หุ้น Tesla ร่วง 5% หลังผลประกอบการพลาดเป้า ปีหน้าเตรียมผลิตรถโมเดลใหม่ ราคาถูก มาแข่ง
หุ้น Tesla ร่วง 5% หลังผลประกอบการพลาดเป้า ปีหน้าเตรียมผลิตรถโมเดลใหม่ ราคาถูก มาแข่ง /โดย ลงทุนแมน
วันนี้ Tesla ได้เผยผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2023
ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งด้านรายได้และกำไร
วันนี้ Tesla ได้เผยผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2023
ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งด้านรายได้และกำไร
อีกทั้ง Tesla ยังบอกอีกว่า ยอดส่งมอบรถยนต์ในปีนี้ อาจมีการเติบโตที่น้อยกว่าปีที่แล้ว..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ก็ทำให้นักลงทุนผิดหวัง และเทขายหุ้น Tesla
จนกดดันราคาหุ้นให้ร่วงลง -5.9% ในช่วงตลาดซื้อขายนอกเวลาทำการ
จนกดดันราคาหุ้นให้ร่วงลง -5.9% ในช่วงตลาดซื้อขายนอกเวลาทำการ
หรือคิดเป็นมูลค่าบริษัทที่หายไป 1.4 ล้านล้านบาท ในวันเดียว
โดยในไตรมาสนี้ Tesla
-มีรายได้ 899,821 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%
-มีรายได้ 899,821 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%
แบ่งเป็น
รายได้จากรถยนต์ 770,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%
รายได้จากระบบผลิตและกักเก็บพลังงาน 51,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
รายได้จากบริการและอื่น ๆ 77,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
รายได้จากรถยนต์ 770,964 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%
รายได้จากระบบผลิตและกักเก็บพลังงาน 51,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
รายได้จากบริการและอื่น ๆ 77,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
จะเห็นได้ว่า รายได้จากการขายรถยนต์ของ Tesla เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามราคา ที่ทำให้ Tesla ต้องหั่นราคาขายรถลง เพื่อสู้กับค่ายรถอื่น ๆ
ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามราคา ที่ทำให้ Tesla ต้องหั่นราคาขายรถลง เพื่อสู้กับค่ายรถอื่น ๆ
-มีกำไร 283,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115%
โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ เกิดจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ไม่ใช่เงินสด ซึ่งเป็นรายการพิเศษเพียงครั้งเดียว จำนวน 210,948 ล้านบาท
หรือก็คือ ถ้าตัดรายการนี้ออกไป กำไรในไตรมาสนี้ แทบจะไม่โตเลย
ส่วนด้านจำนวนรถยนต์ที่ขายได้ ในไตรมาสที่ 4 นั้น
Tesla ส่งมอบรถยนต์ได้ 484,507 คัน เพิ่มขึ้น 20%
ซึ่งมาจากโมเดล Model 3 และ Model Y คิดเป็นสัดส่วน 95% และโมลเดลอื่น ๆ อีก 5%
ทำให้ทั้งตลอดปี 2023
Tesla ส่งมอบรถยนต์ไปได้รวม 1,808,581 คัน เพิ่มขึ้น 38%
แบ่งเป็นโมเดล Model 3 และ Model Y (96%) และโมเดลอื่น ๆ (4%)
Tesla ส่งมอบรถยนต์ไปได้รวม 1,808,581 คัน เพิ่มขึ้น 38%
แบ่งเป็นโมเดล Model 3 และ Model Y (96%) และโมเดลอื่น ๆ (4%)
จากข้อมูลจะเห็นว่า Tesla ยังสามารถรักษาการเติบโตของจำนวนรถที่ส่งมอบ ในระดับ Double Digit เอาไว้ได้อยู่
อย่างไรก็ตาม อีลอน มัสก์ เคยตั้งเป้าไว้ว่า Tesla จะเติบโตอย่างน้อย 50% ในทุก ๆ ปี
แต่วันนี้สภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป มีความท้าทายมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถทำตามเป้าที่เคยตั้งไว้ได้
แต่วันนี้สภาพการแข่งขันเปลี่ยนไป มีความท้าทายมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถทำตามเป้าที่เคยตั้งไว้ได้
นอกจากนี้ Tesla ยังบอกว่าปี 2024 อัตราการเติบโตของยอดส่งมอบรถยนต์ อาจต่ำกว่าปี 2023 อย่างเห็นได้ชัด..
โดยนักวิเคราะห์คาดว่าในปีนี้ Tesla จะส่งมอบรถยนต์ได้ราว 2.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน
สำหรับประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจของ Tesla ก็จะมี
-ไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา เริ่มมีการส่งมอบรถ Cybertrucks ให้ลูกค้า
โดย Tesla มีกำลังการผลิตรถรุ่นนี้ที่ 125,000 คันต่อปี
โดย Tesla มีกำลังการผลิตรถรุ่นนี้ที่ 125,000 คันต่อปี
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของ Cybertrucks อาจยังไม่ได้มีนัยสำคัญในเร็ว ๆ นี้
เนื่องจากความซ้ำซ้อนในการผลิต และราคาขายที่ค่อนข้างสูง
เนื่องจากความซ้ำซ้อนในการผลิต และราคาขายที่ค่อนข้างสูง
-ณ สิ้นปึ 2023 มีสถานี Tesla Supercharger รวม 5,952 แห่งในทั่วโลก ทำให้มีจุดชาร์จกว่า 54,892 จุด
และไฮไลต์สุดท้ายคือ “รถยนต์โมเดลใหม่” ที่มีราคาถูกลง
ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อรุ่น Model 2 และมีราคาเริ่มต้นที่ 25,000 เหรียญ หรือ 893,000 บาท
ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อรุ่น Model 2 และมีราคาเริ่มต้นที่ 25,000 เหรียญ หรือ 893,000 บาท
โดย Tesla วางแผนที่จะเริ่มผลิตรถรุ่นใหม่นี้ ในช่วงกลางปี 2025
เพื่อมาแข่งกับรถยนต์สันดาปในระดับ Mass
รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า จากทางฝั่งค่ายรถจีน เช่น BYD ที่มีราคาถูกกว่า
เพื่อมาแข่งกับรถยนต์สันดาปในระดับ Mass
รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า จากทางฝั่งค่ายรถจีน เช่น BYD ที่มีราคาถูกกว่า
ซึ่ง Tesla บอกว่า รถยนต์รุ่นต่อไปนี้ จะทำให้บริษัทเกิดการเติบโตในระลอกใหม่..
Tag: tesla