โอกาสล็อคผลตอบแทนก่อนการลดดอกเบี้ยกับหุ้นกู้ CPF หุ้นกู้ระดับ A+
CPF x ลงทุนแมน
โอกาสล็อคผลตอบแทนก่อนการลดดอกเบี้ยกับหุ้นกู้ CPF หุ้นกู้ระดับ A+
โอกาสล็อคผลตอบแทนก่อนการลดดอกเบี้ยกับหุ้นกู้ CPF หุ้นกู้ระดับ A+
ท่ามกลางกระแสข่าวการลดดอกเบี้ยจากธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน หรือแม้กระทั่งในประเทศไทยเอง ก็ยังมีข่าวการลดดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง และล่าสุดธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB และธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดย ECB คงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน และ FOMC ก็ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ในส่วนของบ้านเราเอง ก็มีทิศทางเดียวกับธนาคารกลางในต่างประเทศที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในการประชุมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา
จากสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะถึงจุดสูงสุดและน่าจะทยอยปรับลดลง ช่วงเวลานี้จึงอาจเป็นจังหวะที่ดีในการทยอยสะสมหุ้นกู้คุณภาพดี เพื่อเป็นการล็อคผลตอบแทนไว้ ก่อนที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเฉพาะหุ้นกู้ที่เสนอขายโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงที่มีการลงทุนทั้งในและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง มีความมั่นคง และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับสูงและเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหารการกิน ซึ่งเป็นปัจจัย 4 ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ก็ยิ่งน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก
โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 4 รุ่น โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 22 – 23 และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ในการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนดในปี 2567 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาทโดยหุ้นกู้ CPF ทั้ง 4 รุ่น มีรายละเอียด ดังนี้
หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.96% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.56% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.09% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.56% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.80% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.09% ต่อปี
หุ้นกู้ CPF ชุดใหม่มีอายุระหว่าง 1 ปี 10 เดือน ถึง 10 ปี ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้นก็สามารถเลือกลงทุนในรุ่น 1 ปี 10 เดือน นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะกลางก็อาจเลือกลงทุนในรุ่น 5 ปี ถึง 7 ปี หรือนักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะยาวและต้องการดอกเบี้ยเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็อาจเลือกจะลงทุนในรุ่น 10 ปี เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนได้เลือกลงทุนให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของแต่ละคน
CPF และหุ้นกู้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “A+” แนวโน้ม “Negative” เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สะท้อนถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารในระดับสากล โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายในการเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ CPF เป็นผู้ผลิตด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร มีฐานการผลิตใน 17 ประเทศทั่วโลก และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารในมากกว่า 50 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีปทั่วโลก โดยจำแนกประเภทธุรกิจหลักของบริษัทฯ ได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) 2. ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป (Farm and Processing) และ 3. ธุรกิจอาหาร (Food)
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็น “ครัวของโลก” CPF จึงได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ที่ทันสมัย สนับสนุนการผลิตและการแปรรูปเนื้อสัตว์อย่างมีคุณภาพ ขยายการผลิตอาหารพร้อมรับประทานเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรมด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบการผลิตที่ปลอดภัย มีสินค้าที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้ เช่น หมูชีวา ซึ่งเป็นหมูที่มีไขมันดีและมีโอเมก้า 3 สูง ไก่เบญจา ซึ่งเป็นไก่ที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้องคัดพิเศษเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ไข่แปรรูปในรูปแบบต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของสารอาหาร รสชาติและความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค และยังให้ความสำคัญในการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสมด้วยความใส่ใจในผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
ในขณะเดียวกัน CPF ยังได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลกเช่น FTSE4Good MSCIESG และ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ามาตรฐานการพัฒนาด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ เทียบเท่ามาตรฐานระดับโลกและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
CPF ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยที่ผ่านมา CPF ได้กำหนดเป้าหมายขับเคลื่อนองค์กรมุ่งสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ซึ่งส่วนหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวมาจากการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ การจัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรด้วยความรับผิดชอบจากแหล่งที่ไม่บุกรุกป่าและไม่ตัดไม้ทำลายป่า ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทั้งในและนอกสถานประกอบการ และมุ่งเน้นการบริโภคอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการตอกย้ำการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยความรับผิดชอบ จากการบริหารจัดการกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิตและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ CPF สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง)
• บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59
• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004
• บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร 02-695-5000
• บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-8888 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kgieworld.co.th (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง)
• บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59
• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004
• บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร 02-695-5000
• บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-8888 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kgieworld.co.th (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
ทั้งนี้ ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ พร้อมภาพตัวอย่างประกอบโดยสังเขปได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำเรื่องขั้นตอน และวิธีการสมัครจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว