The All-new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีสมบูรณ์แบบ ความคุ้มค่าที่คู่ควร

The All-new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีสมบูรณ์แบบ ความคุ้มค่าที่คู่ควร

The All-new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีสมบูรณ์แบบ ความคุ้มค่าที่คู่ควร
Honda x ลงทุนแมน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์เอสยูวีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเภทรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลก
ด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ใช้งานได้ครบครัน ตอบโจทย์แทบจะทุกไลฟ์สไตล์ในยุคนี้
เอสยูวีจึงถูกคาดการณ์ว่าจะยังรักษาการเติบโตได้ดีและจะมีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึงปีละ 14.38% ในช่วงระหว่างปี 2021 ถึง 2028 [1]
สำหรับความเคลื่อนไหวของรถยนต์เอสยูวีล่าสุดจากฮอนด้า หนึ่งในแบรนด์เจ้าตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้กับ “The All-new Honda HR-V e:HEV” รถยนต์สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ลงตัวและคุ้มค่า และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่สุดในยุคนี้
แล้วทำไม The All-new Honda HR-V e:HEV ถึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเรา ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
สำหรับ The All-new Honda HR-V e:HEV นั้น เป็นรถยนต์สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทั้งไลน์อัป ซึ่งก็นับเป็นการยกระดับมาตรฐานให้กับยนตรกรรมเอสยูวีในประเทศไทย
สำหรับใคร ที่ยังไม่รู้จัก e:HEV ของฮอนด้า จริง ๆ แล้ว e:HEV อ่านว่า อี:เอชอีวี คือ ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด
ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) บวกกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ทำให้รถยนต์รุ่นนี้สามารถมอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที
นอกเหนือจากเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า อีกส่วนที่สำคัญคือแบตเตอรี่ ซึ่งฮอนด้าเลือกใช้ คือ แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อีกทั้งยังสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่โดยไม่ต้องเสียบชาร์จไฟ
โดยการทำงานของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ระบบจะเลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยมีทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ EV Drive Mode
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด หรือ Hybrid Drive Mode
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ หรือ Engine Drive Mode
จุดนี้เอง ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้าให้ทั้งความแรง ขับสนุก ทั้งยังประหยัดน้ำมัน
ที่ไม่ว่าจะใช้เพื่อเดินทางไปห้าง เดินทางไปต่างจังหวัด หรือแม้แต่เดินทางในเมืองไปทำงาน ระบบจะปรับโหมดการขับขี่อย่างเหมาะสม ซึ่งก็จะทำให้ตัวรถยนต์ประหยัดพลังงานมากขึ้น ช่วยให้เรามีค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันสำหรับการเดินทางลดลง
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าฮอนด้า ได้พัฒนาระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนเติมเต็มและเป็นทางเลือกสำหรับการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบในวันนี้
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะสามารถให้ได้ทั้งความแรง ความสนุกของการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน และมั่นใจไม่ต้องกังวลห่วงเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดสำหรับยานยนต์ประเภทนี้ในอีกหลายปีข้างหน้า
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่ที่กำลังมองหารถยนต์สมรรถนะสูง ตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ แถมยังเข้ากับการใช้พลังงานในยุคปัจจุบัน
แล้วฟีเจอร์อื่น ๆ ใน The All-new Honda HR-V e:HEV มีอะไรบ้าง ?
สำหรับ The All-new Honda HR-V e:HEV นั้น ยังมาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ เพื่อให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ตามความต้องการ โดยที่เรายังสามารถเลือก “ECON MODE, NORMAL MODE, SPORT MODE” ได้ตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัน
ซึ่งก็ครอบคลุมโหมดการขับขี่ทั้งแบบประหยัดพลังงาน โหมดการขับขี่แบบปกติทั่วไป ไปจนถึงโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต
และด้วยความที่เป็นระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด นอกจากมอบความรู้สึกที่ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานแล้ว เอสยูวีคันนี้ก็ยังมาพร้อมกับอัตราประหยัดน้ำมันอย่างดีเยี่ยมในระดับ 25.6 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการและมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แค่ 94 กรัมต่อกิโลเมตร
ซึ่งถือเป็นอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถยนต์ที่ประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ประเภทอื่น ๆ เช่น เบนซิน ที่จะกินพลังงานอยู่ที่ราว 14 ถึง 16 กิโลเมตรต่อลิตร [2]
ในด้านของการรับประกัน ฮอนด้ารับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดที่ยาวนานถึง 10 ปี* และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบอีก 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง* พร้อมบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า 229 แห่งทั่วประเทศ
(*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
จึงมั่นใจได้ว่า The All-new Honda HR-V e:HEV คันนี้ เปรียบได้กับการลงทุนในระยะยาวที่ให้ความคุ้มค่า มั่นใจ หายห่วงเรื่องบริการหลังการขายได้เลย
โดยทั้งหมดนี้เอง ที่เป็นเรือธงสร้างความโดดเด่นกับ The All-new Honda HR-V e:HEV ให้กลายเป็นพรีเมียมสปอร์ตเอสยูวี ที่มีเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยล้ำสมัย พร้อมให้อัตราเร่งดี ขับขี่สนุก ประหยัดน้ำมัน มั่นใจทุกการขับขี่และยังตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
นอกจากเรื่องสมรรถนะและการขับขี่ที่ดีเยี่ยมแล้ว ทีนี้เรามาดูกันว่าความคุ้มค่าที่น่าลงทุนในความเป็นรถสปอร์ตพรีเมียมอเนกประสงค์ของ The All-new Honda HR-V e:HEV เป็นอย่างไร ?
