รู้จัก วอลท์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนิเมชันอันดับ 1 ของโลก
รู้จัก วอลท์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอนิเมชันอันดับ 1 ของโลก /โดย ลงทุนแมน
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณ “วอลท์ ดิสนีย์” คือผู้ก่อตั้งบริษัท The Walt Disney Company เจ้าของเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ และตัวละครในเทพนิยายทั้งหลาย รวมถึงยังเป็นเจ้าของเหล่าซูเปอร์ฮีโรค่าย Marvel
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณ “วอลท์ ดิสนีย์” คือผู้ก่อตั้งบริษัท The Walt Disney Company เจ้าของเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ และตัวละครในเทพนิยายทั้งหลาย รวมถึงยังเป็นเจ้าของเหล่าซูเปอร์ฮีโรค่าย Marvel
รู้หรือไม่ว่าเขาคนนี้ เป็นผู้ผลิตแอนิเมชันเรื่องแรกของโลกที่มีเสียงประกอบ ผ่านภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Steamboat Willie ที่มีเจ้าหนู Mickey Mouse ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก
ปัจจุบัน The Walt Disney Company ทำธุรกิจมายาวนานถึง 98 ปี มีมูลค่าบริษัท 8.5 ล้านล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นเจ้าของธุรกิจบันเทิงใหญ่สุดในโลก
แล้วเรื่องราวของคุณวอลท์ ดิสนีย์ มีความเป็นมาอย่างไร ?
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Walter Elias Disney หรือคุณวอลท์ ดิสนีย์ เกิดในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1901 ที่เมืองชิคาโก ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Walter Elias Disney หรือคุณวอลท์ ดิสนีย์ เกิดในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 1901 ที่เมืองชิคาโก ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เขาเป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 5 คน และเมื่ออายุได้เพียง 4 ปี ครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่ฟาร์มเล็ก ๆ ในรัฐมิสซูรี
ชีวิตในวัยเด็กของคุณวอลท์ ดิสนีย์ เติบโตมาคล้ายกับเด็กคนอื่น ๆ ทั่วไป โดยเขาเป็นคนที่ชอบการวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ
แต่ด้วยฝีมือการวาดภาพของเขาที่ไม่ธรรมดา ในวัยเพียง 7 ปี เขาก็เริ่มวาดภาพสเกตช์ขายให้กับเพื่อนบ้าน
ด้วยความชื่นชอบในวัยเด็กนี้เอง ทำให้เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาก็ได้เริ่มงานแรกของการเป็นนักวาดภาพ
ที่ Pesmen-Rubin Commercial Art Studio
ที่ Pesmen-Rubin Commercial Art Studio
โดยงานที่เขาได้รับผิดชอบก็คือ วาดภาพประกอบโฆษณา และภาพสำหรับรายการละคร
และที่นี่เอง ที่ทำให้เขาได้รู้จัก คุณอับ ไอเวิกส์ เพื่อนร่วมงานในตำแหน่งเดียวกันกับเขา
อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 1920 เมื่อบริษัท Pesmen-Rubin Commercial Art Studio เริ่มประสบปัญหาและมีรายได้ลดลง บริษัทจึงมีนโยบายที่จะปลดพนักงานออก ส่งผลให้ทั้งคู่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียงปีเดียวก็ต้องตกงาน
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้คุณวอลท์ ดิสนีย์ และคุณอับ ไอเวิกส์ จึงได้ตัดสินใจร่วมกัน
ก่อตั้งบริษัทรับจ้างวาดภาพของตัวเองขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า Iwerks-Disney Commercial Artists
ก่อตั้งบริษัทรับจ้างวาดภาพของตัวเองขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า Iwerks-Disney Commercial Artists
แต่ไม่นาน ทั้งคู่ก็พบว่าพวกเขายังขาดทั้งประสบการณ์ในหลาย ๆ ด้าน จึงทำให้บริษัทของพวกเขาไม่สามารถหาลูกค้าได้มากพอ ซึ่งก็ส่งผลให้บริษัทของพวกเขาต้องทำการปิดตัวลง ในเวลาต่อมา
แต่เหมือนโชคจะยังพอเข้าข้างคุณวอลท์ ดิสนีย์ อยู่บ้าง เมื่อเขาสามารถหางานใหม่ได้
ที่ Kansas City Slide Company ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตแอนิเมชันสำหรับโฆษณา
ที่ Kansas City Slide Company ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตแอนิเมชันสำหรับโฆษณา
ที่บอกว่าโชคดีนั่นก็เพราะว่าที่ Kansas City Slide Company นี่เอง ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณ วอลท์ ดิสนีย์ ได้รู้จักกับการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชัน
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้ราว 2 ปี เขาก็ได้ลาออก ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ คุณวอลท์ ดิสนีย์ ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า Laugh-O-Grams Studios
ซึ่งสถานที่ที่เขาใช้คือโรงรถเก่า ๆ ของเขาเอง และหลังจากก่อตั้งบริษัทได้ไม่นาน เขาก็ได้ทำการชวนคุณอับ ไอเวิกส์ ให้มาร่วมงานกับเขาอีกครั้ง
แม้ในครั้งนี้บริษัทของเขาจะเริ่มมีงานเข้ามา เช่น การ์ตูนเรื่อง Tommy Tucker’s Tooth แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้บริษัทสามารถอยู่ต่อไปได้
และก่อนที่บริษัทจะล้มละลายเมื่อต้นปี ค.ศ. 1923 ทั้งคู่ได้สร้างผลงานชิ้นสุดท้ายไว้ นั่นก็คือ “Alice’s Wonderland” ซึ่งเป็นการ์ตูนแอนิเมชันแบบสั้น อิงเรื่องราวจากนิทานสำหรับเด็กเรื่อง Alice's Adventures in Wonderland
หลังจากที่บริษัทล้มละลาย คุณวอลท์ ดิสนีย์ ได้นำผลงาน Alice’s Wonderland
ตระเวนขายไปตามเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรัฐแคนซัส, นิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส
ตระเวนขายไปตามเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรัฐแคนซัส, นิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส
และจากการที่คุณวอลท์ ดิสนีย์ เดินทางนำผลงานไปเสนอขายตามเมืองต่าง ๆ นี่เอง
ทำให้ได้มีโอกาสกลับมาพบกับคุณรอย ดิสนีย์ พี่ชายของเขาอีกครั้ง
ซึ่งในตอนนั้นกำลังรักษาตัวจากวัณโรค อยู่ที่ลอสแอนเจลิส
ทำให้ได้มีโอกาสกลับมาพบกับคุณรอย ดิสนีย์ พี่ชายของเขาอีกครั้ง
ซึ่งในตอนนั้นกำลังรักษาตัวจากวัณโรค อยู่ที่ลอสแอนเจลิส
และจากการพบกันในครั้งนั้น เมื่อคุณรอย ดิสนีย์ ได้ฟังเรื่องราวการล้มละลายหลายต่อหลายครั้ง จากน้องชายของเขา
คุณรอย ดิสนีย์ ก็รู้ทันทีว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวผลงาน แต่เป็นปัญหาด้านการเงินที่น้องชายเขาเอง ไม่ได้มีความรู้และประสบการณ์มากพอ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ในปี ค.ศ. 1923 สองพี่น้อง Disney จึงได้ร่วมมือกันก่อตั้งบริษัทขึ้นมาอีกครั้ง โดยใช้ชื่อบริษัทว่า Disney Brothers Studio และได้ทำการเปลี่ยนเป็น “The Walt Disney Studios” ในเวลาต่อมา
โดยการดำเนินธุรกิจในครั้งนี้ คุณวอลท์ ดิสนีย์ และคุณอับ ไอเวิกส์ จะมีหน้าที่ในการสร้างสรรค์ผลงาน
ในขณะที่คุณรอย ดิสนีย์ ที่มีประสบการณ์จากการทำงานในสายการเงินมาก่อน จะมีหน้าที่ในการดูแลเรื่องการเงิน ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนการผลิต หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
เมื่อมีคนคอยดูแลเรื่องการเงินให้ The Walt Disney Studios ก็สามารถดำเนินธุรกิจมาได้อย่างราบรื่น
จนเมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 หลังจากก่อตั้งบริษัท The Walt Disney Studios ได้ทำสัญญากับทาง Universal Pictures ในการสร้างซีรีส์การ์ตูนเรื่อง “ออสวอลด์ เจ้ากระต่ายที่โชคดี” ให้กับทาง Universal
ซึ่งเจ้ากระต่ายออสวอลด์ตัวนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
เพราะในระยะเวลาเพียงปีเดียว ซีรีส์ของเจ้ากระต่ายออสวอลด์ ได้ถูกนำมาฉายมากถึง 26 ตอน
เพราะในระยะเวลาเพียงปีเดียว ซีรีส์ของเจ้ากระต่ายออสวอลด์ ได้ถูกนำมาฉายมากถึง 26 ตอน
แต่เมื่อเริ่มประสบความสำเร็จได้ไม่นาน
คุณวอลท์ ดิสนีย์ เพิ่งมาพบว่าในสัญญาที่ทำไว้กับทาง Universal นั้น
บริษัทของเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของกระต่ายตัวนี้เลย
แต่กลับเป็นของทาง Universal Pictures แต่เพียงผู้เดียว
คุณวอลท์ ดิสนีย์ เพิ่งมาพบว่าในสัญญาที่ทำไว้กับทาง Universal นั้น
บริษัทของเขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของกระต่ายตัวนี้เลย
แต่กลับเป็นของทาง Universal Pictures แต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น Universal ไม่เพียงแต่นำลิขสิทธิ์ผลงานชิ้นนี้ของเขาไป
แต่กลับชักชวนทีมงานที่สร้างการ์ตูนเรื่องนี้ไปร่วมงานกับทาง Universal อีกด้วย
แต่กลับชักชวนทีมงานที่สร้างการ์ตูนเรื่องนี้ไปร่วมงานกับทาง Universal อีกด้วย
หลังจากเสียเจ้ากระต่ายออสวอลด์ไป ทำให้คุณวอลท์ ดิสนีย์ และคุณอับ ไอเวิกส์ คิดที่จะสร้างตัวการ์ตูนตัวใหม่ที่มีลิขสิทธิ์เป็นของตัวเองขึ้นมา
และจากความสำเร็จของ ออสวอลด์ ที่เป็นตัวการ์ตูนกระต่ายน่ารัก ๆ ทำให้คุณอับ ไอเวิกส์ ลองวาดภาพการ์ตูนที่มีลักษณะเดียวกันขึ้นมา แต่ตัวการ์ตูนเหล่านั้นก็ยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับคุณวอลท์ ดิสนีย์
จนในที่สุด เขาก็ได้ไอเดียจากตอนที่เขาเปิดบริษัท Laugh-O-Grams Studios ที่มีสถานที่เป็นโรงรถเก่า ๆ ซึ่งมักจะมีหนูวิ่งไปมาอยู่เป็นประจำ
จึงทำให้เขาตัดสินใจว่า “หนู” นี่แหละ ที่จะมาเป็นตัวการ์ตูนใหม่ของ Walt Disney
นั่นก็คือที่มาของเจ้าหนูมอร์ติเมอร์ ซึ่งต่อมาได้ทำการเปลี่ยนชื่อ เป็น “Mickey Mouse” ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
นั่นก็คือที่มาของเจ้าหนูมอร์ติเมอร์ ซึ่งต่อมาได้ทำการเปลี่ยนชื่อ เป็น “Mickey Mouse” ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
ในปี ค.ศ. 1928 เจ้าหนู Mickey Mouse ก็ได้เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ Minnie Mouse
ในแอนิเมชันสั้น ที่มีชื่อว่า Steamboat Willie ซึ่งก็เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ในแอนิเมชันสั้น ที่มีชื่อว่า Steamboat Willie ซึ่งก็เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
หลายคนอาจสงสัยว่าแล้ว Mickey Mouse สามารถดังเป็นพลุแตกได้อย่างไร ?
นั่นก็เพราะว่า ในแอนิเมชันเรื่อง Steamboat Willie คุณวอลท์ ดิสนีย์ ได้ทำการใส่เสียงประกอบเข้าไปในแอนิเมชัน ซึ่งเป็นการเพิ่มเสียงประกอบต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่เพียงเสียงเพลงเข้าไป
จึงทำให้แอนิเมชันเรื่องนี้ถือเป็น “แอนิเมชันเรื่องแรกของโลก” ที่มีเสียงประกอบ ซึ่งก็ส่งผลให้ชื่อของ Walt Disney เริ่มเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก
หลังจากประสบความสำเร็จจากตัวการ์ตูนอย่าง Mickey Mouse คุณวอลท์ ดิสนีย์ ก็ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เขายังคงเดินหน้าพัฒนาภาพยนตร์แอนิเมชันของเขาต่อไป ตัวอย่างเช่น
- การจ้างนักประพันธ์เพลงชื่อดังอย่างคุณ Carl Stalling
เข้ามารับบทบาทในการออกแบบเสียงในแอนิเมชันต่าง ๆ
เข้ามารับบทบาทในการออกแบบเสียงในแอนิเมชันต่าง ๆ
- เริ่มสร้างแอนิเมชันที่มีสี ในซีรีส์การ์ตูนอย่าง Silly Symphony โดยทำการเปิดตัวแอนิเมชันที่มีสีครั้งแรกในตอน Flowers and Trees ซึ่งแอนิเมชันเรื่องนี้ยังถือเป็นแอนิเมชันเรื่องแรก ๆ ของโลกที่มีสีอีกด้วย
จนในปี ค.ศ. 1937 The Walt Disney Studios ได้ทำการปฏิวัติวงการแอนิเมชัน ด้วยการสร้างแอนิเมชันที่มีความยาวเต็มเรื่อง หรือมีความยาวมากกว่า 40 นาที ที่มีพร้อมทั้งเสียงประกอบและสี อย่างในเรื่อง “สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด”
เพียง 2 ปี หลังจากวันที่เริ่มฉาย ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ สามารถกวาดรายได้ไปกว่า 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นรายได้สูงสุดที่ภาพยนตร์แอนิเมชันเคยทำได้ในตอนนั้นเลยทีเดียว
ซึ่งหลังจากนั้น ภาพยนตร์แอนิเมชันที่เรารู้จักกันก็ค่อย ๆ ทยอยตามกันออกมา ยกตัวอย่างเช่น Cinderella, Peter Pan และ Pinocchio
หลังจากประสบความสำเร็จในการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชันแล้ว คุณวอลท์ ดิสนีย์ ก็เริ่มทำการต่อยอดธุรกิจออกไป ซึ่งก็คือการสร้างอาณาจักรสวนสนุก ดิสนีย์แลนด์ ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
โดยดิสนีย์แลนด์แห่งแรก ได้ทำการเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1955
ที่เมือง Anaheim ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่กี่เดือนหลังจากเปิดให้บริการ ก็มีผู้เข้ามาใช้บริการมากถึง 20,000 คนต่อวัน
ที่เมือง Anaheim ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่กี่เดือนหลังจากเปิดให้บริการ ก็มีผู้เข้ามาใช้บริการมากถึง 20,000 คนต่อวัน
เพียง 5 ปีหลังจากนั้น ดิสนีย์แลนด์ สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากถึง 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นเกือบ 4 ใน 10 ของรายได้ทั้งหมดที่บริษัททำได้ในตอนนั้น เลยทีเดียว
คิดเป็นเกือบ 4 ใน 10 ของรายได้ทั้งหมดที่บริษัททำได้ในตอนนั้น เลยทีเดียว
และจากความสำเร็จของดิสนีย์แลนด์นี่เอง ที่ทำให้คุณวอลท์ ดิสนีย์ เริ่มมีความคิดที่จะสร้าง Disney World ซึ่งเป็นสวนสนุกที่มีลักษณะคล้ายกับดิสนีย์แลนด์ แต่มีขนาดใหญ่กว่า และมีความหลากหลายที่มากกว่า
แต่โชคร้ายที่ คุณวอลท์ ดิสนีย์ ไม่ได้มีชีวิตอยู่ จนเห็น Disney World ซึ่งสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1971
เนื่องจากเขาได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งปอด ในวัย 65 ปี หรือก่อนหน้าที่ Disney World จะสร้างเสร็จเพียง 5 ปี เท่านั้น
เนื่องจากเขาได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งปอด ในวัย 65 ปี หรือก่อนหน้าที่ Disney World จะสร้างเสร็จเพียง 5 ปี เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คุณวอลท์ ดิสนีย์ จะเสียชีวิตลงไปแล้ว
แต่ดีเอ็นเอของเขายังคงอยู่ในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน
ภาพยนตร์แอนิเมชันต่าง ๆ ที่ยังคงความเป็นดิสนีย์ จากการเล่าเรื่องตัวละครแต่ละตัวผ่านเสียงเพลง
แต่ดีเอ็นเอของเขายังคงอยู่ในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน
ภาพยนตร์แอนิเมชันต่าง ๆ ที่ยังคงความเป็นดิสนีย์ จากการเล่าเรื่องตัวละครแต่ละตัวผ่านเสียงเพลง
รู้หรือไม่ว่า หากเราลองไปดูภาพยนตร์แอนิเมชัน ที่สร้างรายได้มากที่สุดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้
โดย 5 อันดับแรก คือ Frozen 2, Frozen, Incredibles 2, Minions และ Toy Story 4
โดย 5 อันดับแรก คือ Frozen 2, Frozen, Incredibles 2, Minions และ Toy Story 4
มีมากถึง 3 จาก 5 เรื่อง ที่เป็นภาพยนตร์ที่ The Walt Disney Company มีส่วนร่วมในการสร้าง นั่นก็คือ Frozen 2, Frozen และ Toy Story 4
ในปี 2021 ที่ผ่านมา The Walt Disney Company
มีรายได้ 620,000 ล้านบาท กำไร 8,500 ล้านบาท (ได้รับผลกระทบจากโควิด 19)
มูลค่าบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านบาท
คิดเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 36 ของโลก
มีรายได้ 620,000 ล้านบาท กำไร 8,500 ล้านบาท (ได้รับผลกระทบจากโควิด 19)
มูลค่าบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านบาท
คิดเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 36 ของโลก
โดยความสำเร็จอีกส่วนหนึ่งมาจากการที่คุณบ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอคนก่อนหน้านี้ ที่เข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงแนวทางของบริษัท ทั้งจากการควบรวมบริษัทภาพยนตร์มากมาย เช่น Pixar, Marvel, Lucasfilm
และการพา ดิสนีย์ เข้าสู่ตลาดออนไลน์สตรีมมิง
และการพา ดิสนีย์ เข้าสู่ตลาดออนไลน์สตรีมมิง
มาถึงตรงนี้ ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจากความฝันของเด็กคนหนึ่งที่รักในการวาดภาพ
วันนี้ มันได้กลายมาเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
วันนี้ มันได้กลายมาเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
แต่นอกเหนือไปจากความสำเร็จในเชิงตัวเลขผลประกอบการนั้น
ก็คงเป็นรอยยิ้มและความสุขที่คุณวอลท์ ดิสนีย์
ได้สร้างไว้ให้กับใครหลายคน ตลอดเกือบร้อยปีที่ผ่านมา
ซึ่งหากให้ตีเป็นมูลค่าแล้ว มันก็อาจจะมีมูลค่ามากเสียจน เอาอะไรมาวัด ไม่ได้เลย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Walt_Disney
-https://waltinkc.weebly.com/the-kansas-city-years.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Roy_O._Disney
-https://theclio.com/entry/147502
-https://www.the-numbers.com/box-office-records/worldwide/all-movies/cumulative/all-time-animated
-https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_animation
-https://www.history.com/this-day-in-history/disneyland-opens#:~:text=Disneyland
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mickey_Mouse
-https://factsandfigment.com/2020/06/26/who-came-first-the-dawn-of-color-in-disney-cartoons/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Ub_Iwerks
-https://en.wikipedia.org/wiki/Silly_Symphony
-https://www.cnbc.com/2019/11/30/disneys-dominates-animation-category-why-other-studios-cant-compete.html
-The Walt Disney Company Annual Report 1960, 2021
ก็คงเป็นรอยยิ้มและความสุขที่คุณวอลท์ ดิสนีย์
ได้สร้างไว้ให้กับใครหลายคน ตลอดเกือบร้อยปีที่ผ่านมา
ซึ่งหากให้ตีเป็นมูลค่าแล้ว มันก็อาจจะมีมูลค่ามากเสียจน เอาอะไรมาวัด ไม่ได้เลย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Walt_Disney
-https://waltinkc.weebly.com/the-kansas-city-years.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Roy_O._Disney
-https://theclio.com/entry/147502
-https://www.the-numbers.com/box-office-records/worldwide/all-movies/cumulative/all-time-animated
-https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_animation
-https://www.history.com/this-day-in-history/disneyland-opens#:~:text=Disneyland
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mickey_Mouse
-https://factsandfigment.com/2020/06/26/who-came-first-the-dawn-of-color-in-disney-cartoons/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Ub_Iwerks
-https://en.wikipedia.org/wiki/Silly_Symphony
-https://www.cnbc.com/2019/11/30/disneys-dominates-animation-category-why-other-studios-cant-compete.html
-The Walt Disney Company Annual Report 1960, 2021