ChatGPT อาจไม่มีวัน ฆ่า Google ได้

ChatGPT อาจไม่มีวัน ฆ่า Google ได้

ChatGPT อาจไม่มีวัน ฆ่า Google ได้ /โดย ลงทุนแมน
“เราจะทำให้ Google ดิ้น” ไม่ว่าจะเป็นแรงผลักดัน ความต้องการเอาชนะ ความฝัน หรือแพสชัน ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft บริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก กำลังท้าทาย Google
ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ChatGPT”
การเปิดตัวของ ChatGPT แช็ตบอตอัจฉริยะ ที่สามารถทำลายสถิติผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านราย ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน เป็นสิ่งที่ Google เซิร์ชเอนจินใหญ่สุดในโลก ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
เห็นแบบนี้ หลายคนก็น่าจะมองว่า Google กำลังตกที่นั่งลำบาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว Microsoft เอง ก็ยังมีความท้าทายรออยู่อีกพอสมควร
แล้วความท้าทายของ Microsoft คืออะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
หลัง Microsoft ซื้อ OpenAI ในปี 2019 และได้พัฒนา ChatGPT จนกลายเป็นโปรแกรมที่ใช้ Generative AI ที่มีสมองคิดได้สำเร็จ
นอกจากนั้น OpenAI ที่ Microsoft เข้าลงทุนนั้น ไม่ได้มีแค่ ChatGPT
จริง ๆ แล้ว OpenAI มีอะไรบ้าง ?
- GPT-3 เทคโนโลยีที่ทำให้ AI เข้าใจภาษามนุษย์ถึง 100 ภาษา สามารถประมวลผลข้อมูลได้เอง อ่านได้เอง และสรุปได้เอง ไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์
- DALL-E เปลี่ยนภาษาคนเป็นรูปภาพได้ เสกงานอินโฟกราฟิก รวมถึงสร้างสรรค์ภาพอื่น ๆ เพียงแค่ออกคำสั่งด้วยเสียง
- Codex เปลี่ยนภาษามนุษย์เป็นโคด ซึ่งเป็นเบื้องหลังเอนจินของ GitHub โปรแกรมช่วยเหลือสำหรับนักพัฒนา ให้สามารถเขียนโปรแกรมได้ โดยไม่ต้องเริ่มเขียนจากศูนย์
ซึ่งก็ต้องบอกว่า Microsoft ก็เป็นเจ้าของ GitHub เหมือนกัน เท่ากับว่าการเข้าซื้อ OpenAI เป็นทั้งการได้ธุรกิจใหม่ รวมถึงการได้ส่วนเติมเต็มในธุรกิจเดิม
ทีนี้เราก็ต้องมาดูกันหมัดต่อหมัดว่า ChatGPT กับ Google จะแข่งกันท่าไหนบ้าง ?
เรื่องแรก เราก็น่าจะต้องมาดู “โมเดลการหารายได้”
ปัจจุบัน ChatGPT มีการให้บริการแบบ Freemium หรือก็คือใช้ฟรีก็ได้ หากอยากอัปเกรด ใช้งานได้แบบไม่ต้องต่อคิว หรือมีลูกเล่นเพิ่มเติม ก็จะมีการเก็บค่าสมาชิกแบบ Premium เหมือนกับ YouTube และ Spotify
ณ ตอนนี้ การหารายได้อื่น ๆ จาก ChatGPT ยังไม่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าให้ ChatGPT ฝังโฆษณาลงบนคำตอบ หรือถ้า ChatGPT จะขึ้นแบนเนอร์โฆษณาตั้งแต่หน้าเซิร์ช ก็อาจทำให้ประสบการณ์สำหรับผู้ใช้งานไม่ดีนัก
ต่างจาก Google ที่ทำแทรกโฆษณาไปในผลการค้นหา
ลองคิดเล่น ๆ ว่า หาก ChatGPT มีกล่องโฆษณาพ่วงติดมาด้วย และเราต้องกดปิด ก็อาจจะสร้างความรำคาญ รวมถึงลดความน่าเชื่อถือต่อผู้ใช้งานลง ได้เหมือนกัน
อีกทั้งการเก็บค่าสมาชิกแบบ Premium ยังเป็นการจำกัดการเข้าถึง เพราะหากใช้ฟรีแต่ต้องต่อคิว
- ผู้ใช้งานที่รอได้ก็รอ ส่วนที่รอไม่ได้ก็ไปใช้อย่างอื่น
- ผู้ที่ยอมจ่ายค่าบริการ ก็อาจจะเป็นผู้ใช้งานประจำเท่านั้น ไม่ได้เหมือนกับ Google ที่ใช้ฟรี โดยอาศัยการทำรายได้จากโฆษณา
จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า Microsoft จะสามารถนำเทคโนโลยีไปรวมกับผลิตภัณฑ์ที่มี หรือหารูปแบบการสร้างรายได้ใหม่ ได้ดีแค่ไหน เช่น นำไปเป็นบริการเสริมบนโปรแกรมหลักอย่าง Office 365
อีกหนึ่งความท้าทาย ก็เช่น DALL-E ที่ถึงแม้จะสร้างสรรค์ภาพได้อย่างใจนึก แต่ก็มีการใช้ข้อมูลรูปภาพจากอินเทอร์เน็ต
จึงนำมาสู่เรื่องของ “ลิขสิทธิ์” ซึ่งก็นับเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน
เพราะแม้ว่าตัวโปรแกรมจะมีการคัดกรอง แต่ถ้า AI เกิดสร้างสรรค์ผลงานออกมาคล้ายคลึงกับงานของศิลปินคนอื่น ก็เป็นเรื่องที่ดูน่ากังวล
รวมไปถึงการรวบรวมข้อมูลคำตอบจากเว็บไซต์ต้นทาง โดยไม่ได้บอกถึงต้นทาง ก็อาจมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ได้เช่นกัน
ในทางกลับกันแล้ว การเซิร์ชผ่าน Google จะเป็นการแสดงผลเข้าลิงก์ต้นทางโดยตรง จึงไม่เกิดปัญหานี้ เพราะเจ้าของผลงานยังได้รับประโยชน์จากการมีผู้ชมเข้าเว็บไซต์อยู่
นอกจากนั้นระบบนิเวศของ Google ยังมีอีกมากทั้งแผนที่ ทั้งคลังวิดีโอใน YouTube ทำให้ผลการค้นหานั้นครอบคลุมทุกเรื่องมากกว่า รวมไปถึงเบราว์เซอร์ Chrome ที่ครองตลาดผู้ใช้งานแบบเบ็ดเสร็จ
ถึงตรงนี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การมาของ ChatGPT ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีปีนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะผู้เล่นแทบทุกราย ทั้ง Microsoft, Google, Meta รวมไปถึงฝั่งประเทศจีน อย่าง Baidu และ Alibaba ก็หันมาโฟกัสที่ธุรกิจนี้กันทั้งหมด
ในขณะที่ ChatGPT ที่เปิดตัวได้อย่างสวยงาม สามารถทำลายหลายสถิติที่เคยเกิดขึ้นอย่างขาดลอย ก็ต้องมาดูว่า Microsoft จะคว้าโอกาสนี้ได้ดีขนาดไหน
ทุกนวัตกรรมต้องใช้เวลาในการทดสอบ ถ้าให้เปรียบเทียบการเกิดขึ้นของ ChatGPT ก็น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการหลอมเอา AI เข้ามาใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้น
ซึ่งหากเราลองไปถาม ChatGPT เล่น ๆ ว่าจะสามารถเอาชนะ Google ได้หรือไม่ สิ่งที่แช็ตบอตตอบกลับมา ณ วันนี้ ก็คือ ทั้ง ChatGPT และ Google มีจุดเด่นแตกต่างกัน มีวิธีการนำไปใช้งานไม่เหมือนกัน
ซึ่งถ้าดูระบบนิเวศของ Google และวิธีการหารายได้ของ Google ในปัจจุบันแล้ว ก็ต้องบอกว่า ChatGPT อาจฆ่า Google ได้ยาก แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ แล้วให้ ChatGPT ทำร้ายอยู่บ่อย ๆ ก็อาจทำให้ Google เป็นแผลฉกรรจ์ได้เหมือนกัน..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://chat.openai.com/
-https://companiesmarketcap.com/
-https://gs.statcounter.com/search-engine-market-share
-https://labs.openai.com/
-https://www.theregister.com/2023/02/13/in_brief_ai/

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon