ราคาทองขึ้น แล้วร้านขายทอง กำไร หรือ ขาดทุน? / โดย ลงทุนแมน

ทองคำ กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อนแรงที่สุดในช่วงเวลานี้

หากนับตั้งแต่ต้นปี มูลค่าทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วถึง 28%

พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ใครหลายคนที่ถือทองอยู่ในมือ แห่กันขายทองเพื่อทำกำไร

คำถามที่ตามมาก็คือ พอเราแห่กันไปขายทอง
แล้วร้านทอง จะกำไร หรือ ขาดทุน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
คำตอบที่ได้ก็คือ โดยปกติแล้ว ร้านทองจะ “ไม่ได้คาดหวัง” กำไรหรือขาดทุน จากราคาทองที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราลองมาดูตัวอย่างผลประกอบการ
ผู้ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ในประเทศไทย

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัซ
ปี 2560
รายได้ 410,611 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 410,430 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 37 ล้านบาท

ปี 2561
รายได้ 436,707 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 436,471 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 42 ล้านบาท

ปี 2562
รายได้ 560,738 ล้านบาท
ต้นทุนขาย 560,512 ล้านบาท
กำไร 48 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าแม้ธุรกิจค้าทองจะมีรายได้สูง
แต่บริษัทก็มีต้นทุนขายที่สูงตามไปด้วย
โดยที่บริษัทจะมีต้นทุนขายสูงถึง 99.95% ของรายได้

นั่นก็เพราะว่าโมเดลของธุรกิจร้านทองนั้น ไม่ต่างอะไรกับร้านรับแลกเงินตราต่างประเทศ หรือนายหน้าค้าหลักทรัพย์ เพราะเป็นเพียงตัวกลางในการจับชนระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

ร้านรับแลกเงินที่บริหารความเสี่ยงได้ดี จะไม่ได้มีหน้าที่เก็งค่าเงินว่าจะแข็งหรืออ่อน แต่กินส่วนต่างจากราคาซื้อ-ขาย

นายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่บริหารความเสี่ยงได้ดี จะไม่ได้มีหน้าที่เก็งว่าหุ้นตัวไหนจะขึ้น แต่กินค่าธรรมเนียมจากการซื้อ-ขายหลักทรัพย์

ร้านทองก็เช่นกัน..

วันไหนที่ทองราคาถูก ร้านทองก็จะซื้อถูก ขายถูก แล้วกินส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ-ขาย

วันไหนที่ทองราคาแพง ร้านทองก็จะซื้อแพง ขายแพง นั่นเอง

ทีนี้ เมื่อเราหักค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ดอกเบี้ย และภาษีเงินได้แล้ว
บริษัทก็จะมีอัตรากำไรสุทธิคล้ายเดิม

ซึ่งนอกจากรายได้ส่วนต่างระหว่างราคาซื้อขายแล้ว ร้านทองบางร้านก็อาจจะมีรายได้เพิ่มเติมจากค่ากำเหน็จ หรือดอกเบี้ยจากการจำนำทองได้ เช่นกัน

ถึงตรงนี้ เราสามารถสรุปได้ว่าไม่ว่าราคาทองคำจะขึ้นหรือลง

ผู้ที่ทำธุรกิจร้านทองซื้อมา ขายไปก็จะไม่ได้รับผลกระทบ และจะได้ส่วนต่างทุกครั้งที่มีการซื้อขาย
เพียงแต่ต้องรักษาความเสี่ยง โดยการรักษาปริมาณสต็อกทองคำในมือให้คงเดิม
โดยบริหารไม่ให้ซื้อมากกว่าขาย หรือขายมากกว่าซื้อจนเกินไป

แล้วในช่วงที่ราคาทองผันผวนรุนแรงอย่างในช่วงนี้
ร้านทองจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?

ผลกระทบที่เราเห็นได้ในช่วงตลาดทองคึกคักก็คือ สต็อกทองที่อาจจะไม่เพียงพอ หรือ สต็อกทองมีล้นเกิน

ในสถานการณ์ปกติ ร้านทองก็จะมีออร์เดอร์ทั้งฝั่งซื้อ และฝั่งขายซึ่งก็บริหารได้ไม่ยาก

ในทางกลับกัน หากวันนั้น มีแต่คนแห่กันมาซื้ออย่างเดียว หรือขายอย่างเดียว

ร้านทองก็อาจจะไม่สามารถรับออร์เดอร์ได้ทั้งหมด

ซึ่งในกรณีที่มีคนมาแห่ซื้อ
ร้านทองก็ยังสามารถไปซื้อทองจากผู้ขายส่งเพื่อตอบสนองออร์เดอร์ที่ล้นเข้ามาได้

แต่ในกรณีที่มีแต่คนมาขาย
ร้านทองก็อาจจะไม่มีเงินสดในมือมากพอที่จะรับซื้อ หรือหาคนที่จะไปขายต่อได้ทัน
จนทำให้ที่ผ่านมา เราก็มีโอกาสได้เห็นร้านทองบางร้านปิดรับซื้อทองในช่วงที่ตลาดทองปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรง นั่นเอง..

ถึงตรงนี้ หากมีใครมาถามเราว่า..
ราคาทองขึ้นมาขนาดนี้ ร้านทองจะได้กำไร หรือขาดทุน

เราก็น่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
ว่าร้านทองทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง
ซึ่งจะได้ส่วนต่างในทุกๆ การซื้อขายทอง

ดังนั้นสิ่งที่ร้านทองต้องการ
ไม่ได้ต้องการให้ราคาทองขึ้นหรือลง
แต่ต้องการให้ตลาดคึกคัก และมีคนมาซื้อ-ขายทองบ่อยๆ เพื่อกินส่วนต่าง ก็เท่านั้นเอง..
----------------------
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman