Nike วิกฤติยาว หุ้นร่วง -12% หลังบริษัทปรับเป้ารายได้ ในอนาคต หดตัว -10%
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Nike ได้ประกาศงบการเงินประจำปี 2024 (สิ้นสุด พ.ค. 2024)
พร้อมกับเป้าประมาณการณ์รายได้ ในอนาคตของบริษัท

ซึ่งปรากฎว่า เรื่องนี้ทำให้ราคาหุ้น Nike ดิ่งลงไปทันที -12.4% ในช่วงซื้อขายนอกเวลาทำการของตลาด
หลังจากที่ทางบริษัทได้ปรับเป้ารายได้ลดลง ตามยอดขายในจีน ที่อ่อนตัวลง และแนวโน้มการบริโภคทั่วโลกที่ลดลง

โดย Nike ประเมินว่า ในไตรมาสแรกของปี 2025 (มิ.ย. - ส.ค. 2024) รายได้จะลดลงถึง -10% เลยทีเดียว.. แถมหนักกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้ว่า จะลดลงเพียง -3.2%

ส่วนเป้ารายได้ทั้งปี 2025 Nike บอกว่า อาจจะลดลงในระดับราว -5% สวนทางกับนักวิเคราะห์ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว +0.9%..

ซึ่งหากเราไปดูผลประกอบการ ที่ผ่านมาของ Nike จะพบว่า
(งบการเงินสิ้นสุดเดือนพฤษภาคมของปี)

ปี 2022
รายได้ 1,704,915 ล้านบาท กำไร 220,679 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 1,869,421 ล้านบาท กำไร 185,055 ล้านบาท
ปี 2024
รายได้ 1,874,713 ล้านบาท กำไร 208,050 ล้านบาท

ต้องบอกว่า รายได้ในปี 2024 แทบไม่เติบโตเลย เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นับเป็นการเติบโตที่น้อยที่สุด ตั้งแต่ปี 2010 หากตัดช่วงที่มีการล็อกดาวน์ออกไป

โดยผู้บริหารให้เหตุผลว่า เป็นเพราะธุรกิจไลฟ์สไตล์ รายได้ลดลง
ขณะที่รายได้จากรองเท้าบาสเกตบอล และรองเท้าวิ่ง ไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปได้

นอกจากนี้ ยอดขายในจีน ที่เป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญของ Nike ยังลดลงในทุกช่องทางการขาย มาตั้งแต่เดือนเมษายน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบัน แม้ว่ารองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา จะเติบโตตามเทรนด์รักสุขภาพ และตามเทรนด์แฟชั่น แต่ Nike ต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นตาม

ทั้งคู่ปรับตลอดกาลเบอร์ 2 อย่าง adidas แบรนด์มวยรอง อย่าง New Balance และ ASICS
และอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่เกิดมาได้ไม่นาน แต่กำลังมาแรง เช่น Hoka หรือ On
รวมถึงแบรนด์จากจีนเอง ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดอย่างเมามัน

เรียกได้ว่า ตอนนี้ Nike กำลังเจอมรสุมรอบด้าน แถมเต็มไปด้วยคู่แข่งมากมาย จนรู้ตัวอีกที ก็กำลังลอยคออยู่ในทะเลเลือดเสียแล้ว

ซึ่งมรสุมต่าง ๆ ที่พุ่งเข้าใส่ Nike ก็ทำให้นักลงทุนกังวล มองธุรกิจไม่สดใสเหมือนเดิม และสุดท้ายก็สะท้อนออกมาในราคาหุ้น ในที่สุด..