ร้านนวด 10,000 ล้าน / โดย เพจลงทุนแมน
ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว
เรื่องนี้ทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้ว
แต่รู้ไหมว่าร้านนวด เป็นธุรกิจที่ทำเงินมหาศาล
วันนี้จะยกตัวอย่างร้านนวดที่มีมูลค่า 10,000 ล้าน
ร้านนั้นคือร้านอะไร?

รู้ไหมว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของไทยในปี 2559 มีการประเมินว่าอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 18% ของ GDP ประเทศ

แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา บ้านเราไม่ได้มีสถานที่ให้ท่องเที่ยวจำกัดอยู่แค่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือวัดวาอารามที่สวยงาม แต่มีการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติและดูเหมือนจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นั่นคือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism)

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ คือ เป็นการเดินทางมาเพื่อรับการรักษาพยาบาล (Medical Tourism) และมาเพื่อฟื้นฟูและบำรุงสุขภาพ (Wellness Tourism)

จากการเปิดเผยของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประเทศไทยมีชาวต่างชาติเดินทางมารับการรักษาพยาบาลมากที่สุดในโลก โดยจากจำนวนคนที่ไปต่างประเทศเพื่อรับบริการทางการแพทย์อยู่ที่ประมาณปีละ 7-8 ล้านคน เดินทางมาที่บ้านเราถึง 1.2 ล้านคน

ส่วนการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูและบำรุงสุขภาพ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 285,000 ล้านบาท จากมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านล้านบาทของตลาดโลก หรือประมาณ 17.8%

จากสถิตินี้ เราคงจะพอเห็นภาพว่าผู้ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนี้ นอกจากพวกโรงพยาบาลแล้ว คือผู้ประกอบการธุรกิจนวดและสปาที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยเองและนักท่องเที่ยว ซึ่งแม้แต่ทางภาครัฐเองก็กำลังพยายามผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Spa Capital of Asia

โดยจากข้อมูลปี 2559 ประเทศไทยมีสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเป็น สปา 509 แห่ง นวดเพื่อสุขภาพ 1,070 แห่ง และนวดเพื่อเสริมสวยอีก 30 แห่ง

เราจะลองมาดูตัวอย่างบริษัทใหญ่ๆ ที่ทำธุรกิจนวดและสปาในบ้านเรา มีรายได้เป็นอย่างไรบ้าง

Health Land Spa & Massage
ของคุณพิทักษ์ ลาภปรารถนา เป็นหนึ่งในธุรกิจนวดที่อยู่มานานและเรามักจะได้ยินชื่อบ่อยๆ มีจุดเด่นที่สถานที่มีลักษณะคล้ายบ้านเดี่ยวหรูหราใหญ่โต และส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองหรือเขตที่มีคนเดินทางผ่านไปมาจำนวนมาก เช่น สาขาอโศก สาธร และเอกมัย เป็นต้น

จากเดิมที่ต้องการพัฒนาพื้นที่ขึ้นเป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร โดยมีการนวดเป็นแค่หนึ่งในบริการของ Health Land แต่กลายเป็นว่าธุรกิจนวดกลับได้รับความนิยมมากที่สุดจากลูกค้า จึงเปลี่ยนพื้นที่ทั้งหมด มาให้บริการนวดเพื่อสุขภาพแบบเต็มรูปแบบแทน

ปัจจุบันมีทั้งหมด 10 สาขา โดยอยู่ในกรุงเทพ 8 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา

เครือเฮลท์แลนด์ (บริษัทของ Health Land มีจำนวนมาก จึงขอรวมรายได้มาในนามเครือบริษัท)
ปี 2557 มีรายได้ 427 ล้านบาท กำไร 8.6 ล้านบาท
ปี 2558 มีรายได้ 507 ล้านบาท กำไร 18 ล้านบาท
ปี 2559 มีรายได้ 601 ล้านบาท กำไร 24 ล้านบาท

Siam Wellness Group
ชื่อเดิมคือ บริษัท บลูมมิ่งสปา จำกัด จดทะเบียนบริษัทขึ้นเมื่อปี 2544 และเพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อปี 2557 มีธุรกิจในเครือ คือ Let’s Relax, ระรินจินดา เวลเนส สปา, ระรินจินดา เวลเนส สปา รีสอร์ท, บ้านสวนมาสสาจ, ผลิตภัณฑ์สปา ตรา Blooming, โรงเรียนสอนนวดแผนไทยสยามเวลเนส, และร้านอาหาร Deck1

ธุรกิจสปามีสาขาทั้งหมด 30 สาขา เป็น Let’s Relax จำนวน 19 สาขา ระรินจินดา เวลเนส สปา จำนวน 3 สาขา บ้านสวนมาสสาจ จำนวน 7 สาขา และ Let’s Relax ในประเทศจีนอีก 1 สาขา

บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ปี 2557 มีรายได้ 343 ล้านบาท กำไร 33 ล้านบาท
ปี 2558 มีรายได้ 544 ล้านบาท กำไร 107 ล้านบาท
ปี 2559 มีรายได้ 739 ล้านบาท กำไร 141 ล้านบาท

ดูรายได้หลักร้อยล้านก็คงไม่ได้น่าตกใจเท่ามูลค่าตลาดของบริษัทนี้

ปัจจุบันบริษัท Siam Wellness Group มีมูลค่าตามราคาตลาด ประมาณ 10,000 ล้านบาท โตขึ้นจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 2,326 ล้านบาท ถึง 4 เท่า

ใครจะไปคิดว่าร้านนวด 30 สาขาจะมีมูลค่ามากถึงหมื่นล้านบาท

ทำไมตลาดให้มูลค่ากับบริษัทสูงขนาดนี้ทั้งที่มีรายได้อยู่ในหลักร้อยล้าน?

ลงทุนแมนก็ไม่แน่ใจว่าตลาดให้ราคาผิด หรือ นักลงทุน เชื่อว่าอนาคตของบริษัทมีโอกาสที่จะขยับขยายกิจการได้ต่อและสร้างผลกำไรได้มากขึ้นในอนาคต

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ใครเป็นเจ้าของร้านนวดคงตาลุกวาว ถ้าสามารถขยายได้หลายๆสาขาเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์โดยอ้างอิงราคากับบริษัทนี้ ก็คงได้เงิน IPO จำนวนไม่น้อย..

หมายเหตุ ลงทุนแมนไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ แค่ต้องการเล่าถึงธุรกิจร้านนวดในไทย การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
----------------------
<ad> ถ้าเรามีบ้าน หรือ คอนโด ที่ผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่อยากลดดอกเบี้ย หรือ ยืดเวลาผ่อน มารีไฟแนนซ์ กับ REFINN ฟรีได้ที่ https://goo.gl/2KgGWa
----------------------

Source
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000075746
http://www.thansettakij.com/content/55393