เริ่มกันที่ดีไซน์ ที่เน้นความสปอร์ตพรีเมียม สวยสะดุดตา
The All-new Honda HR-V e:HEV ถูกออกแบบให้มีความปราดเปรียวและมีกลิ่นอายของความเป็นรถสปอร์ต ด้วยรูปแบบของการเป็นคูเป้
รุ่น e:HEV RS โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตเอกซ์คลูซีฟ ตกแต่งพิเศษรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 18 นิ้ว
พิเศษยิ่งขึ้นกับสีภายนอกสีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน
รวมถึงระบบไฟที่จัดเต็ม ตั้งแต่
- ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับกลางวันแบบ LED
- ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
- ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
- ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว ให้ความรู้สึกพรีเมียมยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ดีไซน์สปอร์ต มีหลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof) ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย ชมวิวได้เพลินสุด ๆ และยังมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกมากมายที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน เช่น หน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
รวมถึงรองรับระบบการสั่งด้วยเสียง, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
และแม้ประเภทรถยนต์ จะเรียกได้ว่าเป็นเอสยูวี เหมือนกัน
แต่ในรายละเอียดของแต่ละแบรนด์และผู้ผลิตนั้น
ก็จะมีการเน้นน้ำหนักและให้ความสำคัญต่างกันออกไป
สำหรับหัวใจสำคัญของรถยนต์ประเภทนี้
ฮอนด้าให้น้ำหนักไปที่ “ความอเนกประสงค์ของการใช้งาน”
ซึ่งก็เรียกว่าอยู่ในดีเอ็นเอของแบรนด์ ที่เชี่ยวชาญในเรื่องนี้อยู่แล้ว
The All-new Honda HR-V e:HEV จึงถูกออกแบบให้มีเบาะนั่งอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่สามารถแยกพับได้แบบ 60:40 และสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ
ทั้งแบบ Utility Mode เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
Long Mode เพิ่มพื้นที่การเก็บของแบบแนวยาว
และ Tall Mode ที่สามารถพับเบาะด้านหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของแนวสูง ซึ่งเป็นจุดเด่นของการออกแบบของฮอนด้า
อีกทั้งยังมีห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ รวมทั้งฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรีพร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี
และหากเรามาดูถึงเทคโนโลยีความปลอดภัย The All-new Honda HR-V e:HEV ในทุกรุ่นย่อยก็จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าว จะทำงานด้วยกล้องมุมมองกว้างด้านหน้าที่จะคอยตรวจจับรถยนต์รวมถึงคนเดินถนนรอบคัน โดยจะมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
- ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเส้นทาง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่ให้มานั้นสามารถช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้มากขึ้น และยังเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ยุคสมัยนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย
อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยและการขับขี่อื่น ๆ ช่วยมาเติมเต็มความมั่นใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง
- ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ที่จะคอยเตือนไม่ให้คุณลืมสัมภาระที่ด้านหลัง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็ได้ทำให้ The All-new Honda HR-V e:HEV เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความเป็นสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีในยุคปัจจุบัน
แล้ว The All-new Honda HR-V e:HEV ในประเทศไทย มีกี่รุ่น ?
คำตอบก็คือมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ
- รุ่น e:HEV E ราคา 979,000 บาท
- รุ่น e:HEV EL ราคา 1,079,000 บาท
- รุ่น e:HEV RS ราคา 1,179,000 บาท
ซึ่งในทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า The All-new Honda HR-V e:HEV ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งขุมพลังที่ให้ความแรง ประหยัด และการรับประกันที่มั่นใจ
คลายความกังวลสำหรับใครที่คิดว่าต้องรออีกนานแค่ไหนประเทศไทยถึงพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ก็ตอบโจทย์สำหรับปัจจุบัน จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานในวันนี้
แถมยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีการขับขี่จัดเต็ม การดีไซน์แบบสปอร์ตพรีเมียม พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ทันสมัยและฟังก์ชันความอเนกประสงค์ได้อย่างครบครัน
หากใครกำลังมองหารถยนต์สักคัน ที่ครบเครื่องและสมบูรณ์แบบที่จะเข้ามาเติมเต็มในทุก ๆ การเดินทางในแต่ละวัน The All-new Honda HR-V e:HEV ก็น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้..
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แชทกับเซลส์ คลิก https://bit.ly/3rDdx3A
#TheAllnewHondaHRVeHEV
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon