QR CODE เมกะเทรนด์ของประเทศไทย

QR CODE เมกะเทรนด์ของประเทศไทย

QR CODE เมกะเทรนด์ของประเทศไทย / โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่าอะไรเป็นเมกะเทรนด์ของประเทศไทย
ตอบได้เลยว่าประเทศไทยจะค่อยๆ ก้าวเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด
จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่เป็นทั้งโลก
เงินที่เป็นกระดาษ หรือ เหรียญ จะค่อยๆ หายไป และในที่สุดจะเหลือแค่การจ่ายเงินด้วยระบบดิจิทัล
และตัวที่เป็นจุดเริ่มต้นของเมกะเทรนด์นี้ก็คือ “QR Code”
QR Code คืออะไร?
QR Code ต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เป็นรหัสที่ถูกพัฒนามาจาก Barcode ที่ใช้งานได้ง่ายกว่าและเก็บข้อมูลได้มากกว่า
เพียงแค่มีโทรศัพท์ก็สามารถสแกนข้อมูลผ่าน QR Code ได้แล้ว เราจะเห็นว่าเว็บไซต์หรือบริษัทต่างๆ นำ QR Code มาใช้ ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดคือ การเพิ่มเพื่อนใน LINE
พอมันง่ายแบบนี้ จึงมีการนำเอา QR Code มาเป็นสื่อกลางในการชำระสินค้าในระบบการชำระเงินออนไลน์
โดยวิธีการใช้คือ สแกนรหัส QR Code กับแอปพลิเคชันในมือถือ ก็สามารถจ่ายชำระเงินได้แล้ว
รู้ไหมว่า เราใช้เวลาในการจ่ายเงินผ่าน QR Code ตั้งแต่หยิบมือถือขึ้นมา เข้าแอปพลิเคชันใส่รหัสผ่าน ไปถึงสแกน QR Code จนเสร็จ เฉลี่ยแล้วประมาณ 20 วินาที ซึ่งต่างจากการที่เราชำระเงินสด ที่ต้องใช้เวลาตั้งแต่หยิบกระเป๋าสตางค์ จ่ายเงินให้พนักงาน รอรับเงินทอน เฉลี่ยแล้วประมาณ 40 วินาที
แต่สำหรับใครบางคน เรื่องความเร็ว อาจจะไม่ได้สำคัญเท่า การไม่อยากได้เศษเหรียญ
QR Code จะทำให้ปัญหาการได้เศษเหรียญหมดไป
ทุกคนตอนนี้คิดว่า QR Code สะดวกในเรื่องการจ่ายเงินให้คนอื่น
แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้มากกว่าก็คือ “การรับเงิน” จากคนอื่น ด้วย QR Code
เราสามารถสร้างรหัส QR Code ได้ด้วยตนเองเพื่อรับเงินจากคนอื่นได้แล้ว
ต่อไปนี้ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ พ่อค้าแม่ค้า ถ้าอยากรับเงินแค่กดสร้าง QR Code ให้คนอื่นจ่าย
หลายคนมองเป็นเรื่องไกลตัว
ก็คงคล้ายๆ กับวันที่เรายังขี่ม้าอยู่แล้วมองประเทศอื่นมีรถยนต์
เงินกระดาษคือม้า และ เงินดิจิทัล คือ รถยนต์
ถ้าเรามองภาพใหญ่ ดูประเทศที่เขานำเรา เราจะเห็นว่ามีหนึ่งประเทศที่ทุกคนน่าจะรู้กันดีว่าเป็นผู้นำในเรื่องนี้ นั่นคือ ประเทศจีน
ประเทศจีนนั้น เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าใช้ QR Code เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากที่สุดในโลก โดยมี e-Wallet รายใหญ่ 2 เจ้า ได้แก่ Alipay และ WeChat Pay เป็นเจ้าตลาด
โดยในปีที่แล้ว มีจำนวนผู้ใช้งานรวมกันมากกว่า 1.25 พันล้านบัญชี ชาวจีนใช้จ่ายเงินด้วยมือถือคิดเป็นเงิน 180 ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวนเงินกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศจีน และมีมูลค่าการใช้จ่ายผ่าน Mobile Payment ในจีน สูงกว่าในสหรัฐอเมริกา 50 เท่า
แต่จะมีเรื่องของรูปแบบ QR Code ที่ประเทศไทยแตกต่างจากประเทศจีน
ในประเทศไทยจะใช้รูปแบบ Standard QR Code รูปแบบนี้เป็น QR Code ที่ใช้ร่วมกันได้หมด คนไทยจะใช้แอปพลิเคชันไหนก็สแกน QR Code เดียวกันเพื่อจ่ายเงินได้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรเดบิต E-wallet หรือบัญชีธนาคาร
แต่ถ้าเป็นในประเทศจีน QR Code จะเป็นแบบ Closed Loop ต้องใช้ QR Code ของแอปใครแอปมัน
สรุปของไทยดีกว่าของจีนเสียอีก
ระบบการชำระเงินแบบ QR Code จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในประเทศไทยในอีก 1-2 ปีจากนี้
ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกของประเทศไทยที่จะเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด
และตอนนี้เราคงต้องเลือกกันแล้วว่าเราอยากจะขี่ม้า หรือ อยากนั่งรถยนต์
แต่ก็เข้าใจคนไทย ถ้าจะให้เปลี่ยนอะไรคงต้องใช้เวลา
พออ่านจบก็คงมีหลายคนบอกว่า ขี่ม้าดีกว่า ปลอดภัยดี ไม่คุ้นเคยกับรถยนต์
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราจะฝืนเมกะเทรนด์ไปไม่ได้ตลอด สุดท้ายแล้วม้าก็คงต้องเป็นแค่สัตว์เลี้ยง ไม่ใช่พาหนะอีกต่อไป..
———————-
<ad> ประเทศที่ล้ำหน้าที่สุดในเรื่องสังคมไร้เงินสด คือประเทศจีน ใครอยากรู้เรื่องประเทศจีนมากขึ้นอีก มาเรียนที่
“หลักสูตรระยะสั้น EoC (Expert on China) โดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์”
เป็นหลักสูตรดีๆ ที่รวบรวมแนวคิดและกลยุทธ์การทำธุรกิจในจีนหรือกับชาวจีนให้ประสบความสำเร็จ อบรมโดยเหล่ากูรูที่มีประสบการณ์เชิงลึกในด้านต่างๆ เกี่ยวกับจีน
เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ถึง 19 ม.ค.61
เริ่มอบรม 8 มี.ค. - 21 มิ.ย. 61 ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 13.30-17.30
สมัครและรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://eoc.dpu.ac.th หรือ โทร. 065-594-9955
———————-
Reference
-https://techsauce.co/fintech/the-future-of-qr-code/
-https://thaipublica.org/2017/06/varakorn-211/
-https://thestandard.co/standardqrcode/
-http://www.businessinsider.com/wechat-pay-hits-a-hurdle-2017-4
-https://droidsans.com/standardized-qr-code-official/
ขอบคุณรูป QR CODE ประกอบบทความจากลงทุนแมน
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon