อธิบายกลไก Fed's Dot Plot ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้น และนักลงทุนทั่วโลก ติดตาม
อธิบายกลไก Fed's Dot Plot ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้น และนักลงทุนทั่วโลก ติดตาม /โดย ลงทุนแมน
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้น การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่นักลงทุนทั่วโลกตั้งตารอ
ประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้น การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่นักลงทุนทั่วโลกตั้งตารอ
FOMC จะหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
และกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และส่งเสริมตลาดแรงงาน
และกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และส่งเสริมตลาดแรงงาน
โดยปกติแล้ว การประชุม FOMC จะมีหนึ่งสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจอย่างมากก็คือ “Fed's Dot Plot”
หรือเครื่องมือที่ใช้ดูการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต
หรือเครื่องมือที่ใช้ดูการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต
แล้ว Fed's Dot Plot น่าสนใจอย่างไร
นักลงทุนสามารถนำเครื่องมือนี้ไปใช้ได้อย่างไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นอยากพาทุกคนมานึกภาพของคำว่า Dot Plot หรือ แผนภูมิจุด ซึ่งก็คือ กราฟที่มีแกน x กับแกน y
และมีชุดข้อมูลที่แสดงเป็นจุด หลาย ๆ จุดอยู่บนกราฟ ซึ่ง Fed's Dot Plot ก็มาจากหลักการเดียวกัน
นักลงทุนสามารถนำเครื่องมือนี้ไปใช้ได้อย่างไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นอยากพาทุกคนมานึกภาพของคำว่า Dot Plot หรือ แผนภูมิจุด ซึ่งก็คือ กราฟที่มีแกน x กับแกน y
และมีชุดข้อมูลที่แสดงเป็นจุด หลาย ๆ จุดอยู่บนกราฟ ซึ่ง Fed's Dot Plot ก็มาจากหลักการเดียวกัน
แกน x แสดงถึง ปี
แกน y แสดงถึง เปอร์เซ็นต์อัตราดอกเบี้ย
จุด แสดงถึง การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ของสมาชิกทั้ง 19 ท่าน ที่อยู่ในคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
แกน y แสดงถึง เปอร์เซ็นต์อัตราดอกเบี้ย
จุด แสดงถึง การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ของสมาชิกทั้ง 19 ท่าน ที่อยู่ในคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
สำหรับใครที่อาจเพิ่งเคยเห็น Fed's Dot Plot เป็นครั้งแรก อาจจะงง เพราะจุดบนกราฟที่กระจายเยอะไปหมด แต่จริง ๆ แล้ว การอ่านกราฟนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด
โดยอันดับแรก เราจะเห็นกลุ่มของจุด 19 จุดตามปีที่ต่างกัน
หากดูแค่ปีเดียว เราสามารถหาข้อสรุปของระดับอัตราดอกเบี้ยได้จากค่ากลาง หรือค่าที่มีตำแหน่งอยู่กึ่งกลางของข้อมูลทั้งหมด
หากดูแค่ปีเดียว เราสามารถหาข้อสรุปของระดับอัตราดอกเบี้ยได้จากค่ากลาง หรือค่าที่มีตำแหน่งอยู่กึ่งกลางของข้อมูลทั้งหมด
หลังจากเราหาค่ากลางได้ของทุกปีแล้ว เราก็จะได้ข้อมูลคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มจะปรับลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในแต่ละปีเท่าไร เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน
เช่น ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.50% แต่ปี 2024 มีค่ากลางอยู่ราว 5.10%
หมายความว่า Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงกรอบ 0.25%-0.50% ภายในปีนี้
หมายความว่า Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงกรอบ 0.25%-0.50% ภายในปีนี้
นอกจากที่เราจะรู้การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้แล้ว เรายังรู้แนวโน้มการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปีต่อ ๆ ไป จากการลากเส้นเชื่อมระหว่างค่ากลางของแต่ละปี
ซึ่งจะทำให้เราเห็นว่า Fed มีมุมมองในการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น หรือขาลง
ซึ่งจะทำให้เราเห็นว่า Fed มีมุมมองในการปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น หรือขาลง
ทั้งนี้ค่า Fed's Dot Plot จะมีการอัปเดตทุก 4 ครั้งต่อปี ซึ่งคือเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม (ทุกสิ้นไตรมาส) ขณะที่การประชุม FOMC มีทั้งหมด 8 ครั้งต่อปี
ที่เป็นแบบนี้เนื่องจาก การคาดการณ์ Fed's Dot Plot จำเป็นต้องใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา มาประกอบการวิเคราะห์การคาดการณ์ปีต่อไปในอนาคต เสมือนภาพรวมในระยะกลาง-ระยะยาว
ในขณะที่การประชุม FOMC คือ การรีแคปเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่สั้นกว่า เช่น ภายใน 1-2 เดือน
ดังนั้น ความถี่ในการอัปเดต Fed's Dot Plot จึงน้อยกว่า
ดังนั้น ความถี่ในการอัปเดต Fed's Dot Plot จึงน้อยกว่า
มาถึงคำถามที่ว่า Fed's Dot Plot สำคัญต่อตลาดหุ้นอย่างไร ?
อย่างที่รู้กันว่า ไม่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นหรือลง ย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค มูลค่าทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงตลาดหุ้น
เรามักจะได้ยินบ่อยครั้งว่า “ดอกเบี้ยขึ้น ราคาหุ้นลง” หรือ “ดอกเบี้ยลง ราคาหุ้นขึ้น”
เพราะการคำนวณมูลค่าหุ้นนั้น มาจากผลรวมของมูลค่ากระแสเงินสดที่ธุรกิจนั้นจะสร้างขึ้นได้ในอนาคต แล้วคิดลดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน
ซึ่งสิ่งที่ใช้ในการคิดลดกลับมาเป็นมูลค่าในปัจจุบันที่ว่านี้ ที่นิยมใช้กันหลัก ๆ คือ อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง หรืออัตราดอกเบี้ย
เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง อัตราคิดลด ก็จะลดลงตาม
แล้วการประเมินมูลค่าหุ้น ก็จะสูงขึ้น
แล้วการประเมินมูลค่าหุ้น ก็จะสูงขึ้น
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
เหตุผลเบื้องหลังของเรื่องนี้คือ อัตราดอกเบี้ยเชื่อมโยงโดยตรงกับเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัท
เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การระดมทุนของบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายลดลงตามไปด้วย เช่น การออกหุ้นกู้ บริษัทสามารถจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลงได้ เมื่อต้นทุนลดลง ก็มีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น
ประกอบกับในฝั่งผู้บริโภค จะถูกกระตุ้นให้คนนำเงินออกจากธนาคารมาใช้จ่ายมากขึ้น เพราะฝากเงินแล้วได้ดอกเบี้ยไม่คุ้ม
หรือกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายมากขึ้น เพราะดอกเบี้ยถูกลง
สินค้าและบริการของบริษัท จึงมีโอกาสขายได้มากขึ้น
หรือกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายมากขึ้น เพราะดอกเบี้ยถูกลง
สินค้าและบริการของบริษัท จึงมีโอกาสขายได้มากขึ้น
ดังนั้นหากปัจจัยอื่นคงที่ ผลประกอบการบริษัทที่ดีขึ้น ก็จะสะท้อนออกมาในรูปของราคาหุ้นที่สูงขึ้น นั่นเอง
อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ก็จูงใจให้นักลงทุนแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น และกล้าเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นได้รับอานิสงส์ไปโดยปริยาย
แต่เนื่องจาก Fed's Dot Plot เป็นการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นในมุมของนักลงทุน อาจใช้ Fed's Dot Plot และความเห็นจากการประชุม FOMC เป็นข้อมูลช่วยวางแผนและตัดสินใจลงทุน
สมมติว่า ในการประชุม FOMC ครั้งที่ผ่านมา ในเดือนกรกฎาคม ตลาดคาดการณ์จากการประชุมว่า Fed มีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากระดับ 5.25%-5.50% สู่ระดับ 5.00%-5.25%
และจาก Fed's Dot Plot ล่าสุดคือเดือนมิถุนายน ปี 2024 บอกว่า มีค่ากลางอัตราดอกเบี้ย
5.10% ในปี 2024
4.10% ในปี 2025
3.10% ในปี 2026
5.10% ในปี 2024
4.10% ในปี 2025
3.10% ในปี 2026
ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง หรือหากคิดเป็นตัวเลขคร่าว ๆ คือ Fed อาจลดอัตราดอกเบี้ยไปทั้งหมดราว 2.25%-2.50% ใน 2 ปีข้างหน้า
ดังนั้นนักลงทุนเมื่อเห็นแนวโน้มเช่นนี้ ก็อาจเลือกที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มเทค หุ้นเติบโต หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
และอาจรวมไปถึงสินทรัพย์อื่น เช่น การลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อล็อกอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับ และรับผลประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวสูงขึ้น (อัตราดอกเบี้ย กับราคาตราสารหนี้ มีความผกผันกัน)
หรือก็คือ การประชุม FOMC โดยเฉพาะเรื่องทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากมีผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้น อัตราแลกเปลี่ยน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์
จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมนักลงทุนจากทั่วโลก จึงติดตามการประชุม FOMC และ Fed's Dot Plot อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการลงทุนของตนเอง
ที่สำคัญในยุคนี้ การประเมินมูลค่าหุ้น รวมถึงทรัพย์สินต่าง ๆ มักจะใช้ข้อมูลคาดการณ์ในอนาคต เป็นปัจจัยหลักในการประเมินมูลค่า
