โอกาสลงทุนกับหุ้นกู้ CPF ผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรระดับโลก
CPF x ลงทุนแมน
โอกาสลงทุนกับหุ้นกู้ CPF ผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรระดับโลก
โอกาสลงทุนกับหุ้นกู้ CPF ผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจรระดับโลก
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (“CPF”) ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ด้วยฐานการผลิตใน 17 ประเทศทั่วโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ใหม่ จำนวน 2 รุ่น อายุ 5 ปี และ 10 ปี คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 13 – 15 มกราคม พ.ศ. 2568 นี้ โดยหุ้นกู้ CPF ทั้ง 2 รุ่น มีรายละเอียด ดังนี้
หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.40-3.55]% ต่อปี
หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.80-3.95]% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ [3.80-3.95]% ต่อปี
อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
หุ้นกู้ CPF ชุดใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยในทุก 6 เดือน ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามความต้องการและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลาที่ไม่นานมาก รุ่น 5 ปี จะเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ หากผู้ลงทุนสามารถลงทุนระยะเวลายาวได้ รุ่น 10 ปีจะตอบโจทย์ในเรื่องของผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเองได้
นอกจากนี้ ด้วยอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับทุกคน ทำให้หุ้นกู้ของ CPF เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสะสมหุ้นกู้คุณภาพดีในช่วงต้นปี 2568 นี้ รวมถึงนักลงทุนมือใหม่หรือกลุ่ม first jobber ที่ได้รับโบนัสหรือเงินก้อนในช่วงปลายปีและเริ่มกระจายการลงทุนมายังหุ้นกู้ที่ได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าผลตอบแทนจากเงินฝาก
นอกจากนี้ ด้วยอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับทุกคน ทำให้หุ้นกู้ของ CPF เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสะสมหุ้นกู้คุณภาพดีในช่วงต้นปี 2568 นี้ รวมถึงนักลงทุนมือใหม่หรือกลุ่ม first jobber ที่ได้รับโบนัสหรือเงินก้อนในช่วงปลายปีและเริ่มกระจายการลงทุนมายังหุ้นกู้ที่ได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าผลตอบแทนจากเงินฝาก
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทิศทางของอัตราดอกเบี้ย โดยมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 3 ครั้งติดต่อกัน โดยปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมวันที่ 17 – 18 กันยายน พ.ศ. 2567 และลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ครั้งที่ 2 ในการประชุมวันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 และล่าสุดเมื่อการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคม 2567 ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เท่ากับว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 1.00% ในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมาและส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มการลดดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่องในปี 2568-2570 จึงเป็นโอกาสในการลงทุนหุ้นกู้คุณภาพที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A ก่อนที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยรวมถึงผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้จะปรับลดลง
บริษัทและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สะท้อนถึงสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมระดับโลกของบริษัท ตลอดจนการมีฐานการผลิตที่กระจายตัวอยู่ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย
บริษัทและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สะท้อนถึงสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมระดับโลกของบริษัท ตลอดจนการมีฐานการผลิตที่กระจายตัวอยู่ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงมีสินค้าและตลาดที่หลากหลาย
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 CPF มีรายได้จากการขายจำนวน 142,703 ล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 7,309 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 เป็นผลมาจากต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและราคาวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ปรับตัวลดลง ประกอบกับราคาสุกรในหลายประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น และในส่วนของผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้จากการขายจำนวน 432,238 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 15,386 ล้านบาท
CPF ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ด้วยเป้าหมายสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้วิสัยทัศน์เป็น “ครัวของโลก” มีฐานการผลิตใน 17 ประเทศทั่วโลก และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารในมากกว่า 50 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีป ซึ่งสามารถจำแนกประเภทธุรกิจหลักได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) 2. ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป (Farm and Processing) และ 3. ธุรกิจอาหาร (Food)
CPF ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ด้วยเป้าหมายสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้วิสัยทัศน์เป็น “ครัวของโลก” มีฐานการผลิตใน 17 ประเทศทั่วโลก และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารในมากกว่า 50 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีป ซึ่งสามารถจำแนกประเภทธุรกิจหลักได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) 2. ธุรกิจเลี้ยงสัตว์และแปรรูป (Farm and Processing) และ 3. ธุรกิจอาหาร (Food)
CPF ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ที่ทันสมัย สนับสนุนการผลิตและการแปรรูปเนื้อสัตว์อย่างมีคุณภาพ และขยายการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้น CPF คิดค้นนวัตกรรมด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารอย่างต่อเนื่อง และมีแนวในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรนวัตกรรมผ่านการบูรณาการเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และแนวทางการเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและดูแลสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ในขณะเดียวกันก็สร้างคุณค่าร่วมกับสังคม โดยมุ่งหาแนวทางในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรม พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ พร้อมกับดูแลห่วงโซ่อุปทานให้เติบโตไปด้วยกัน หรือที่เรียกว่า “นวัตกรรมความยั่งยืน หรือ Sustainovation” ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ CPF มีความสามารถในการแข่งขันในสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคง
CPF ตระหนักและให้ความสำคัญกับการบูรณาการการสร้างคุณค่าร่วม เพื่อความยั่งยืนในเป้าหมายและกลยุทธ์ธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยเคารพสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มุ่งสร้างประโยชน์เพื่อประเทศ ประชาชน และบริษัท รวมถึงการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางข้อตกลงของสหประชาชาติ บนพื้นฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยงองค์กร และการกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ และเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก เช่น FTSE4Good MSCIESG และ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ามาตรฐานการพัฒนาด้านความยั่งยืนของบริษัทเทียบเท่าระดับโลกและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดเป้าหมายขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net -Zero) ภายในปี 2593 นอกจากนี้ CPF ยังเป็น 1 ใน 7 บริษัททั่วโลกที่เข้าโครงการนำร่องและเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารแห่งแรกที่ได้รับอนุมัติทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวสอดคล้องตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture Guidance (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารจากองค์กร the Science Based Targets initiative (SBTi) ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจและการดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ CPF สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อออนไลน์บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้น บุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777 หรือจองซื้อผ่าน Mobile Application - CIMB Thai
• บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
• บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004
• บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร 02-695-5555
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้น บุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
• ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777 หรือจองซื้อผ่าน Mobile Application - CIMB Thai
• บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
• บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004
• บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร 02-695-5555
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet โดยศึกษารายละเอียด ขั้นตอน วิธีการสมัครแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet และวิธีการจองซื้อ พร้อมภาพตัวอย่างประกอบโดยสังเขปได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำเรื่องขั้นตอน และวิธีการสมัครจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว