40 ปี ศศินทร์ กับวิธีสร้างบัณฑิตให้เกิด Impact ต่อสังคม
ศศินทร์ X ลงทุนแมน

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ ศศินทร์
เพราะนี่คือสถาบันการศึกษาที่สอนด้านบริหารธุรกิจในเมืองไทย ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
และมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายในหลากหลายวงการ

พูดง่าย ๆ ก็คือ ศศินทร์ได้สร้างบัณฑิตที่สามารถสร้าง Impact ต่อสังคมและเศรษฐกิจมาโดยตลอด 40 ปี

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า ศศินทร์ มีอายุจะครบ 40 ปี
แต่เชื่อหรือไม่ว่า หลักสูตรการเรียนการสอนของศศินทร์
ก็ถูกอัปเกรดให้ทันต่อทุกยุคทุกสมัย อยู่ตลอดเวลา

ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง ถึงประวัติความเป็นมาและความเป็น “ศศินทร์” ในปัจจุบัน

รู้หรือไม่ว่า จุดเริ่มต้นของสถาบันแห่งนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ของนักธุรกิจ และนักวิชาการคนไทย
ที่มองว่าในประเทศไทย จำเป็นต้องมีสถาบันสอนด้านบริหารธุรกิจระดับสากล
เพื่อสร้าง คน มาพัฒนาประเทศ

ทำให้ในปี พ.ศ. 2525 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมมือกับ 2 สถาบันการศึกษาชั้นนำในสหรัฐอเมริกาอย่าง Kellogg School of Management at Northwestern University และ The Wharton School of the University of Pennsylvania ก่อตั้งเป็นสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ โดยในช่วงเริ่มต้นนั้นจะเป็นการเชิญอาจารย์จากต่างประเทศมาเป็นผู้สอน 100%

ส่วนปัจจุบันจะเป็นโมเดลที่มีทั้งอาจารย์ประจำและ Visiting Professors จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
ทำให้ผู้เรียนนั้นได้ความรู้ และมุมมองในเชิงบริหารธุรกิจที่หลากหลาย

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายสิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลง
ทั้งสภาพแวดล้อม การแข่งขันทางธุรกิจ, วิธีการใช้ชีวิตของผู้คน
ทฤษฎีแนวคิดเก่า ๆ อาจใช้ไม่ได้ผล ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ ศศินทร์ นำมาใช้เป็นแกนหลักในการสอน คือ การสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ด้วยแนวคิดแบบผู้ประกอบการ (Entrepreneurial mindset) โดยเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นิสิต เพื่อก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

และความคิดสร้างสรรค์นั้นเอง ที่จะทำให้เราใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือ
นำมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังทำให้ตัวเราไม่รู้จักคำว่า “หยุดนิ่ง”
คอยคิดสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำ หรือทดลองธุรกิจใหม่ ๆ ที่คนอื่นอาจมองข้าม

สิ่งสำคัญอีกอย่าง คือ Networks และ Ecosystems

หากเราสามารถเชื่อมโยงกับคนที่มีความคิดเหมือนกัน
ช่วยเหลือ และแชร์ความคิดให้แก่กัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างคาดไม่ถึง

เพราะวันนี้โลกของการศึกษา ทฤษฎีอย่างเดียว อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
แต่ยังต้องรู้จักระดมไอเดีย สร้างสรรค์ตลอดเวลา
เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างเช่น การเรียนที่สามารถแก้ปัญหาธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง
หรือสามารถสร้างธุรกิจ Startup ใหม่ ๆ จนถึงการสร้างแผนความยั่งยืนในธุรกิจ

ปีที่ผ่านมา ทางศศินทร์ เองก็ได้ปรับปรุงอาคารศศปาฐศาลา
ให้เหมาะสมกับการเรียนแบบ Action Learning ที่เน้นให้นิสิตและอาจารย์มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ง่ายขึ้น

ถึงตรงนี้น่าจะพอเข้าใจถึงวิธีของศศินทร์ในการบ่มเพาะนิสิต
ให้กลายเป็นผู้บริหารที่สร้าง Impact เชิงบวกให้แก่สังคมได้อย่างไร

ทีนี้หากใครอยากรู้จักศศินทร์ ให้มากขึ้นกว่าเดิม
ลงทุนแมน แนะนำให้ลองไปงาน Open House ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 10:00-12:00
เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรของ Sasin (Flexible MBA, Executive MBA, DBA)

โดยมีทั้งนิสิตปัจจุบัน นิสิตเก่า และอาจารย์หลายท่านมาแชร์ประสบการณ์
และพูดคุยเกี่ยวกับการเรียนการสอนที่ศศินทร์ สนใจลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/3sxxmcP
ข้อมูลเพิ่มเติม https://sasin.edu หรือสนใจนัดหมายเยี่ยมชม โทร. 085 123 6832 และสามารถสมัครเรียนปีการศึกษา 2565 ที่ https://apply.sasin.edu ถึง 31 มีนาคมนี้

References
-ข้อมูลจากสถาบันบัณฑิต ศศินทร์
-https://th.wikipedia.org/