ประเทศ เฟซบุ๊ก
ประเทศ เฟซบุ๊ก / โดย เพจลงทุนแมน
ในโลกนี้..
ถ้าถามว่าประเทศไหนมีประชากรมากที่สุด
หลายคนคงตอบว่า จีน หรือ อินเดีย
แต่ถ้านับเฟซบุ๊กเป็นประเทศแล้ว
ประเทศเฟซบุ๊กจะมีประชากรมากที่สุดในโลก..
ยินดีต้อนรับสู่เรื่อง ประเทศ เฟซบุ๊ก
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี โดยได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับบริษัท
เฟซบุ๊กมีรายได้เกิน 10,000 ล้านเหรียญ หรือ 330,000 ล้านบาท เป็นไตรมาสแรก
หลายคนคงคิดว่าจำนวนคนใช้เฟซบุ๊กอิ่มตัวแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ยังมีคนสมัครเข้ามาเล่นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นทุกวัน
สถิติล่าสุด จำนวนคนที่ใช้ Facebook ในทุกเดือนอยู่ที่ 2,070 ล้านคน และมี 1,370 ล้านคน ที่เข้าใช้ Facebook ทุกวัน
นี่ยังไม่รวมกับจำนวนคนใช้ WhatsApp 1,300 ล้านคน Messenger 1,300 ล้านคน Instagram 800 ล้านคน ในทุกเดือน
ถ้ารวมตัวเลขทั้งหมด เราอาจจะตกใจว่า เฟซบุ๊ก มีจำนวนคนใช้ในทุกโปรแกรมรวมกันทั้งหมด มากถึง 5,470 ล้านคน (จำนวนคนใช้ในแต่ละโปรแกรมอาจซ้ำกัน)
ในโลกนี้มีประชากร 7,600 ล้านคน จีนมีประชากร 1,379 ล้านคน อินเดียมีประชากร 1,324 ล้านคน
..
แล้วประเทศเฟซบุ๊กมีรายได้เท่าไร?
รายได้ของเฟซบุ๊ก ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 10,330 ล้านเหรียญ หรือราว 340,890 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 47%
เราน่าจะตกใจมากขึ้นไปอีกถ้ารู้ว่า 88% ของรายได้ทั้งหมดมาจากเรื่องเดียว คือ “ค่าโฆษณาในมือถือ”
ด้านการทำกำไร โตเร็วกว่ารายได้ เพราะต้นทุนเพิ่มตามไม่ทัน รายได้ก็เลยตกมาเป็นกำไรได้เร็วกว่า
ไตรมาสที่ผ่านมาเฟซบุ๊กมีกำไร 4,700 ล้านเหรียญ หรือ 155,100 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 79% และเมื่อเทียบกันแล้วเฟซบุ๊กมีกำไรคิดเป็น 46% ของรายได้ คงมีไม่กี่บริษัทในโลกนี้ที่จะมีอัตรากำไรดีกว่าเฟซบุ๊ก
เราลองมาคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเฟซบุ๊กทำกำไรได้เฉลี่ย 150,000 ล้านบาททุกๆไตรมาส
1 ปี เฟซบุ๊กจะมีกำไรรวมอยู่ที่ 600,000 ล้านบาท
600,000 ล้านบาท ซื้ออะไรได้บ้าง?
เฟซบุ๊กสามารถเอากำไรของบริษัทเพียง “ปีเดียว” มาเลือกซื้อธนาคารยักษ์ใหญ่ในบ้านเราไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกรุงเทพ ได้ทั้งธนาคาร แถมยังได้เงินทอน...
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้และกำไรของ Facebook โตขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจาก ราคาค่าโฆษณา ที่เพิ่มขึ้น 35%
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากตัวเลขรายได้ ก็คือ “เงินสด” ซึ่งเฟซบุ๊กมีเงินสดอยู่ในมือมากถึง 1.3 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ ผู้บริหารของ Facebook ยังได้เปิดเผยถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะมากขึ้นตั้งแต่ปีนี้ว่า จะใช้เงินไปกับการลงทุนเพิ่มใน 3 ปัจจัย ที่ทางบริษัทเห็นว่าสำคัญต่อการเจริญเติบโตต่อไปในอนาคต
อย่างแรกคือ นำไปลงทุนในระบบความปลอดภัยของ Facebook โดยตั้งเป้าจะจ้างคนดูแลระบบเพิ่มจาก 10,000 เป็น 20,000 คน ภายในปีหน้า
อย่างที่สองคือ จะผลักดันการเติบโตในกลุ่ม Video ทั้งระบบ video sharing และ video content ไม่ว่าจะเป็น Stories ใน Instagram, Status ใน WhatsApp และ Watch ลูกเล่นใหม่ใน Facebook
และอย่างสุดท้ายคือ การลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยีอย่าง AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality), และ AI (Artificial Intelligence)
ปัจจุบัน Facebook มีมูลค่าตลาด 530,480 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 17.5 ล้านล้านบาท
สำหรับคนที่อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าตัวเลขนี้มันมากแค่ไหน
มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “ทั้งหมด” รวมกัน อยู่ที่ 16.8 ล้านล้านบาท...
ปิดท้ายด้วยคำถามที่น่าคิดว่า
สมมติเรามีเงินอยู่ 17.5 ล้านล้านบาท
ให้เลือกลงทุนระหว่างก้อน A คือ บริษัทเฟซบุ๊ก และ ก้อน B คือ ทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เราจะลงทุนในก้อน A หรือ ก้อน B?..
----------------------
ถ้าเรามีบ้าน หรือ คอนโด ที่ผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่อยากลดดอกเบี้ย หรือ ยืดเวลาผ่อน มารีไฟแนนซ์ กับ REFINN ฟรีได้ที่ https://goo.gl/2KgGWa
----------------------
Source:
Facebook Transcript
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในโลกนี้..
ถ้าถามว่าประเทศไหนมีประชากรมากที่สุด
หลายคนคงตอบว่า จีน หรือ อินเดีย
แต่ถ้านับเฟซบุ๊กเป็นประเทศแล้ว
ประเทศเฟซบุ๊กจะมีประชากรมากที่สุดในโลก..
ยินดีต้อนรับสู่เรื่อง ประเทศ เฟซบุ๊ก
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปี โดยได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับบริษัท
เฟซบุ๊กมีรายได้เกิน 10,000 ล้านเหรียญ หรือ 330,000 ล้านบาท เป็นไตรมาสแรก
หลายคนคงคิดว่าจำนวนคนใช้เฟซบุ๊กอิ่มตัวแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ยังมีคนสมัครเข้ามาเล่นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นทุกวัน
สถิติล่าสุด จำนวนคนที่ใช้ Facebook ในทุกเดือนอยู่ที่ 2,070 ล้านคน และมี 1,370 ล้านคน ที่เข้าใช้ Facebook ทุกวัน
นี่ยังไม่รวมกับจำนวนคนใช้ WhatsApp 1,300 ล้านคน Messenger 1,300 ล้านคน Instagram 800 ล้านคน ในทุกเดือน
ถ้ารวมตัวเลขทั้งหมด เราอาจจะตกใจว่า เฟซบุ๊ก มีจำนวนคนใช้ในทุกโปรแกรมรวมกันทั้งหมด มากถึง 5,470 ล้านคน (จำนวนคนใช้ในแต่ละโปรแกรมอาจซ้ำกัน)
ในโลกนี้มีประชากร 7,600 ล้านคน จีนมีประชากร 1,379 ล้านคน อินเดียมีประชากร 1,324 ล้านคน
..
แล้วประเทศเฟซบุ๊กมีรายได้เท่าไร?
รายได้ของเฟซบุ๊ก ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 10,330 ล้านเหรียญ หรือราว 340,890 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 47%
เราน่าจะตกใจมากขึ้นไปอีกถ้ารู้ว่า 88% ของรายได้ทั้งหมดมาจากเรื่องเดียว คือ “ค่าโฆษณาในมือถือ”
ด้านการทำกำไร โตเร็วกว่ารายได้ เพราะต้นทุนเพิ่มตามไม่ทัน รายได้ก็เลยตกมาเป็นกำไรได้เร็วกว่า
ไตรมาสที่ผ่านมาเฟซบุ๊กมีกำไร 4,700 ล้านเหรียญ หรือ 155,100 ล้านบาท โตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 79% และเมื่อเทียบกันแล้วเฟซบุ๊กมีกำไรคิดเป็น 46% ของรายได้ คงมีไม่กี่บริษัทในโลกนี้ที่จะมีอัตรากำไรดีกว่าเฟซบุ๊ก
เราลองมาคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเฟซบุ๊กทำกำไรได้เฉลี่ย 150,000 ล้านบาททุกๆไตรมาส
1 ปี เฟซบุ๊กจะมีกำไรรวมอยู่ที่ 600,000 ล้านบาท
600,000 ล้านบาท ซื้ออะไรได้บ้าง?
เฟซบุ๊กสามารถเอากำไรของบริษัทเพียง “ปีเดียว” มาเลือกซื้อธนาคารยักษ์ใหญ่ในบ้านเราไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือธนาคารกรุงเทพ ได้ทั้งธนาคาร แถมยังได้เงินทอน...
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้และกำไรของ Facebook โตขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจาก ราคาค่าโฆษณา ที่เพิ่มขึ้น 35%
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากตัวเลขรายได้ ก็คือ “เงินสด” ซึ่งเฟซบุ๊กมีเงินสดอยู่ในมือมากถึง 1.3 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ ผู้บริหารของ Facebook ยังได้เปิดเผยถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะมากขึ้นตั้งแต่ปีนี้ว่า จะใช้เงินไปกับการลงทุนเพิ่มใน 3 ปัจจัย ที่ทางบริษัทเห็นว่าสำคัญต่อการเจริญเติบโตต่อไปในอนาคต
อย่างแรกคือ นำไปลงทุนในระบบความปลอดภัยของ Facebook โดยตั้งเป้าจะจ้างคนดูแลระบบเพิ่มจาก 10,000 เป็น 20,000 คน ภายในปีหน้า
อย่างที่สองคือ จะผลักดันการเติบโตในกลุ่ม Video ทั้งระบบ video sharing และ video content ไม่ว่าจะเป็น Stories ใน Instagram, Status ใน WhatsApp และ Watch ลูกเล่นใหม่ใน Facebook
และอย่างสุดท้ายคือ การลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยีอย่าง AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality), และ AI (Artificial Intelligence)
ปัจจุบัน Facebook มีมูลค่าตลาด 530,480 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 17.5 ล้านล้านบาท
สำหรับคนที่อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าตัวเลขนี้มันมากแค่ไหน
มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “ทั้งหมด” รวมกัน อยู่ที่ 16.8 ล้านล้านบาท...
ปิดท้ายด้วยคำถามที่น่าคิดว่า
สมมติเรามีเงินอยู่ 17.5 ล้านล้านบาท
ให้เลือกลงทุนระหว่างก้อน A คือ บริษัทเฟซบุ๊ก และ ก้อน B คือ ทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เราจะลงทุนในก้อน A หรือ ก้อน B?..
----------------------
ถ้าเรามีบ้าน หรือ คอนโด ที่ผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่อยากลดดอกเบี้ย หรือ ยืดเวลาผ่อน มารีไฟแนนซ์ กับ REFINN ฟรีได้ที่ https://goo.gl/2KgGWa
----------------------
Source:
Facebook Transcript
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
