รู้จัก RWE ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด 120 ปี จากเยอรมนี

รู้จัก RWE ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด 120 ปี จากเยอรมนี

รู้จัก RWE ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด 120 ปี จากเยอรมนี /โดย ลงทุนแมน
ปัญหาความผันผวนของราคาพลังงานที่เกิดจากวิกฤติสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียในปีนี้ ได้สร้างความกังวลให้กับประเทศในยุโรป จนเกิดเป็นคำถามจากหลายฝ่ายว่าทางออกที่ยั่งยืนสำหรับปัญหานี้คืออะไร
แม้การเลิกพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียทันที จะยังคงเป็นเรื่องที่หลายประเทศไม่สามารถทำได้
แต่มันก็ได้ทำให้สหภาพยุโรปวางแผนการระยะยาว โดยการผลักดันให้ประเทศในกลุ่มกระจายการพึ่งพาพลังงาน และหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
วันนี้ เราจะมาเล่าถึงหนึ่งในผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในยุโรป
ชื่อว่า “RWE” เจ้าของธุรกิจพลังงานไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของประเทศเยอรมนี
บริษัทแห่งนี้ ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 120 ปี
เริ่มจากการเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ต่อมา ได้หันมาผลิตพลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์
ก่อนที่ในปัจจุบัน จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างลมและแสงแดด
แล้วเรื่องราวของ RWE มีความเป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1898
กลุ่มนักธุรกิจชาวเยอรมันได้เซ็นสัญญาเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าชุมชนให้กับเมืองเอ็สเซิน เมืองเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศเยอรมนี
โดยได้จัดตั้งบริษัท ที่ชื่อว่า “Rheinisch-Westfälisches Elektrizitätswerk” หรือ RWE เพื่อเข้ามาดูแลโครงการนี้โดยเฉพาะ
ต่อมาไม่นาน อูโก สตินเนส นักธุรกิจชาวเยอรมันระดับแนวหน้าของยุโรปในสมัยนั้น ก็ได้เข้ามาซื้อกิจการแห่งนี้ไป เพราะเห็นช่องทางในการเติบโต
โดยเขาตั้งใจไว้ว่าจะเปลี่ยนธุรกิจโรงไฟฟ้าเล็ก ๆ ให้กลายเป็นกิจการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สามารถจัดจำหน่ายไฟฟ้าไปได้ทั่วประเทศ
นั่นจึงทำให้ในเวลาต่อมา คุณสตินเนส เริ่มเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพร้อมกันกับทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในเมืองใกล้เคียงต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายไปได้อย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งในปี 1914 RWE ก็ได้เปิดตัวโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ชื่อว่า Vorgebirgszentrale ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 190 เมกะวัตต์
ซึ่งถือได้ว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดของยุโรปในตอนนั้น
ในขณะเดียวกัน RWE ก็ได้เริ่มที่จะขยับเข้าไปทำธุรกิจอื่น ๆ อีก ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเหมืองถ่านหิน ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไฟฟ้าของบริษัท
แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเยอรมนีแพ้สงครามให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร ส่งผลให้โรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานเกือบทั้งหมดของ RWE ถูกทำลายลง
ซึ่งกว่า RWE จะฟื้นฟูกิจการให้กลับมาทำธุรกิจได้เป็นปกติ
ก็ต้องใช้เวลาเกือบ 4 ปีในการซ่อมแซมขึ้นมาใหม่
โดยในช่วงฟื้นตัวหลังจากสงครามนี้เอง ที่ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศนั้นเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล RWE จึงมองหาช่องทางการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า และเริ่มมองหาแหล่งพลังงานใหม่
ภายหลังจากที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งแรกของโลก ชื่อว่า “Dresden-1” ได้ถูกสร้างขึ้นที่รัฐอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 1959
เพียง 3 ปีต่อมา โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ของ RWE แห่งแรก ชื่อว่า “Kahl” ก็ได้ถูกสร้างขึ้น และจ่ายไฟฟ้าให้กับรัฐบาวาเรีย ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศเยอรมนี และโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีกหลายแห่งก็ถูกสร้างตามมา
แต่พอมาถึงช่วงระหว่างปี 1980 ถึง 1990 การเติบโตของความต้องการไฟฟ้าภายในประเทศถึงจุดอิ่มตัวและเริ่มโตช้าลง
บริษัทจึงหันไปซื้อและขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศ และหันมาวิจัยแหล่งพลังงานทดแทนต่าง ๆ มากขึ้น
จนในปี 2011 เหตุการณ์การรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิชิ ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ทำให้รัฐบาลเยอรมนี วางแผนที่จะลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ลง
โดยให้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ภายในประเทศทยอยปิดตัวตามแผนระยะยาวจนถึงปี 2022
รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ทางประเทศเยอรมนีมีแผนเลิกใช้พลังงานประเภทนี้ ภายในปี 2038
ถึงจุดนี้ RWE จึงได้หันมาลงทุนในพลังงานทางเลือกอื่น ๆ อย่างแสงแดดและลม
จนปัจจุบัน ได้กลายมาเป็นบริษัทพลังงานทางเลือก ชั้นนำของโลก
หากเรามาดู สัดส่วนรายได้ของ RWE นั้นมาจาก
- ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานลมและแสงแดด 37%
- ธุรกิจไฟฟ้าพลังน้ำ ไบโอแมส และแก๊สธรรมชาติ 19%
- ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์และถ่านหิน 24%
- ธุรกิจค้าพลังงาน 20%
เราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันรายได้หลักของ RWE นั้น
มาจากพลังงานทางเลือกอย่างพลังงานลมและแสงแดดแล้ว
ส่วนพลังงานรูปแบบเก่าอย่างถ่านหินและนิวเคลียร์นั้นกำลังทยอยลดลงตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งนั่นทำให้สัดส่วนของรายได้ส่วนนี้นั้นจะลดลงไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา
ปัจจุบัน RWE มีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 38,000 เมกะวัตต์
ถ้าเทียบให้เห็นภาพก็คือ RWE เพียงบริษัทเดียว
สามารถผลิตไฟฟ้า คิดเป็นประมาณ 80% ของพลังงานไฟฟ้า
ที่ถูกผลิตทั้งหมดในประเทศไทย เลยทีเดียว
หากเรามาดูรายได้และกำไรของ RWE ช่วงที่ผ่านมา
ปี 2019 รายได้ 440,000 ล้านบาท กำไร 300,000 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 460,000 ล้านบาท กำไร 33,000 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 830,000 ล้านบาท กำไร 24,000 ล้านบาท

ที่กำไรสูงมากจนผิดปกติ ในปี 2019 นั้น เกิดขึ้นจากกำไรพิเศษจากค่าชดเชยของการยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์จากรัฐบาลเยอรมนี เป็นเงินกว่า 322,000 ล้านบาท
สำหรับในอนาคตนั้น RWE ก็เตรียมที่จะเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดทั้งหมดภายในปี 2040
เช่นเดียวกันกับแนวโน้มของบริษัทผลิตไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ หลายแห่งในยุโรป
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านนี้จำเป็นต้องใช้ทั้งเงินทุนและเวลามหาศาล
แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย
ทำให้เกิดความกังวลเรื่องการขาดแคลนพลังงานอย่างหนักในยุโรป
โดยความกังวลดังกล่าว ก็ได้กดดันไปยังเศรษฐกิจในหลายประเทศ รวมถึงประเทศเยอรมนีเอง
และแม้ว่าจะมีการเสนอให้ยืดอายุการใช้งานของพลังงานนิวเคลียร์ออกไป
แต่ว่าทางรัฐบาลของประเทศเยอรมนีเองนั้นได้ออกมาปฏิเสธ
และยังคงเดินหน้ายุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ตามเดิม
แต่เลือกที่จะหันไปนำเข้าพลังงาน LNG เพื่อกระจายการพึ่งพาพลังงานแทน
ถึงตรงนี้เราคงเห็นได้ว่าหลายประเทศกำลังกระจายการพึ่งพาพลังงานของตนเอง
เพื่อรองรับผลกระทบในวันที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
แต่หากเราย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทยของเรา
ซึ่งปัจจุบัน ยังคงพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นหลัก รวมกันถึง 80%
ก็เป็นที่น่าติดตามเหมือนกันว่า
ในวันที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน
หากเราไม่ได้พึ่งพาพลังงานดั้งเดิมอีกต่อไป
อย่างก๊าซธรรมชาติและถ่านหินแล้ว
วันนั้น เราจะผลิตไฟฟ้า จากอะไรดี..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.dhm.de/blog/2016/08/25/the-electrification-of-germany/
-https://www.power-technology.com/news/germany-nuclear-facilities/
-https://www.reuters.com/world/europe/german-ministries-say-cannot-recommend-extending-nuclear-plants-lifetime-2022-03-08/#:~:text=Germany's%20remaining%20three%20nuclear%20plants,of%20Germany's%20natural%20gas%20imports.
-https://www.rwe.com/-/media/RWE/documents/05-investor-relations/2021-GJ/2022-03-15-rwe-annual-report-2021.pdf?sc_lang=en
-https://www.rwe.com/-/media/RWE/documents/05-investor-relations/2021-GJ/22-02-25-RWE-FY-2021-pre-release-capacity-and-power-generation-data.pdf

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon