ทำไม GPSC ถึงลงทุน 20,000 ล้านในอินเดีย

ทำไม GPSC ถึงลงทุน 20,000 ล้านในอินเดีย

ทำไม GPSC ถึงลงทุน 20,000 ล้านในอินเดีย
รู้หรือไม่ว่า บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท.
ได้เลือกประเทศอินเดีย เป็น Second Home หรือ บ้านหลังที่สอง โดยมองว่าเป็นตลาดสำคัญไม่แพ้ประเทศไทย
GPSC ลงทุนในบริษัท Avaada ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในอินเดีย มากกว่า 27,000 ล้านบาท..
แล้ว GPSC เห็นอะไร ในประเทศแห่งนี้ ?
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ได้มีการปรับตัวในหลายมิติ
ทั้งเรื่องการแสวงหาธุรกิจใหม่ หรือ New S-Curve
บวกกับการเข้ามามีบทบาทในการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น เพื่อให้องค์กรสามารถเติบโตต่อไปได้ และสอดรับกับเทรนด์โลก
ทาง ปตท. ผลักดันให้ GPSC เป็นหัวหอกสำคัญ ในการเปลี่ยนผ่านและขับเคลื่อน สู่การเป็นองค์กรด้านพลังงานที่ยั่งยืนอย่างเต็มตัว
แต่การจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ ลำพังเพียงการดำเนินธุรกิจภายในประเทศอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ จากข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการขยายกำลังการผลิต และขนาดของตลาด
GPSC จึงต้องแสวงหาโอกาสใหม่ และขยายธุรกิจออกไปมากกว่าแค่ในประเทศ
คำถามคือ แล้วประเทศไหนกัน ที่มีศักยภาพมากพอในการเข้าไปลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ในมุมมองของ GPSC ?

คำตอบก็คือ “อินเดีย”
อย่างที่รู้กันว่าปีนี้ อินเดีย ขึ้นมาเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก แซงหน้าจีน
อีกทั้งเป็นประเทศที่มีขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก แถมมีแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง
โดยคาดว่าปีนี้ GDP ของอินเดีย จะเติบโต 6.1% และปีหน้า จะเติบโตอีก 6.8%
การเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ย่อมตามมาด้วยการบริโภคพลังงานที่มากขึ้น
ทำให้มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอีก ทั้งจากภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน
ซึ่งพลังงานที่ว่านี้ ก็รวมถึงพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน อย่างเช่น จากแสงอาทิตย์
เพราะรัฐบาลอินเดีย กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยได้ประกาศเป้าหมายการผลิตพลังงานที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ 500 GW
และตั้งเป้าผลิตพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 50% ภายในปี 2573 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2613
ที่สำคัญ รัฐบาลอินเดีย ยังได้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการประกาศเชิญชวนให้มีการลงทุนในหลายโครงการทั่วประเทศ ในรูปของตราสารหนี้ และหุ้นเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ
รวมถึงออกนโยบายและโครงการเงินอุดหนุนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้ ยังมีสถิติพบว่า ประชากรชาวอินเดีย ใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยต่อคน น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ถึง 2.7 เท่า
โดยหากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว คนอินเดีย ใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยต่อคน น้อยกว่า สหรัฐฯ และจีน ถึง 9.7 เท่า และ 4.7 เท่า ตามลำดับ

ตัวเลขนี้ สรุปง่าย ๆ ว่า ยังมีแนวโน้มที่ประเทศอินเดีย จะบริโภคพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นอีก จึงมีโอกาสให้ตลาดขยายตัวได้อีกมาก
ดังนั้น เมื่อมีความต้องการใช้ไฟฟ้ามารองรับ ซึ่งก็กำลังมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ประกอบกับรัฐบาลอินเดีย ให้การสนับสนุนการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ
อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนในอินเดีย จึงมีศักยภาพให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัจจุบัน อินเดีย ก็ถือว่าเป็นผู้นำในด้านพลังงานหมุนเวียน ในเวทีโลก
โดยประเทศแห่งนี้ มีกำลังการผลิตติดตั้งในโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีกำลังการผลิตติดตั้งพลังงานลม สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ในปี 2565
พอเห็นภาพรวมและศักยภาพของอุตสาหกรรมนี้ ในประเทศอินเดียแล้ว บางคนอาจสงสัยว่า แล้ว Avaada คือใคร ? ทำไม GPSC ถึงเลือกลงทุนในบริษัทนี้ ?
Avaada เป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในประเทศอินเดีย
โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2552 เริ่มจากโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 15 MW ในรัฐคุชราต
หลังจากนั้น Avaada ได้ดำเนินและขยายโครงการต่าง ๆ เรื่อยมา จนกระทั่งปี 2559 Avaada ได้กลายเป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ซึ่งตอนนั้น มีพอร์ตพลังงานประมาณ 1.2 GW
และปัจจุบันขยายธุรกิจ จนมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นมากกว่า 7 GW โดยกลุ่ม ปตท. และ GPSC ได้ตกลงเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ Avaada เมื่อปี 2564
นับตั้งแต่นั้น ตอนนี้ GPSC ได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท Avaada รวมแล้วกว่า 27,300 ล้านบาท จนถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 43%
ในแง่ของการดำเนินธุรกิจ ที่ผ่านมา Avaada ได้ชนะการประมูลหลายโครงการ เช่น การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ จากโครงการเงินอุดหนุน เพื่อการผลิต PLI เพื่อผลิตแผ่นเวเฟอร์ โซลาร์เซลล์ และมอดูล และชนะการประมูลการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ 2.5 GW
นอกจากภาครัฐแล้ว Avaada ยังมีลูกค้าเป็นองค์กรภาคเอกชนหลายราย เช่น Wipro, Airtel, Cisco, Tata, Praxair และอื่น ๆ อีกหลายบริษัท
ซึ่ง Avaada ก็ได้อานิสงส์จากการที่ลูกค้าภาคธุรกิจ มีแนวโน้มหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนสูงขึ้น
ต้องบอกก่อนว่า แม้ค่าไฟที่อินเดียจะต่ำ ซึ่งตกหน่วยละประมาณ 1.5 บาท แต่ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ก็ต่ำมากเช่นกัน
ทำให้ธุรกิจของ Avaada ผลิตกำไร และให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง บวกกับยังได้สิทธิประโยชน์จากการสนับสนุนของภาครัฐ
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ GPSC มองว่า อินเดีย เป็นประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า นั่นเอง
นอกจาก Avaada จะดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแล้ว ทางบริษัทยังได้ขยายขอบเขตธุรกิจออกไปให้กว้างขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน (Vertical & Horizontal Integration)
ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจไปต้นน้ำและปลายน้ำ เช่น ร่วมผลิตแผงโซลาร์เซลล์ และรุกธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS) อีกด้วย
ซึ่งการเข้าลงทุนใน Avaada ของ GPSC เป็นจิกซอว์สำคัญ สู่การก้าวเป็นหนึ่งในบริษัทนวัตกรรมผู้ผลิตไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจของ GPSC ที่ต้องการขยายสัดส่วนกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน ให้ได้ตามเป้าหมาย มากกว่า 50% ในปี 2573
ซึ่งปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 3,629 MW คิดเป็น 45% ของกำลังการผลิตรวม
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงหายสงสัยกันแล้วว่า ทำไม กลุ่ม ปตท. และ GPSC ถึงปักหมุดเลือก อินเดีย ประเทศที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน เป็นตลาดสำคัญที่ต้องเข้าไปขยายธุรกิจ
และทำไมถึงตัดสินใจลงทุนในบริษัท Avaada นับหมื่นล้านบาท
เพราะนั่นคืออีกกลยุทธ์ที่สนับสนุนการเติบโตของ GPSC เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดพลังงานหมุนเวียน นั่นเอง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon