ONE Bangkok โครงการของคนที่มีเงินใช้ปีละ 10,000 ล้านบาท
ONE Bangkok โครงการของคนที่มีเงินใช้ปีละ 10,000 ล้านบาท /โดย ลงทุนแมน
- ถ้าเรามีเงิน 10,000 ล้านบาท มาให้ใช้ทุกปี มาหลายสิบปี ความฝันของเราจะเป็นอะไร ?
- ถ้าเรามีเงิน 10,000 ล้านบาท มาให้ใช้ทุกปี มาหลายสิบปี ความฝันของเราจะเป็นอะไร ?
สำหรับความฝันของตระกูลสิริวัฒนภักดี ที่มีเงินจากธุรกิจเดิมปีละหลายหมื่นล้าน คงเป็นสิ่งนี้
นั่นคือการเอาเงิน 120,000 ล้านบาท มาสร้าง ONE Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา..
ถ้าเทียบกับเมืองใหญ่ในหลายประเทศ โครงการนี้จะใหญ่ไม่แพ้ที่อื่น ๆ แม้แต่ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ต้องอ้าปากค้าง
คนจะพัฒนาโครงการนี้ มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความกล้าที่มากพอ
โครงการนี้เปิดมาแล้ว 3 วัน ลงทุนแมนไปเดินมาแล้วทุกวันทั้ง 3 วัน มองเห็น 3 มุมคือ
1. ห้างกลางเมือง : คนบางส่วนโซนฝั่งใต้พระราม 4 ที่จะมาเซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน จะถูกดักด้วยโครงการนี้
เพราะเป็นห้างขนาดใหญ่ที่มีครบ เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สีน้ำเงิน คนใช้รถจากฝั่งพระราม 4 พระราม 3 สีลม สาทร ธนบุรี ไม่มีห้างขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน เพราะเป็นแหล่ง CBD ดั้งเดิมที่หาที่ดินยาก ทั้งที่คนอาศัยย่านนี้มีกำลังซื้อสูงมาก
จากเดิมคนกลุ่มนี้ต้องเข้าไปโซนสยาม สุขุมวิท มาวันนี้จะโดน ONE Bangkok ดักให้ไปไม่ถึง อาจจะไม่ทั้งหมด แต่ดักได้ไม่น้อย อนาคตจะมีอีกโซนที่รวมแบรนด์ LUXURY ทั้งหมด ซึ่งถ้าเปิดโซนนี้ จะเห็นภาพชัดขึ้น
2. ออฟฟิศกลางเมือง : ทำเลนี้เป็นสุดยอด CBD ของออฟฟิศกลางกรุงเทพมหานครอยู่แล้ว ไม่แปลกที่โครงการนี้จะแย่งดีมานด์ออฟฟิศเกรด A จากบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งหมด เรียกได้ว่าตึกออฟฟิศเกรด A ที่เป็นตึกเก่า บริเวณนั้นน่าจะมีปัญหา ผู้เช่าเดิมย้ายออกมาโครงการนี้
3. โรงแรมกลางเมือง : โครงการนี้มีโรงแรมหลายตึก และด้วยความใหม่ ความเป็น Mixed Use จะทำให้โรงแรมนี้มาแย่งตลาดโรงแรมบริเวณนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
และการที่โครงการเป็น Mixed Use จะเกื้อกูลกันให้มีชุมชนเกิดขึ้นในโครงการนี้หลัก 100,000 คนต่อวัน หรือเรียกได้ว่าเท่ากับเป็นเมือง เมืองหนึ่ง
พื้นที่ใช้สอยทั้งโครงการระดับ 1,000,000 ตารางเมตร โครงการนี้มีที่จอดรถมากที่สุดระดับ 10,000 คัน มากสุดในประเทศไทย
รู้หรือไม่ว่า โครงการนี้จำเป็นต้องมีสถานีไฟฟ้าย่อย เพราะแค่โครงการเดียวก็ใช้ไฟมากกว่าทั้งอำเภอในต่างจังหวัด
และจากเดิมสถานีรถไฟฟ้าลุมพินีไม่ได้เป็นสถานีที่คนใช้เยอะ ต่อไปสถานีนี้จะติด Top สถานีที่หนาแน่นแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
นอกจากนั้น อนาคตของโครงการนี้ในเฟสถัดไปยังมี ตึก Signature ที่จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะตอกย้ำความเป็นที่สุดของโครงการ
เรื่องทั้งหมดนี้น่าสนใจ
ในประเทศไทย คนมีเงินให้ใช้ 10,000 ล้านบาทต่อปี มีไม่กี่คน แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะพัฒนาโครงการอะไรแบบนี้..
ในประเทศไทย คนมีเงินให้ใช้ 10,000 ล้านบาทต่อปี มีไม่กี่คน แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะพัฒนาโครงการอะไรแบบนี้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ที่ดินของโครงการนี้เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
ก่อนหน้านี้มีการประมูลแล้ว คนที่มีเงินให้ใช้ปีละ 10,000 ล้านบาทอีกคนหนึ่งก็คือ CPN กลุ่มเซ็นทรัล เจ้าของเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ชนะการประมูลไป
แต่เกิดปัญหาผู้เช่าเดิมไม่ยอมคืนพื้นที่ จนเวลาล่วงเลยไป ทำให้ต้องมีการประมูลใหม่ และทำให้กลุ่มทีซีซี (ไทยเบฟ) ได้ที่ดินผืนนี้ไปพัฒนาแทน..
ต่อมา CPN จึงไปจับมือกับดุสิตธานี พัฒนาโครงการแยก พระราม 4 - สีลม ซึ่งที่ดินโครงการนี้ก็เป็นของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เช่นกัน..