liberty Media ก็คือ การเข้าซื้อ Formula One Group เจ้าของรายการแข่งขัน F1 ในปี 2017 ด้วยมูลค่ากว่า 153,000 ล้านบาท
ซึ่งในตอนที่ Liberty Media ซื้อมานั้น
เดิมที F1 อยู่ภายใต้การบริหารของทีมผู้บริหารชุดเก่า ที่ใช้แนวทางการตลาดแบบดั้งเดิม และถ่ายทอดสดผ่านช่องทีวีเฉพาะเท่านั้น.. ทำให้ F1 เข้าถึงได้ยาก แม้จะเป็นยุคดิจิทัลแล้วก็ตาม
เดิมที F1 อยู่ภายใต้การบริหารของทีมผู้บริหารชุดเก่า ที่ใช้แนวทางการตลาดแบบดั้งเดิม และถ่ายทอดสดผ่านช่องทีวีเฉพาะเท่านั้น.. ทำให้ F1 เข้าถึงได้ยาก แม้จะเป็นยุคดิจิทัลแล้วก็ตาม
จุดนี้เองที่ทำให้ Liberty Media เห็นโอกาส และเข้ามายกเครื่อง F1 ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น..
- เพิ่มสนามแข่ง และขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา
- เพิ่มการแข่งระยะสั้น ก่อนวันแข่งจริง ทำให้จำนวนการแข่งเพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้เก็บตั๋ว และขายโฆษณาได้มากขึ้น
แต่สิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ คือ การนำความเชี่ยวชาญด้านสื่อบันเทิง มาปรับให้ F1 ดูสนุกน่าตื่นเต้นมากขึ้น เช่น
- ปรับกฎการแข่งขันให้สนุกขึ้น และเอื้อให้ทีมเล็กงบน้อย สามารถแข่งขันสู้กับทีมใหญ่เงินหนาได้
- ติดเซนเซอร์บนรถแข่งแต่ละคัน และเปลี่ยนมุมกล้อง เปลี่ยนไมค์ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับคนดูทางบ้านที่ดูการถ่ายทอดสดมากขึ้น
- ทำการตลาดออนไลน์ รวมถึงการถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
หรือแม้แต่ทำสารคดี Drive to Survive ร่วมกับ Netflix ที่เปิดตัวในปี 2019 ซีรีส์นี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง และดึงดูดกลุ่มผู้ชมหน้าใหม่ให้สนใจ F1 มากขึ้น
นอกจาก Liberty Media จะช่วยพลิกโฉม F1 แล้ว
ในทางกลับกัน การนำ F1 เข้ามาเติมพอร์ตธุรกิจ ก็ช่วยสร้างการเติบโตให้กับ Liberty Media เพิ่มอีกขั้นด้วย
ในทางกลับกัน การนำ F1 เข้ามาเติมพอร์ตธุรกิจ ก็ช่วยสร้างการเติบโตให้กับ Liberty Media เพิ่มอีกขั้นด้วย
โดยหากลองไปดูผลประกอบการของ Liberty Media ปี 2015
มีรายได้ 167,000 ล้านบาท กำไร 2,200 ล้านบาท
มีรายได้ 167,000 ล้านบาท กำไร 2,200 ล้านบาท
แต่ในปี 2023 Liberty Media มีสถานะเป็น Holding Company ที่ถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ อีกที
โดยบริษัทย่อยในเครือของ Liberty Media มีรายได้รวมกัน 436,140 ล้านบาท กำไร 26,500 ล้านบาท
แบ่งเป็น 3 กลุ่มบริษัทย่อย คือ
- 26% จาก Formula One Group ที่ดูแลธุรกิจที่เกี่ยวกับการแข่งขัน Formula 1 ทั้งหมด
- 26% จาก Formula One Group ที่ดูแลธุรกิจที่เกี่ยวกับการแข่งขัน Formula 1 ทั้งหมด
- 71% จาก Liberty SiriusXM Group โดยดูแลธุรกิจบริการวิทยุและสตรีมมิงออนไลน์
- 3% จาก Brave Group ที่ทำธุรกิจทีมเบสบอล และอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งในปี 2024 Liberty Media ก็ได้มีการปรับโครงสร้างกลุ่ม ด้วยการแยก Liberty SiriusXM Group ออกมา และควบรวมกับ Sirius XM Holdings ที่ทำธุรกิจวิทยุดาวเทียมและสตรีมมิงเพลง เพื่อนำออกไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อีกตัว
และปัจจุบัน ถ้านับเฉพาะธุรกิจหลัก ๆ มูลค่าบริษัทในเครือของ Liberty Media คือ
- Formula One Group มีมูลค่าบริษัท 700,000 ล้านบาท
- Liberty Live Group มีมูลค่าบริษัท 206,000 ล้านบาท
ซึ่ง Liberty Live Group ถือหุ้น 30% ใน Live Nation Entertainment บริษัทจัดคอนเสิร์ตและอิเวนต์สดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- Sirius XM Holdings มีมูลค่าบริษัท 305,000 ล้านบาท (Liberty Media ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 83%)
- Liberty Live Group มีมูลค่าบริษัท 206,000 ล้านบาท
ซึ่ง Liberty Live Group ถือหุ้น 30% ใน Live Nation Entertainment บริษัทจัดคอนเสิร์ตและอิเวนต์สดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- Sirius XM Holdings มีมูลค่าบริษัท 305,000 ล้านบาท (Liberty Media ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 83%)
ทั้งหมด กลายเป็นอาณาจักรธุรกิจที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 1,211,000 ล้านบาท
จะเห็นว่า การที่ Liberty Media สามารถเข้ามาพลิกฟื้น F1 ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญหรือความโชคดี
แต่ Liberty Media สามารถนำความสามารถทางด้านสื่อบันเทิงที่สั่งสมมายาวนาน มาปรับแต่งการแข่งขัน F1 ที่มีของดีซุกซ่อนอยู่มากมาย ออกมาให้ดูดีและน่าสนใจมากขึ้น
จนปั้น F1 ให้ตอนนี้มีมูลค่ากว่า 700,000 ล้านบาท
จากเงินทุนที่ซื้อกิจการมาเพียง 153,000 ล้านบาท เท่านั้น
หรือคิดเป็นผลตอบแทนเกือบ 4 เด้ง ใน 7 ปี..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
จากเงินทุนที่ซื้อกิจการมาเพียง 153,000 ล้านบาท เท่านั้น
หรือคิดเป็นผลตอบแทนเกือบ 4 เด้ง ใน 7 ปี..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman