ทำไม เยอรมนี ถึงเป็น ประเทศแห่งเบียร์

ทำไม เยอรมนี ถึงเป็น ประเทศแห่งเบียร์

ทำไม เยอรมนี ถึงเป็น ประเทศแห่งเบียร์ /โดย ลงทุนแมน
ปกติแล้วเมื่อเราดูรายการเครื่องดื่มจากเมนูในร้านอาหาร
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จะมีราคาสูงกว่าเครื่องดื่มอื่น
แต่ไม่ใช่สำหรับประเทศเยอรมนี ดินแดนที่เบียร์คือภาพลักษณ์ของประเทศ
แถมเบียร์บางยี่ห้อในประเทศแห่งนี้ กลับมีราคาถูกกว่าน้ำดื่ม
ทำไมเบียร์จึงกลายมาเป็นภาพลักษณ์ของเยอรมนี
แล้วเพราะอะไร ประเทศเยอรมนีขายเบียร์ ถูกกว่าน้ำดื่ม ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เริ่มกันที่ทำไมเบียร์เป็นเครื่องดื่มคู่ประเทศเยอรมนี
หลายคนอาจจะคิดว่าเบียร์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี
แต่ในความเป็นจริงแล้วต้นกำเนิดของเบียร์นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด
โดยมีการคาดการณ์กันว่า เบียร์ มีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคตะวันออกกลางเมื่อ 7,000 ปีก่อน
และเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในสมัยอียิปต์โบราณ จากนั้นจึงกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเวลาต่อมา
สำหรับชาวเยอรมันแล้ว เบียร์เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมานับพันปี โดยเริ่มแรกนั้น เบียร์จะถูกผลิตขึ้นในโบสถ์ทางตอนใต้ของประเทศและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะในสมัยนั้นเบียร์ถือว่ามีความสะอาดและเชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพ
จนกระทั่งเมื่อ 500 ปีก่อน ได้มีการประกาศใช้กฎหมายความบริสุทธิ์ของเบียร์ (The Purity Law)
เพื่อควบคุมคุณภาพของเบียร์โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเดิมถูกบังคับใช้เฉพาะแคว้นบาวาเรียเท่านั้น จากนั้นจึงได้บังคับใช้ทั่วทั้งประเทศในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน กฎหมายดังกล่าวได้กำหนดให้เบียร์มีวัตถุดิบหลัก 4 อย่างคือ
- ข้าวบาร์เลย์
- ฮอปส์ (พืชที่ให้รสขม และต้านเชื้อแบคทีเรีย)
- ยีสต์ (จุลินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่มีผลต่อกลิ่นและรสชาติ)
- น้ำสะอาด
จากข้อกำหนดเรื่องวัตถุดิบ จึงทำให้รสชาติของเบียร์ที่ผลิตในประเทศเยอรมนีมีลักษณะเฉพาะตัวและเป็นมาตรฐานเดียวกันซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น
และด้วยการผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน จึงได้ผลักดันให้อุตสาหกรรมเบียร์ของเยอรมนีเติบโตอย่างต่อเนื่อง
และการเติบโตดังกล่าว ก็มาจากการบริโภคในประเทศเป็นหลัก
ดูได้จากการที่คนเยอรมันใช้จ่ายสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อปีมากที่สุดในโลก
โดยจ่ายประมาณ 60,000 บาทต่อคนต่อปี และมีปริมาณการดื่มเฉลี่ยมากถึง 130 ลิตรต่อคนต่อปี
ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 45 ลิตรต่อคนต่อปี เท่านั้น
ปัจจุบันเยอรมนีมีโรงงานผลิตเบียร์มากกว่า 1,500 แห่ง
เป็นเจ้าของแบรนด์เบียร์มากกว่า 5,500 แบรนด์ที่จำหน่ายและส่งออกไปทั่วโลก
และมีมูลค่าการส่งออกในปี 2020 กว่า 37,500 ล้านบาท
ความชื่นชอบในการดื่มเบียร์ของชาวเยอรมันไปไกลถึงขนาดที่ว่ามีเทศกาลเบียร์หลากหลายเทศกาลที่จัดขึ้นในแต่ละปี แต่ที่โด่งดังที่สุดคือเทศกาล “Oktoberfest” เป็นเทศกาลเก่าแก่กว่า 200 ปี โดยจะจัดขึ้นครั้งละ 16 ถึง 18 วันเป็นประจำทุกปี
ซึ่งเทศกาลดังกล่าวจะอนุญาตให้ขายเฉพาะเบียร์ที่ผลิตจากแคว้นบาวาเรียและมีแอลกอฮอล์ขั้นต่ำ 6% เท่านั้น
โดยตลอดระยะเวลาจัดงาน มีเบียร์ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านลิตรถูกเสิร์ฟให้กับนักท่องเที่ยว
กว่า 6 ถึง 8 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก โดยจะมีขายเฉพาะขนาดแก้วละ 1 ลิตรเท่านั้น
ด้วยความนิยมของเบียร์ จึงทำให้แทบทุกร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ หรือบาร์จะมีเบียร์ให้บริการ
แล้วทำไมเบียร์ในประเทศเยอรมนีถึงถูกกว่าน้ำดื่ม ?
จริง ๆ แล้ว การที่เบียร์ในยุโรปถูกกว่าน้ำดื่มนั้น เหตุผลแรกก็เพราะว่าประเทศในทวีปยุโรปส่วนใหญ่ มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี ทำให้มีน้ำประปาที่สะอาดมากพอที่จะบริโภคได้และภาครัฐได้ติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับบริโภคไว้ทั่วไปในพื้นที่สาธารณะ
เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนสามารถเข้าถึงน้ำดื่มได้ง่าย
โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพื่อซื้อน้ำดื่มจากร้านค้า
ร้านอาหารต่าง ๆ จึงเลือกที่จะวางจำหน่ายเฉพาะน้ำแร่ที่มีราคาสูง
ส่วนน้ำเปล่าแบบธรรมดา จะสามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เท่านั้น
สำหรับประเทศเยอรมนียังมีเหตุผลเพิ่มเติมอีกว่าประเทศแห่งนี้มีภูเขาไฟหลายร้อยลูก
ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุและกลายเป็นแหล่งผลิตน้ำแร่คุณภาพสูง มีรสสัมผัสที่ดี
ทำให้คนเยอรมันนิยมสั่งน้ำแร่เมื่อไปร้านอาหารหรือนำมาผสมกับเครื่องดื่ม เช่น เบียร์
นอกจากความชื่นชอบในการดื่มของชาวเยอรมันแล้ว
อีกปัจจัยที่ผลักดันอุตสาหกรรมเบียร์ในเยอรมนีให้เติบโตคือ การเก็บภาษีจากเบียร์ที่ต่ำที่สุดในยุโรป
โดยราคาขายเฉลี่ยในห้างสรรพสินค้าคือ 25 บาทต่อขวด (330 มิลลิลิตร)
และมีการเรียกเก็บภาษีประมาณ 1 ถึง 2 บาทต่อขวด คิดเป็นเพียง 4 ถึง 8% เท่านั้น
หากเราลองมาเทียบกับเบียร์ที่ขายในประเทศไทย ภาษีเบียร์ไม่เกิน 7 ดีกรี จะสูงถึง 48%
และหากพูดถึงเรื่องของราคาที่ถูกกว่าน้ำดื่มและความนิยมในการดื่มเบียร์
สาธารณรัฐเช็กซึ่งตั้งอยู่ติดกับฝั่งตะวันออกของเยอรมนี ก็ควรถูกกล่าวถึงด้วยเช่นกัน
เพราะมีปริมาณการดื่มต่อคนที่สูงถึง 150 ลิตรต่อปีซึ่งมากที่สุดในโลก
และราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกันต่อหน่วย อีกทั้งยังเคยมีเทศกาลเบียร์
ที่จัดขึ้นทุกปีเป็นระยะเวลา 17 วัน เช่นเดียวกับประเทศเยอรมนี
แต่เนื่องจากงานดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2019 จากการที่ภาครัฐในพื้นที่ไม่อนุญาตให้จัด
และปริมาณการส่งออกเบียร์ที่มีน้อยกว่าประเทศเยอรมนีอยู่มาก ทำให้ทั่วโลกรู้จักเบียร์เยอรมันมากกว่า
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็พอจะบอกได้ว่าถ้าเอ่ยถึงประเทศเยอรมนี
สิ่งที่ผู้คนนึกถึงนอกจากจะเป็นแหล่งกำเนิดแบรนด์รถยนต์ระดับโลกแล้ว
เบียร์ ก็น่าจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นึกถึงและอยู่คู่กับประเทศเยอรมนีไปอีกนาน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.expensivity.com/beer-around-the-world/
-https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_beer
-https://en.wikipedia.org/wiki/Oktoberfest
-https://germanfoods.org/german-food-facts/brief-history-of-german-beer/
-https://germanfoods.org/german-food-facts/healthy-mineral-water/
-https://trendeconomy.com/data/h2/Germany/2203
-https://www.foodmag.com.au/country-exports-beer-world/
-https://taxfoundation.org/beer-taxes-europe-2019/
-https://graphics.wsj.com/table/BEER_062415
-https://www.dw.com/en/everything-you-need-to-know-about-the-german-beer-culture/av-45555965

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon