AIS Business ปี 2566 มุ่งเติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ในฐานะดิจิทัลพาร์ตเนอร์ของผู้ประกอบการไทย
AIS Business ปี 2566 มุ่งเติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ในฐานะดิจิทัลพาร์ตเนอร์ของผู้ประกอบการไทย
AIS Business x ลงทุนแมน
AIS Business x ลงทุนแมน
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า AIS คือ หนึ่งในแบรนด์โทรคมนาคมที่คนไทยให้ความไว้วางใจ
โดยดูได้จากที่ AIS มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 44.1 ล้านเลขหมาย
ซึ่งตัวเลขนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 62% ของประชากรไทยเลยทีเดียว
ซึ่งตัวเลขนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 62% ของประชากรไทยเลยทีเดียว
AIS Business ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ AIS ซึ่งดูแลกลุ่มลูกค้าองค์กรซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชัน
รูปแบบใหม่ ๆ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ถือเป็นการเติมเต็มวิสัยทัศน์การก้าวสู่การเป็น Cognitive Techco ของบริษัท และสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตควบคู่กับสังคม และสิ่งแวดล้อม ได้อย่างยั่งยืน
รูปแบบใหม่ ๆ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ถือเป็นการเติมเต็มวิสัยทัศน์การก้าวสู่การเป็น Cognitive Techco ของบริษัท และสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตควบคู่กับสังคม และสิ่งแวดล้อม ได้อย่างยั่งยืน
ในปี 2566 นี้ AIS Business ยังคงเดินหน้ามุ่งสร้าง Digital Business Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์แบบ สามารถตอบโจทย์การทำงานทุกองค์กรได้ในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน” (Growth-Trust-Sustainability) สานต่อ 5 กลยุทธ์ อันได้แก่
1) เชื่อมต่อ 5G Ecosystem เพื่อการทำงานของภาคธุรกิจอย่างรอบด้าน
2) ยกระดับการทำงานของโครงข่ายด้วย Intelligent Network
3) มุ่งเสริมความสมบูรณ์ของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์ม
4) เสริมอาวุธด้านการตลาด และเพิ่มโอกาสการเติบโต Data-driven Business
5) ส่งมอบบริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่ไว้วางใจได้
ความน่าสนใจของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว AIS เริ่มมองไปไกลกว่าการเป็นผู้ให้บริการสัญญาณโทรคมนาคมเพียงอย่างเดียว
โดยนำเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้กับการให้บริการ เพื่อคิดค้นโซลูชันในการแก้ปัญหาต่าง ๆ พร้อมสร้างบริการดิจิทัลใหม่ ๆ ให้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน
เพื่อเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถทรานส์ฟอร์มองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบันความสำเร็จของ AIS Business สะท้อนได้ผ่านจำนวนลูกค้าทางธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และรางวัลความไว้วางใจที่บริษัทได้รับ เช่น
- ยอดการใช้งาน AIS 5G ในกลุ่มลูกค้าธุรกิจ เติบโตจากปีที่แล้วกว่า 40% มากกว่า 200,000 การเชื่อมต่อ
- ยอดการใช้งาน Cloud ของลูกค้าองค์กร เติบโตจากปีที่แล้วกว่า 200% ทะลุ 3,000 ราย
- เป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Sovereign Cloud จาก VMware ซึ่งเป็นมาตรฐานการให้บริการ สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งาน Cloud ภายในประเทศที่มีความมั่นคง และปลอดภัยด้านข้อมูล สอดคล้องกับข้อกฎหมายภายในประเทศ
- จากผลสำรวจจาก 200 บริษัทชั้นนำและบริษัทที่ listed ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมากกว่า 56% ระบุว่า AIS Business เป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านดิจิทัล ที่ดีที่สุด
- ได้รับการรับรองมาตรฐาน SOC II Data Center Certified ด้านความปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
โดย AIS Business จะให้ความสำคัญกับ 3 แนวทางของการเติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ดังนี้
1. เร่งการเติบโตของภาคธุรกิจ ด้วยดิจิทัลโซลูชัน
ซึ่ง AIS Business จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสัญญาณ 5G ให้มีประสิทธิภาพ และมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น พร้อมนำ Big Data และ AI Analytics มายกระดับภาคอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น การขนส่ง, โลจิสติกส์ และค้าปลีก ให้มีความคล่องตัวในการทำงาน มากยิ่งขึ้น
ซึ่ง AIS Business จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสัญญาณ 5G ให้มีประสิทธิภาพ และมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น พร้อมนำ Big Data และ AI Analytics มายกระดับภาคอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น การขนส่ง, โลจิสติกส์ และค้าปลีก ให้มีความคล่องตัวในการทำงาน มากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ AIS Business ได้เปิดตัวบริการ AIS Paragon Platform หรือแพลตฟอร์มที่ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์มแบบครบวงจร ร่วมกับพาร์ตเนอร์ระดับโลก อย่าง Microsoft และ AWS (Amazon Web Services)
ดังจะเห็นจากความสำเร็จที่ AIS Business ร่วมเป็นหนึ่งในกลจักรของการทรานส์ฟอร์มโรงงานในเครือของสมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ ให้กลายเป็น Smart Factory
โดยการนำ 5G และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ร่วมกับพันธมิตร พัฒนาระบบ Big Data และ AI ไปช่วยวิเคราะห์ในการบริหารจัดการโรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการใช้ Robotic Automation, 3D Vision และ AS/RS Smart Warehouse เป็นต้น
โดยการนำ 5G และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ร่วมกับพันธมิตร พัฒนาระบบ Big Data และ AI ไปช่วยวิเคราะห์ในการบริหารจัดการโรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการใช้ Robotic Automation, 3D Vision และ AS/RS Smart Warehouse เป็นต้น
ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ในโรงงานได้มากขึ้นถึง 60%
พร้อมลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมากถึง 30%
พร้อมลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมากถึง 30%
2. ปรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้ทันสมัย และพัฒนาระบบคลาวด์ให้มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
โดย AIS Business จะต่อยอดระบบคลาวด์เซอร์วิส เพื่อเชื่อมต่อทุก ๆ ภาคส่วนอย่างไร้รอยต่อ พร้อมมาตรฐาน Sovereign Cloud มาเสริมความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และความแข็งแกร่งให้แก่ภาคอุตสาหกรรมไทย
ซึ่งจากภัยคุกคามด้านไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ AIS Business เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำระบบ DDoS Protection หรือการป้องกันการโจมตีผ่านเว็บไซต์ และ Secure Access Service Edge (SASE) มาเสริมความแข็งแกร่งด้านระบบความปลอดภัยของเครือข่าย
นอกจากนี้ AIS Business จะรวบรวมทุก ๆ บริการด้านไซเบอร์ไว้ในศูนย์กลางของระบบ เพื่อให้สามารถช่วย มอนิเตอร์ และตรวจสอบความปลอดภัย ให้ลูกค้าทางธุรกิจได้สบายใจ แบบหายห่วง
ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่ AIS Business ได้นำโซลูชันเข้ามายกระดับความปลอดภัย คือ บริษัท เอ็น. ซี. ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด
โดย AIS Business ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์สำหรับ มอนิเตอร์ระบบโครงข่าย WiFi เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ในงานการประชุมผู้นําเขตเศรษฐกิจ APEC ที่จัดขึ้นในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทำให้งานลุล่วงไปได้ด้วยดี
3. สร้าง Ecosystem เพื่อให้เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เติบโตได้อย่างยั่งยืน
ต้องบอกว่า AIS Business ให้ความสำคัญกับการเติบโตแบบ ESG มาโดยตลอด ซึ่งบริษัทไม่เพียงแต่จะนำดิจิทัลโซลูชันมาลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ของธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม เช่น ลดการปล่อยก๊าซ CO2
แต่บริษัทยังได้คิดค้นนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณภาพอากาศ และการบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม สามารถกำจัดมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย
ที่สำคัญ ในปี 2565 AIS ยังร่วมมือกับ GULF และ Singtel ลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาธุรกิจ Data Center ในไทย ที่เน้นใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน
ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่ AIS Business ได้นำโซลูชันเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานแบบ ESG คือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
โดย AIS Business ไม่เพียงแต่จะนำเทคโนโลยี 5G มาพัฒนาโซลูชัน Smart Autonomous Vehicles หรือ โซลูชันระบบขนส่งไร้คนขับ ด้วยศักยภาพ 5G
แต่ยังช่วยวางแผนเส้นทางหรือระบบขนส่งให้มีความแม่นยำมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง 20% และช่วยลด CO2 กว่า 35% ต่อปี อีกด้วย
นอกจากนี้ AIS Business ยังได้พัฒนาโซลูชันให้กับ SCG เพื่อเป็นต้นแบบ Green Manufacturing รายแรก ๆ ของประเทศไทย ที่สามารถบริหารจัดการทรัพยากร วัตถุดิบ คน งบประมาณ และเวลา เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน นั่นเอง
มาถึงตรงนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่โลกแห่งดิจิทัล คือหนึ่งในกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
แน่นอนว่า การทรานส์ฟอร์มไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะทำสำเร็จได้ ภายในระยะเวลาที่สั้น
อย่างไรก็ดี ถ้าเรามีพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้อย่าง AIS Business ที่คอยคิดค้นและพัฒนาโซลูชัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุก ๆ มิติ
การทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่โลกแห่งดิจิทัล อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป..
AIS Business พร้อมเป็นพันธมิตรดิจิทัล ที่มั่นใจได้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและสังคมไทย
เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน
“Your Trusted Smart Digital Partner”
==========================
สนใจปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
“Your Trusted Smart Digital Partner”
==========================
สนใจปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่
References:
-https://investor-th.ais.co.th/vision.html
-https://investor-th.ais.co.th/operational_highlight.html?intcid=homepage-th-header_menu-investor_menu-operationalhighlights
-งานแถลงข่าว AIS Business Direction 2566
-https://investor-th.ais.co.th/vision.html
-https://investor-th.ais.co.th/operational_highlight.html?intcid=homepage-th-header_menu-investor_menu-operationalhighlights
-งานแถลงข่าว AIS Business Direction 2566