สรุปเรื่อง อเมริกันแบน จาก Huawei สู่ TikTok และ Tencent
สรุปเรื่อง อเมริกันแบน จาก Huawei สู่ TikTok และ Tencent / โดย ลงทุนแมน
สหรัฐอเมริกา และ จีน
สองประเทศนี้ เป็นสองขั้วอำนาจ ที่กำลังขับเคี่ยวกันทุกด้าน
โดยเฉพาะเรื่อง “เทคโนโลยี”
สองประเทศนี้ เป็นสองขั้วอำนาจ ที่กำลังขับเคี่ยวกันทุกด้าน
โดยเฉพาะเรื่อง “เทคโนโลยี”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีของจีน
อย่างเช่น Huawei, ByteDance และ Tencent
กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น
อย่างเช่น Huawei, ByteDance และ Tencent
กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น
ทำให้บริษัทจีนเหล่านี้ ถูกเพ่งเล็งโดยสหรัฐอเมริกา
ประเทศที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกมาหลายทศวรรษ
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จนนำมาสู่การ “แบน” การใช้งานเทคโนโลยี
และแอปพลิเคชันของหลายๆ บริษัทจากจีนในสหรัฐฯ
ประเทศที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกมาหลายทศวรรษ
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จนนำมาสู่การ “แบน” การใช้งานเทคโนโลยี
และแอปพลิเคชันของหลายๆ บริษัทจากจีนในสหรัฐฯ
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
เริ่มจาก Huawei บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน
และหนึ่งในผู้พัฒนาระบบ 5G รายใหญ่ของโลก
และหนึ่งในผู้พัฒนาระบบ 5G รายใหญ่ของโลก
เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019
เมื่อ ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่า
Huawei อาจเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ
เมื่อ ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่า
Huawei อาจเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ
โดยกล่าวหาว่า Huawei ส่งเทคโนโลยีเข้ามาในสหรัฐฯ
เพื่อล้วงเอาข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญาของคนอเมริกัน
เพื่อล้วงเอาข้อมูลและทรัพย์สินทางปัญญาของคนอเมริกัน
อีกทั้งกล่าวหาว่า Huawei ได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยความมั่นคงของจีน
และเริ่มสั่งให้คนในหน่วยงานรัฐบาลเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Huawei
และเริ่มสั่งให้คนในหน่วยงานรัฐบาลเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Huawei
นอกจากนั้นยังได้ส่งคำเตือนไปยังประเทศที่เป็นพันธมิตร
เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา อิตาลี ว่าอุปกรณ์และเทคโนโลยี 5G ของ Huawei อาจเป็นอันตรายต่อข้อมูลของคนในประเทศ
เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา อิตาลี ว่าอุปกรณ์และเทคโนโลยี 5G ของ Huawei อาจเป็นอันตรายต่อข้อมูลของคนในประเทศ
แม้ทาง Huawei จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
แต่เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และ Huawei ก็ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น
สุดท้าย ดอนัลด์ ทรัมป์ ก็สั่งแบน Huawei ในเดือนพฤษภาคม ปี 2019
แต่เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และ Huawei ก็ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น
สุดท้าย ดอนัลด์ ทรัมป์ ก็สั่งแบน Huawei ในเดือนพฤษภาคม ปี 2019
และนั่นทำให้ โทรศัพท์ของ Huawei ที่ผลิตหลังจากนั้นจะไม่ใช่สามารถใช้บางบริการของบริษัทอเมริกันได้ เช่น Google Services ต่างๆ
หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศแบน Huawei ไปได้ไม่นาน
ก็มีแอปพลิเคชันตัวหนึ่ง ที่เกิดกระแสความนิยมขึ้นมา
และทรงอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก
นั่นก็คือแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “TikTok”
ก็มีแอปพลิเคชันตัวหนึ่ง ที่เกิดกระแสความนิยมขึ้นมา
และทรงอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก
นั่นก็คือแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “TikTok”
TikTok เป็นโซเชียลมีเดีย ในรูปแบบวิดีโอสั้น
ที่มีเจ้าของคือ ByteDance บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน
ที่มีเจ้าของคือ ByteDance บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน
หลังจากเปิดให้ดาวน์โหลดทั่วโลกได้ในปี 2017
ไม่นาน TikTok ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกในเดือนเมษายน ปี 2020 มากกว่า 2,000 ล้านครั้ง
ไม่นาน TikTok ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนมียอดดาวน์โหลดทั่วโลกในเดือนเมษายน ปี 2020 มากกว่า 2,000 ล้านครั้ง
ที่สำคัญคือ ผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ
มีมากกว่า 40 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงอินเดียประเทศเดียว
มีมากกว่า 40 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงอินเดียประเทศเดียว
พอเป็นแบบนี้ TikTok ที่มีเจ้าของเป็นคนจีน ก็ถูกเพ่งเล็งทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ และอินเดีย
ซึ่งอินเดียมีความขัดแย้งกับประเทศจีนเรื่องชายแดนระหว่าง อินเดีย-จีน
อินเดียจึงสั่งแบน TikTok ด้วยเหตุผลความมั่นคง
ซึ่งอินเดียมีความขัดแย้งกับประเทศจีนเรื่องชายแดนระหว่าง อินเดีย-จีน
อินเดียจึงสั่งแบน TikTok ด้วยเหตุผลความมั่นคง
หลังจากนั้น TikTok ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแอปที่เป็นภัยต่อข้อมูลของคนอเมริกัน คล้ายกันกับกรณีของ Huawei
ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok
ปฏิเสธว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ นั้นไม่เป็นความจริง
และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ปฏิเสธว่าข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ นั้นไม่เป็นความจริง
และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
เริ่มตั้งแต่การตั้ง Kevin Mayer
อดีตประธานบริหารสัญชาติอเมริกันของ Walt Disney
ขึ้นเป็น CEO คนใหม่ของ TikTok
อดีตประธานบริหารสัญชาติอเมริกันของ Walt Disney
ขึ้นเป็น CEO คนใหม่ของ TikTok
และวางแผนเปิดสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศ
เพื่อแสดงภาพลักษณ์ว่า TikTok มีความเป็นสากล
และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลจีน
เพื่อแสดงภาพลักษณ์ว่า TikTok มีความเป็นสากล
และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับรัฐบาลจีน
แต่ความพยายามนั้นเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับ ดอนัลด์ ทรัมป์..
เพราะล่าสุด ทรัมป์ได้ลงนามแบน TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลในอีก 45 วัน
โดยคำสั่งดังกล่าวจะห้ามไม่ให้พลเมือง และบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมกับ TikTok
รวมถึงแอปอื่นที่ ByteDance เป็นเจ้าของ
โดยคำสั่งดังกล่าวจะห้ามไม่ให้พลเมือง และบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมกับ TikTok
รวมถึงแอปอื่นที่ ByteDance เป็นเจ้าของ
ทางเลือกที่อาจเหลืออยู่ก็คือ ByteDance ต้องขาย TikTok ให้กับบริษัทอื่น ที่ไม่ใช่บริษัทจากจีน
และมีความเป็นไปได้ว่า TikTok อาจจะถูกขายให้กับ “Microsoft” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน
และมีความเป็นไปได้ว่า TikTok อาจจะถูกขายให้กับ “Microsoft” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน
เรื่องนี้ไม่หยุดแค่ TikTok และ ByteDance เพียงเท่านั้น
แต่ยังลามมาถึง “WeChat” แอปแช็ตยอดนิยมจากจีน ที่อยู่ในรายชื่อโดนแบนในสหรัฐฯ ด้วย
ซึ่งเจ้าของ WeChat ก็คือ “Tencent” บริษัทพัฒนาเกมและเทคโนโลยีสัญชาติจีนอีกเช่นเคย
ซึ่ง Tencent เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่สุดในจีน ก็หนีไม่รอดจากเรื่องนี้เช่นกัน
แต่ยังลามมาถึง “WeChat” แอปแช็ตยอดนิยมจากจีน ที่อยู่ในรายชื่อโดนแบนในสหรัฐฯ ด้วย
ซึ่งเจ้าของ WeChat ก็คือ “Tencent” บริษัทพัฒนาเกมและเทคโนโลยีสัญชาติจีนอีกเช่นเคย
ซึ่ง Tencent เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่สุดในจีน ก็หนีไม่รอดจากเรื่องนี้เช่นกัน
จากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้บริษัทเทคโนโลยีจากจีน
ได้มีโอกาสแจ้งเกิดและเติบโตในเวทีโลกได้ง่ายๆ
ดูเหมือนว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้บริษัทเทคโนโลยีจากจีน
ได้มีโอกาสแจ้งเกิดและเติบโตในเวทีโลกได้ง่ายๆ
จากที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า บริษัทจากจีนรายไหนที่กำลังโดดเด่น
ก็มักจะโดนแบนในสหรัฐฯ แทบทั้งสิ้น
ก็มักจะโดนแบนในสหรัฐฯ แทบทั้งสิ้น
แต่ความจริงแล้ว ก็ไม่ใช่สหรัฐฯ ที่แบนจีนอยู่ฝ่ายเดียว
เพราะอย่างที่หลายคนรู้กันว่า
แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มจากสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น Facebook, Instagram, Twitter, Google
ก็ถูกแบนในประเทศจีน มาตั้งนานแล้ว เช่นกัน..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-08-07/trump-signs-tiktok-ban-as-u-s-boosts-pressure-for-sale-of-app?sref=Wmf2L5h5
-https://www.statista.com/statistics/1100836/number-of-us-tiktok-users/#:~:text=TikTok%3A%20number%20of%20users%20in%20the%20United%20States%202019%2D2024&text=In%202019%2C%20social%20video%20app,45.4%20million%20users%20in%202020.
-https://techsauce.co/news/full-timeline-on-how-and-why-is-huawei-banned
-https://www.theverge.com/2020/5/13/21257675/trump-extends-huawei-ban-may-2021-china-us-android-google-telecom
เพราะอย่างที่หลายคนรู้กันว่า
แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มจากสหรัฐอเมริกา อย่างเช่น Facebook, Instagram, Twitter, Google
ก็ถูกแบนในประเทศจีน มาตั้งนานแล้ว เช่นกัน..
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-08-07/trump-signs-tiktok-ban-as-u-s-boosts-pressure-for-sale-of-app?sref=Wmf2L5h5
-https://www.statista.com/statistics/1100836/number-of-us-tiktok-users/#:~:text=TikTok%3A%20number%20of%20users%20in%20the%20United%20States%202019%2D2024&text=In%202019%2C%20social%20video%20app,45.4%20million%20users%20in%202020.
-https://techsauce.co/news/full-timeline-on-how-and-why-is-huawei-banned
-https://www.theverge.com/2020/5/13/21257675/trump-extends-huawei-ban-may-2021-china-us-android-google-telecom