รู้จัก Winnonie Startup แพลตฟอร์มเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เตรียมโตระเบิด
Winnonie X ลงทุนแมน
หลายคนอาจไม่รู้ว่า บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
เป็นบริษัทพลังงานที่อยู่กับคนไทยมานานกว่า 37 ปี และมีปั๊มน้ำมันกว่า 1,200 แห่งทั่วไทย
เวลานี้กำลังเพาะบ่ม Startup ในบริษัทตัวเองอยู่หลากหลายธุรกิจ เลยทีเดียว
ที่น่าสนใจก็คือเวลานี้ได้มี Startup รายหนึ่งที่ชื่อว่า Winnonie แจ้งเกิดได้สำเร็จ
เมื่อสามารถระดมทุนระดับซีรีส์ A ได้กว่า 80 ล้านบาท
ด้วยโมเดลธุรกิจที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนในเมืองไทย
คือ บริการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสับเปลี่ยนแบตเตอรี่
โมเดลธุรกิจนี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไร ?
และมีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคตมากน้อยแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เป็นบริษัทพลังงานที่อยู่กับคนไทยมานานกว่า 37 ปี และมีปั๊มน้ำมันกว่า 1,200 แห่งทั่วไทย
เวลานี้กำลังเพาะบ่ม Startup ในบริษัทตัวเองอยู่หลากหลายธุรกิจ เลยทีเดียว
ที่น่าสนใจก็คือเวลานี้ได้มี Startup รายหนึ่งที่ชื่อว่า Winnonie แจ้งเกิดได้สำเร็จ
เมื่อสามารถระดมทุนระดับซีรีส์ A ได้กว่า 80 ล้านบาท
ด้วยโมเดลธุรกิจที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนในเมืองไทย
คือ บริการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมสับเปลี่ยนแบตเตอรี่
โมเดลธุรกิจนี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไร ?
และมีโอกาสที่จะเติบโตในอนาคตมากน้อยแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Winnonie คือแพลตฟอร์มให้บริการเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
โดยจะมีแอปพลิเคชันทำหน้าที่ค้นหาสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ใกล้ที่สุด
เมื่อผู้ใช้กดจองระบบจะนำทางไปยังสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติในปั๊มบางจากที่ใกล้ที่สุด
โดยจะมีแอปพลิเคชันทำหน้าที่ค้นหาสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ใกล้ที่สุด
เมื่อผู้ใช้กดจองระบบจะนำทางไปยังสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติในปั๊มบางจากที่ใกล้ที่สุด
โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie 1 คัน บรรจุแบตเตอรี่บนตัวรถได้ 2 ก้อน
รวมระยะทางการวิ่งประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 1 ครั้ง
โดยในช่วงเริ่มต้นที่เปิดให้บริการมีจำนวนผู้ใช้งานประจำ 250 ราย
ผ่านสถานีสับเปลี่ยนฯ 15 แห่งใน 11 เขตของกรุงเทพฯ และ 1 เขตของจังหวัดสมุทรปราการ
ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงปี พ.ศ. 2568 จะมีผู้ใช้งาน 20,000 ราย
ผ่านสถานีสับเปลี่ยนฯ 600 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
รวมระยะทางการวิ่งประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 1 ครั้ง
โดยในช่วงเริ่มต้นที่เปิดให้บริการมีจำนวนผู้ใช้งานประจำ 250 ราย
ผ่านสถานีสับเปลี่ยนฯ 15 แห่งใน 11 เขตของกรุงเทพฯ และ 1 เขตของจังหวัดสมุทรปราการ
ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงปี พ.ศ. 2568 จะมีผู้ใช้งาน 20,000 ราย
ผ่านสถานีสับเปลี่ยนฯ 600 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
จะเห็นว่าเป้าหมายภายในเวลา 3 ปี Winnonie คาดหวังที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ทั้งจำนวนผู้ใช้บริการ และสถานีสับเปลี่ยนฯ
ทั้งจำนวนผู้ใช้บริการ และสถานีสับเปลี่ยนฯ
แล้วปัจจัยอะไรที่จะทำให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในอนาคต ?
คำตอบก็คือ การเป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์เรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์
คำตอบก็คือ การเป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์เรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์
เชื่อหรือไม่ว่า หากเราเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่าน Winnonie
จะมีค่าใช้จ่ายต่อวันแค่ 150 บาท และหากภายใน 1 วัน เราใช้งานหนักจนแบตเตอรี่ใกล้หมด
ก็สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ที่ตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
จะมีค่าใช้จ่ายต่อวันแค่ 150 บาท และหากภายใน 1 วัน เราใช้งานหนักจนแบตเตอรี่ใกล้หมด
ก็สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ที่ตู้สับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
พูดง่าย ๆ ก็คือ ลูกค้าเสียแค่ค่าเช่าวันละ 150 บาท
ไม่ต้องจ่ายค่างวดรถ, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าน้ำมัน และอื่น ๆ
อีกทั้งการขับขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไร้ซึ่งควันพิษและเสียงดังกวนใจ
ทำให้คนขับรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมที่ช่วยให้สิ่งแวดล้อมบนท้องถนนและสุขภาพของคนเมืองดีขึ้นกว่าเดิม
แล้วโมเดลเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ใครคือลูกค้าคนสำคัญ
Winnonie ตั้งต้นมาจากแนวคิดแบบสตาร์ทอัพ ที่ตั้งใจนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา
อย่างในกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และคนที่ต้องการใช้รถมอเตอร์ไซค์เพื่อหารายได้
แทนที่จะต้องไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์เงินผ่อน ทำให้เกิดหนี้สิน
ไอเดียนี้เองที่ถูกนำมาใช้เป็นชื่อแบรนด์ Winnonie ด้วยการเล่นคำจาก “วิน No หนี้”
ไม่ต้องจ่ายค่างวดรถ, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าน้ำมัน และอื่น ๆ
อีกทั้งการขับขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไร้ซึ่งควันพิษและเสียงดังกวนใจ
ทำให้คนขับรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมที่ช่วยให้สิ่งแวดล้อมบนท้องถนนและสุขภาพของคนเมืองดีขึ้นกว่าเดิม
แล้วโมเดลเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ใครคือลูกค้าคนสำคัญ
Winnonie ตั้งต้นมาจากแนวคิดแบบสตาร์ทอัพ ที่ตั้งใจนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหา
อย่างในกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และคนที่ต้องการใช้รถมอเตอร์ไซค์เพื่อหารายได้
แทนที่จะต้องไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์เงินผ่อน ทำให้เกิดหนี้สิน
ไอเดียนี้เองที่ถูกนำมาใช้เป็นชื่อแบรนด์ Winnonie ด้วยการเล่นคำจาก “วิน No หนี้”
ได้ยินคอนเซปต์ของโมเดลธุรกิจ Winnonie ก็รู้ว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์การลดต้นทุนได้ดี
เมื่อผู้ขับขี่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แค่มีต้นทุนค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าวันละ 150 บาท
ก็สามารถขับได้ตลอด 1 วัน หากพลังงานแบตเตอรี่หมดก็เปลี่ยนใหม่ได้ทันที ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จไฟฟ้า
เมื่อผู้ขับขี่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แค่มีต้นทุนค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าวันละ 150 บาท
ก็สามารถขับได้ตลอด 1 วัน หากพลังงานแบตเตอรี่หมดก็เปลี่ยนใหม่ได้ทันที ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องเสียเวลารอชาร์จไฟฟ้า
แต่หากซื้อรถมอเตอร์ไซค์เป็นของตัวเอง และต้องขับส่งอาหารและพัสดุหลายรอบต่อวัน
อาจต้องเสียค่าเติมน้ำมันต่อวันแพงกว่าค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ทั้งยังอาจต้องเสียค่าบำรุงรักษารถอีกหลายร้อยบาทต่อเดือน
ด้วยข้อดีดังกล่าว Winnonie จึงตอบโจทย์อีกหนึ่งอาชีพ ที่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี อย่าง ไรเดอร์ คนขับส่งอาหารและส่งพัสดุต่าง ๆ
ปัจจุบัน Winnonie ที่ริเริ่มโดยบางจากฯ มี 2 บริษัทที่เข้าร่วมทุนแล้ว
หนึ่งคือ บริษัท ยิบอินซอย จํากัด ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด
สองคือ บริษัท ไอ-มอเตอร์ โฮลดิ้ง ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ที่น่าสนใจคือ แผนธุรกิจในอนาคต Winnonie จะไม่ใช่แค่บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่างเดียว
แต่ยังคิดต่อยอดไปยังการซื้อ-ขาย จนถึงอาจขยายบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์
ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และกลุ่มคนที่ใช้รถเพื่อสร้างรายได้
แต่อาจจะไปยังจังหวัดท่องเที่ยวต่าง ๆ
ที่จะให้ลูกค้าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขับขี่ชมวิวท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ
ทีนี้ จะเห็นว่า Winnonie ไม่ได้จำกัดตัวเอง แค่ลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือทำเลใดทำเลหนึ่ง
แต่มีเป้าหมายคือสร้างบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน
ไอเดียเหล่านี้คือคอนเซปต์ธุรกิจ Startup ที่มีพลัง และมีโอกาสเติบโตหลายเท่าตัวในอนาคต
เพราะเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดจะเกิดขึ้นแน่ในอนาคตอันใกล้
ทำให้ Winnonie พร้อมเปิดรับพันธมิตรมาร่วมกันลงทุนขยาย Green Ecosystem
แบบก้าวกระโดด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตรองรับความต้องการขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก”
อาจต้องเสียค่าเติมน้ำมันต่อวันแพงกว่าค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ทั้งยังอาจต้องเสียค่าบำรุงรักษารถอีกหลายร้อยบาทต่อเดือน
ด้วยข้อดีดังกล่าว Winnonie จึงตอบโจทย์อีกหนึ่งอาชีพ ที่กำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี อย่าง ไรเดอร์ คนขับส่งอาหารและส่งพัสดุต่าง ๆ
ปัจจุบัน Winnonie ที่ริเริ่มโดยบางจากฯ มี 2 บริษัทที่เข้าร่วมทุนแล้ว
หนึ่งคือ บริษัท ยิบอินซอย จํากัด ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด
สองคือ บริษัท ไอ-มอเตอร์ โฮลดิ้ง ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ที่น่าสนใจคือ แผนธุรกิจในอนาคต Winnonie จะไม่ใช่แค่บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอย่างเดียว
แต่ยังคิดต่อยอดไปยังการซื้อ-ขาย จนถึงอาจขยายบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์
ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และกลุ่มคนที่ใช้รถเพื่อสร้างรายได้
แต่อาจจะไปยังจังหวัดท่องเที่ยวต่าง ๆ
ที่จะให้ลูกค้าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขับขี่ชมวิวท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ
ทีนี้ จะเห็นว่า Winnonie ไม่ได้จำกัดตัวเอง แค่ลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือทำเลใดทำเลหนึ่ง
แต่มีเป้าหมายคือสร้างบริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน
ไอเดียเหล่านี้คือคอนเซปต์ธุรกิจ Startup ที่มีพลัง และมีโอกาสเติบโตหลายเท่าตัวในอนาคต
เพราะเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดจะเกิดขึ้นแน่ในอนาคตอันใกล้
ทำให้ Winnonie พร้อมเปิดรับพันธมิตรมาร่วมกันลงทุนขยาย Green Ecosystem
แบบก้าวกระโดด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตรองรับความต้องการขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก”
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ Winnonie เป็นแพลตฟอร์มมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด
มีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ปั๊มบางจาก ถือเป็นหนึ่งธุรกิจที่สอดคล้องกับเทรนด์ทั่วโลก
ที่ภาครัฐและบริษัทเอกชนทุกประเทศทั่วโลกต้องการสร้างอากาศบริสุทธิ์
โดยทุกประเทศตั้งเป้าหมาย Zero Emissions หรือการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์
ให้เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
มีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ปั๊มบางจาก ถือเป็นหนึ่งธุรกิจที่สอดคล้องกับเทรนด์ทั่วโลก
ที่ภาครัฐและบริษัทเอกชนทุกประเทศทั่วโลกต้องการสร้างอากาศบริสุทธิ์
โดยทุกประเทศตั้งเป้าหมาย Zero Emissions หรือการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์
ให้เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
ส่วนทางมุมของ บางจากฯ ก็ตั้งใจว่าภายในปี พ.ศ. 2593
จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions)
โดยเป้าหมายแรกคือจะต้องมีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปีพ.ศ. 2573
จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions)
โดยเป้าหมายแรกคือจะต้องมีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในปีพ.ศ. 2573
ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ในปัจจุบันเราได้เห็น บางจากฯ มีธุรกิจใหม่ๆ
จนถึงการผลิตพลังงานสีเขียวมากขึ้นอย่างชัดเจนเพื่อไปสู่เป้าหมายขององค์กร
ที่ต้องการมีส่วนร่วมบรรเทาภาวะโลกร้อนและดูแลโลกให้น่าอยู่เพื่อคนรุ่นหลัง นั่นเอง..
จนถึงการผลิตพลังงานสีเขียวมากขึ้นอย่างชัดเจนเพื่อไปสู่เป้าหมายขององค์กร
ที่ต้องการมีส่วนร่วมบรรเทาภาวะโลกร้อนและดูแลโลกให้น่าอยู่เพื่อคนรุ่นหลัง นั่นเอง..
Reference
- เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)
- เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)