เจ้าของเกม Plants vs. Zombies มีมูลค่า 60,000 ล้าน สำเร็จได้ เพราะทำเกมเรียบง่าย /โดย ลงทุนแมน
เกม Plants vs. Zombies พืชยิงซอมบี
เกม Dynomite ยิงไข่ไดโนเสาร์ในตำนาน
เกม Bejeweled จับคู่เพชรสีเดียว

เกมทั้งหมดที่พูดมานี้ มีบริษัทพัฒนาเดียวกัน ชื่อว่า PopCap Games

โดยความสำเร็จของ PopCap ทำให้ได้ฉายา Pixar แห่งวงการเกม

และถูกบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง EA ซื้อกิจการไป ด้วยมูลค่าดีลกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2011 หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 67,000 ล้านบาท..

เส้นทางของ PopCap Games เป็นอย่างไร
ทำไมถึงเป็น Pixar แห่งวงการเกมขึ้นมาได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว จุดเริ่มต้นของ PopCap ฟังดูธรรมดามาก
เพราะเกิดจากไอเดียเพื่อนร่วมคลาส 2 คน ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์

โดยในปี 1997 คุณ Brian Fiete และ คุณ John Vechey
พูดคุยเล่นกัน จนปิ๊งไอเดียว่า อยากทำโปรเจกต์เกมอินเทอร์เน็ต สักชิ้นหนึ่ง

ซึ่งตอนนั้น เป็นยุคเริ่มต้นที่อินเทอร์เน็ตใช้กันมากขึ้น ทำให้ทั้งคู่คิดเกมเรือยิงต่อสู้กับเครื่องบิน ขึ้นมาเกมหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ARC หรือ Attack Retrieve Capture

เมื่อเกม ARC ได้ถูกปล่อยให้คนเล่นกันฟรี ๆ ก็ได้ไปสะดุดตาของคุณ Jason Kapella โปรแกรมเมอร์
ที่บริษัทเกม Total Entertainment Network (TEN)

คุณ Jason ได้เข้ามาทักทายและชวนทั้งคู่ไปร่วมงานด้วยที่ TEN เพราะเห็นในความสามารถ ซึ่งทั้งสองเองก็ตกลงที่จะไปร่วมงานกับคุณ Jason

ถึงขนาดที่ว่า ทั้งคู่ยอมลาออกจากมหาวิทยาลัย เพื่อไปทำงานด้านเกมด้วย

อย่างไรก็ตาม พอทำได้สักพักหนึ่ง คุณ Brian และคุณ John กลับเริ่มเบื่อกับการทำงานที่นั่น จึงตัดสินใจที่จะลาออกมาทำเกมเล็ก ๆ ด้วยตัวเอง แล้วขายต่อให้กับบริษัทเกมใหญ่แทน

ซึ่งต่อมา TEN ก็ได้ประกาศล้มละลาย เพราะผลประกอบการที่ขาดทุนอย่างหนัก จนทำให้คุณ Jason ต้องออกจากบริษัทนี้ด้วยเช่นกัน

ต่อมาในปี 2000 ทั้งสามคนจึงได้มาก่อตั้งบริษัทเกมร่วมกัน ซึ่งตอนแรกใช้ชื่อว่า Sexy Action Cool ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น PopCap ในภายหลัง

โดยเกมแรกที่ได้ทำออกมา คือ Bejeweled ที่ให้คนเล่นจับคู่เพชรสีเดียวกัน ซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัวให้ดาวน์โหลดมาลองเล่น

อย่างไรก็ตาม PopCap กลับโดนบริษัทเกมเจ้าอื่นดูถูกแทน เพราะเกมที่ทำดูไม่มีอะไรซับซ้อน เรียบง่าย และไม่มีความท้าทายอะไรเลย

แต่ทั้งสามคนก็ไม่ฟังเสียงดูถูกนั้น เพราะคิดว่า เกมที่ดีต้องเป็นเกมที่เล่นง่าย ไม่ซับซ้อน และคนทั่วไป สนุกกับมันได้ทุกช่วงเวลา

ต่อมา PopCap ก็เริ่มนำเกมไปวางบน Microsoft Games Site คล้ายกับเวลาเราเข้า App Store หรือ Play Store เพื่อดาวน์โหลดในปัจจุบัน

ถึงแม้กระแสจะออกมาค่อนข้างดี แต่ด้านรายได้นั้น PopCap ก็ไม่ประสบความสำเร็จในตอนแรก โดยทำรายได้ค่าลิขสิทธิ์ต่อเดือนเพียง 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 1 แสนบาทเท่านั้น

ทำให้ทั้งสามคน กลับมาคิดกันว่า จะหารายได้อย่างไร จนสรุปได้ว่า PopCap จะไม่หารายได้แบบบริษัทเกมอื่น ที่พึ่งพารายได้จากค่าโฆษณาอย่างเดียว

เพราะ PopCap จะทำเกมออกมา 2 เวอร์ชัน โดยเวอร์ชันแรก ให้คนดาวน์โหลดเล่นได้ฟรีแบบจำกัด
แต่อีกเวอร์ชัน ให้คนเสียเงินเพื่อดาวน์โหลดเกมนี้
ต้องบอกว่า ไอเดียนี้ค่อนข้างใหม่ในเวลานั้น

แต่การเลือกโมเดลธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร และคิดเกมให้เล่นได้ง่าย ๆ เข้าถึงได้ทุกคน ทำให้ PopCap กลายเป็นเสือติดปีกในวงการธุรกิจเกมไปตั้งแต่ตอนนั้น

และออกเกมตามมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น

- Peggle เกมระเบิดลูกแก้ว
- Plants vs. Zombies เกมพืชยิงซอมบี

รวมไปถึงเกมอื่น ๆ ที่ PopCap ดำเนินการจัดจำหน่ายเอง แต่ไปจ้างนักพัฒนาเจ้าอื่นมาพัฒนาเกมแทน เช่น Dynomite เกมยิงไข่ไดโนเสาร์

ซึ่งในปี 2010 Forbes รายงานว่า PopCap มีพนักงาน 400 คน และมีรายได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 5,300 ล้านบาท

โดยตอนนั้น รายได้หลักมาจาก การขายเกมบนคอมพิวเตอร์ 40% รองลงมาคือ ขายบนโทรศัพท์มือถือ 30%
และที่เหลือ เป็นการขายบนเครื่องเล่นเกม XBOX

ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ก็ได้ไปเตะตา EA บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ที่หมายตามองมา เพราะ PopCap ในตอนนั้น ได้ฉายาว่า Pixar แห่งวงการเกมเลยทีเดียว

เนื่องจากเกมที่ออกมาแต่ละเกม แม้จะมีความเรียบง่าย แต่ก็เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ เหมือนกับ Pixar ที่สร้างสรรค์ผลงานที่เข้าถึงคนทั่วไปมาตลอด

และในที่สุดยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมอย่าง EA ก็ยื่นซื้อกิจการ PopCap ทั้งหมด ด้วยมูลค่าดีลกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2011 หรือคิดเป็นเงินปัจจุบันราว 67,000 ล้านบาท

ซึ่งไม่ได้เป็นการซื้อกิจการแค่อย่างเดียว แต่ทั้งสามผู้ก่อตั้ง PopCap ยังนั่งบริหารธุรกิจได้เหมือนเดิม ภายใต้บริษัทแม่อย่าง EA

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วคุณ Brian, คุณ John และ คุณ Jason ก็ตัดสินใจลาออกจากบริษัทนี้ไปทั้งหมดแล้ว

และทาง EA ก็ได้แต่งตั้งคุณ Matt Nutt อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ให้เข้ามาดูแล PopCap แทนในปัจจุบัน

ถึงตรงนี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่าจากเรื่องราวธรรมดาที่เพื่อน 2 คนเจอกันในห้องเรียน แล้วทำเกมด้วยกัน จนไปเตะตาของรุ่นพี่โปรแกรมเมอร์ ที่ต่อมาทำธุรกิจด้วยกัน

จะกลายเป็น PopCap ที่ครั้งหนึ่งเคยออกเกมยอดฮิตอย่าง Plants vs. Zombies ให้เราได้เล่นกัน และธุรกิจได้ฉายาว่า Pixar แห่งวงการเกม

ซึ่งบทเรียนจากเรื่องนี้ ก็คงเป็นการเริ่มทำธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองชอบ หลงใหลไปกับมัน และทำให้ดีที่สุด เมื่อนั้นก็จะมีลูกค้าที่ใช่ เดินเข้ามาหาเราเอง

และที่สำคัญ​ บางครั้ง ความสำเร็จก็มากับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่สามารถครองใจคนส่วนใหญ่ได้

กลับกัน ถ้าเป็นอะไรที่ดูล้ำ ๆ หรือน่าตื่นเต้น แต่ถ้าไม่ตอบโจทย์ตลาดหรือผู้คน ธุรกิจนั้น ก็คงอยู่รอดได้ไม่นาน..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.gamedeveloper.com/business/ten-years-of-PopCap-the-interview#close-modal
-https://www.inc.com/articles/201109/the-man-behind-the-750-million-exit.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Dynomite!_(video_game)
-https://www.forbes.com/sites/oliverchiang/2010/12/29/10-years-of-PopCap-games-beyond-bejeweled/?sh=3e34f55d23a4
-https://www.cbinsights.com/company/PopCap-games/financials
-https://techcrunch.com/2011/07/12/confirmed-ea-buys-PopCap-games-for-750-million-plus-earn-out
-https://en.wikipedia.org/wiki/Total_Entertainment_Network