ดังนั้น ในมุมของนักลงทุน Fed's Dot Plot จึงเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปต่อยอดได้
ดังนั้น ในมุมของนักลงทุน Fed's Dot Plot จึงเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปต่อยอดได้
อย่างไรก็ตาม Fed's Dot Plot เป็นเพียงการคาดการณ์ ไม่ใช่คำมั่นสัญญา และอาจเปลี่ยนแปลงได้ ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดที่ Fed ได้รับ
เพราะก็มีบางครั้งที่ Fed เซอร์ไพรส์ด้วยการตัดสินใจที่ต่างออกไปจากที่ตลาดคาดการณ์ด้วย เช่น
เดือนมีนาคม ปี 2020 Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลงฉุกเฉิน 0.50% ก่อนการประชุมตามกำหนดการ เนื่องจากการระบาดของโรคร้าย ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ปี 2022 Fed เริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ เพื่อต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ปี 2023 Fed ยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อ และยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง แม้ว่าหลายคนคาดว่าจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่านี้
ซึ่งการตัดสินใจของ Fed ที่ต่างออกไปจากที่คาดการณ์ มีสาเหตุมาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมประกอบการตัดสินใจ เช่น อัตราการจ้างงาน, อัตราเงินเฟ้อ และ GDP ซึ่งอาจเปลี่ยนไปตามสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้น
อ่านมาถึงตรงนี้เราอาจสรุปได้ว่า เครื่องมืออย่าง Fed's Dot Plot นอกจากจะแสดงถึงความโปร่งใสในข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยให้ประชาชนทั่วไป ได้เห็นมุมมองของคณะกรรมการฯ ต่อทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตแล้ว
หากมองลึกลงไป เรายังสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการวางแผนการเงินการลงทุนได้ด้วย
หากมองลึกลงไป เรายังสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการวางแผนการเงินการลงทุนได้ด้วย
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเครื่องมือนี้ “เป็นการคาดการณ์” เท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนไปจากการคาดการณ์เดิม ในการประชุมครั้งถัด ๆ ไป
ดังนั้นในการประชุม FOMC วันที่ 19 กันยายน ที่จะถึงนี้
ก็เป็นวันที่มีสายตาจากนักลงทุนทั่วทุกมุมโลก จับตาผลของการประชุมว่า สิ่งที่ Fed ตัดสินใจนั้น ตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้หรือไม่ และ Fed's Dot Plot จะปรับเปลี่ยนทิศทางการประเมินอัตราดอกเบี้ยในอนาคตข้างหน้าอย่างไร
ก็เป็นวันที่มีสายตาจากนักลงทุนทั่วทุกมุมโลก จับตาผลของการประชุมว่า สิ่งที่ Fed ตัดสินใจนั้น ตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้หรือไม่ และ Fed's Dot Plot จะปรับเปลี่ยนทิศทางการประเมินอัตราดอกเบี้ยในอนาคตข้างหน้าอย่างไร
ซึ่งถ้าผลการประชุม ออกมาเซอร์ไพรส์ตลาด
ก็อาจจะส่งผลต่อการไหลเวียนของเงินทุน และความผันผวนในตลาดการเงิน ไม่ใช่น้อย..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/dot-plot-4581755#toc-federal-open-market-committee-fomc-dot-plot
-https://www.bondsavvy.com/fixed-income-investments-blog/fed-dot-plot
-https://www.bankrate.com/banking/federal-reserve/how-to-read-fed-dot-plot-explained/
-https://www.forbes.com/advisor/investing/fed-meeting-preview/
-https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/428-tsi-how-interest-exchange-rate-and-stock-market-relate
ก็อาจจะส่งผลต่อการไหลเวียนของเงินทุน และความผันผวนในตลาดการเงิน ไม่ใช่น้อย..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/dot-plot-4581755#toc-federal-open-market-committee-fomc-dot-plot
-https://www.bondsavvy.com/fixed-income-investments-blog/fed-dot-plot
-https://www.bankrate.com/banking/federal-reserve/how-to-read-fed-dot-plot-explained/
-https://www.forbes.com/advisor/investing/fed-meeting-preview/
-https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/428-tsi-how-interest-exchange-rate-and-stock-market-relate