หากพูดถึงแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ที่มาแรงที่สุดเวลานี้คงหนีไม่พ้น TikTok แพลตฟอร์มสุดฮิตที่หลายคนกำลังพูดถึง

TikTok เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทยประมาณปลายปี 2018
และได้สร้างสถิติมียอดดาวน์โหลดสูงสุดทั่วโลกทะลุ 2 พันล้านดาวน์โหลดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา (อ้างอิงข้อมูลจาก Sensor Tower)

และด้วยเวลาเพียงไม่นาน TikTok ได้เขยิบไปอีกขั้น จากแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นสุดฮิตของผู้คนทั่วโลก สู่การเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่มาแรงที่ธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่กำลังให้ความสนใจในเวลานี้

ในช่วงที่ผ่านมา อุปสรรคหลายอย่างของการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งคือ
การสร้างคอนเทนต์ของแบรนด์ให้เป็นที่น่าสนใจ และจะทำอย่างไรให้การสื่อสาร เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ล่าสุด TikTok ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการตลาดน้องใหม่ที่ชื่อว่า “TikTok For Business” ซึ่งถือเป็นโซลูชั่นการตลาดที่ตอบโจทย์แบรนด์และธุรกิจทุกขนาดในการทำการตลาดครบวงจรบน TikTok ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค กระทั่งต่อยอดการพิจารณาสู่การตัดสินใจซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากใครที่เป็นผู้ใช้ TikTok อยู่แล้วคงจะคุ้นเคยกับคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่ปรากฏอยู่ในหน้า Feed ตามความสนใจและความชอบส่วนบุคคล โดยที่เราไม่ได้ไปกดติดตามครีเอเตอร์นั้นๆ

ด้วยคุณลักษณะนี้ของ TikTok ทำให้เราสามารถเห็นวิดีโอจากคนที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก และทำให้ทุกคนนั้นมีพื้นที่ในการสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มนี้จริงๆ ถ้าคอนเทนต์นั้นมีคนสนใจมาก ถึงมีผู้ติดตามไม่มาก ก็สามารถทำให้มีคนเห็นมากได้

พอเรื่องเป็นแบบนี้จึงทำให้บ่อยครั้งที่วิดีโอสั้นของบุคคลหน้าใหม่ใน TikTok กลายเป็นไวรัลได้ โดยใช้เวลาไม่นาน

อย่างแรกเลย คือ TikTok For Business เป็นโซลูชั่นทางการตลาดที่เปิดโอกาสให้แบรนด์และนักการตลาดได้เข้าถึงและมีส่วนร่วมกับผู้คนในชุมชน TikTok ด้วยจุดแข็งเฉพาะตัวของ TikTok ในเรื่องการสร้างการรับรู้ (Awareness) และการมีส่วนร่วม (Engagement) ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค พร้อมต่อยอดไปถึงการพิจารณา (Consideration) สู่การตัดสินใจซื้อ (Conversion)

และสิ่งที่ทำให้ TikTok โดนเด่นจากแพลตฟอร์มอื่น คือ การเปิดมุมมองใหม่ของการทำ Brand Storytelling ภายใต้คอนเซ็ปต์ Don’t make ads. Make TikTok. ด้วยการใช้พื้นที่บนแพลตฟอร์มบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ สอดคล้องไปกับคอนเทนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ผู้คนเกิดความสนใจ มากกว่าการนำเสนอโฆษณารูปแบบแบบเดิมๆ ที่เน้นการขายของเป็นหลัก

ดังจะเห็นได้จากแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Pomelo แบรนด์แฟชั่นสุดฮิตขวัญใจคนรุ่นใหม่​กับแคมเปญ #walkwithpomelo ที่สร้างสถิติกระแสตอบรับและการมีส่วนร่วมกับผู้คนบนแพลตฟอร์มได้อย่างล้นหลามในช่วงระยะเวลาเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ ด้วยยอดวิววิดีโอที่ 176.4 ล้านวิว ต่อยอดเป็นปรากฏการณ์สร้างยอดขายได้เทียบเท่ากับเมกะเซลล์ 11.11 ของทุกปีอย่างถล่มถลาย

เช่นเดียวกับ NIVEA แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกซึ่งมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ได้ส่งแคมเปญ #PutURHandsUpChallenge โดยทันทีที่แคมเปญถูกเผยแพร่ พบว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างดีด้วยยอดวิววิดีโอรวมที่สูงถึง 10 ล้าน ภายในระยะเวลาเพียง 6 วันของการปล่อยแคมเปญเท่านั้น และยังช่วยเพิ่มยอดขายของนีเวียโรสเซรั่ม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ NIVEA ได้มากกว่า 26% หลังจากเปิดตัวแคมเปญ

และไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดไหน มีเม็ดเงินในการทำโฆษณาเท่าไหร่ ก็สามารถเริ่มต้นโฆษณากับ TikTok ได้ เพราะ TikTok มี Self-Serve Platform ที่ช่วยให้แบรนด์ขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถเข้าไปบริหารจัดการการซื้อโฆษณาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้ง่าย สะดวก และยังวัดผลได้ทันทีอีกด้วย

ซึ่งรูปแบบช่องทางการโฆษณาบน TikTok นั้นก็มีหลายรูปแบบ
ตั้งแต่ Brand Takeover ที่การันตีการรับชมแบบ 100%
Top View รูปแบบโฆษณาในตำแหน่งด้านบน จะได้เห็นเป็นคอนเทนต์แรกก่อน Feed อื่นๆ
In-Feed Ads รูปแบบการโฆษณาที่จะปรากฏขึ้นระหว่างที่คนดูวิดีโอต่างๆ ในหน้า Feed
Hashtag challenge รูปแบบการโฆษณาในลักษณะของการจัดแคมเปญ เพื่อท้าให้คนร่วมกิจกรรม
Brand Effect รูปแบบการโฆษณาที่แบรนด์สามารถสร้างเอฟเฟกต์ต่างๆ ทั้งภาพและเสียง

ซึ่งต้องบอกว่า TikTok For Business นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเข้ามาช่วยให้แบรนด์ได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายในชุมชน TikTok ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งหลายคนที่ใช้แพลตฟอร์มนี้อยู่ อาจจะเคยเจอเหตุการณ์ที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เรากำลังดูคอนเทนต์ ที่มาจากการโฆษณาอยู่ ทำให้ผลของโฆษณามีความเป็นธรรมชาติ จนทำให้เกิดการสร้างการรับรู้ สู่การพิจารณาตัดใจซื้อที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย

และด้วยความน่าสนใจ ความกระชับ และตรงใจผู้บริโภค เป็นเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ​TikTok ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนต่างให้ความสนใจ ตั้งแต่ผู้ใช้ทั่วไป ครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ ไปจนถึงนักการตลาดและนักโฆษณาจากแบรนด์และเอเยนซี่ต่างๆ ทั่วโลก